คสช.เรียกผู้ประกอบการโทรทัศน์เข้าพบวันนี้ (24 พ.ค.) พร้อมสั่งห้ามปล่อยให้มีการแสดงความคิดเห็นผ่านทางเอสเอ็มเอสหน้าจอ รวมไปถึงการโฟนอินเข้ารายการ หากพบฝ่าฝืนโดนโทษแน่ ส่วนฟรีทีวีอนุญาตให้ออกอากาศตามปกติแล้ว
โดยเมื่อเวลา 16.00 น. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีคำสั่งเรียกให้ผู้ประกอบการโทรทัศน์ อาทิ ช่องฟรีทีวีทั้งในระบบทีวีแอนาล็อก ทีวีดิจิตอล ทีวีดาวเทียม เคเบิลทีวี และผู้ให้บริการทีวีผ่านกล่องที่รับสัญญาณอินเทอร์เน็ต (ไอพีทีวี) เข้ารับทราบหลักการปฏิบัติตาม ประกาศ คสช. พล.ต.สุชาติ ผ่องพุฒิ รองเจ้ากรมการทหารสื่อสาร และหัวหน้าคณะทำงานติดตามสื่อ คสช. กล่าวว่า ในการหารือดังกล่าวเป็นการชี้แจงให้แก่ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ทุกประเภทให้รับทราบหลักการปฏิบัติตาม ประกาศ คสช. ในฉบับที่ 14 และ 18 ว่าด้วยเรื่องการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารไปสู่ประชาชน โดยในการชี้แจงกับผู้ประกอบการโทรทัศน์ยังได้ขอความร่วมมือ ให้มีการนำเสนอเนื้อหารายการที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง จนนำไปสู่ให้เกิดการยั่วยุ เกิดการแตกแยกทางสังคม หรือก่อให้เกิดการบิดเบือนในการรับข้อมูลข่าวสาร
ทั้งนี้ จะเน้นหนักในการควบคุมผู้จัดรายการต่างๆ ให้เป็นไปในทางสร้างสรรค์ รวมทั้ง คสช. ยังขอความร่วมมือผู้ประกอบการโทรทัศน์ ห้ามไม่ให้มีการขึ้นข่าวหรือข้อความตัววิ่งด้านล่างจอภาพ การเปิดให้ประชาชนทั่วไปส่งข้อความ (SMS) เข้ามาแสดงความคิดเห็น และห้ามให้มีการต่อสายหรือโฟนอินเข้ามาแสดงความคิดเห็นในรายการโทรทัศน์อย่างเด็ดขาด เนื่องจากบุคคลภายนอกอาจไม่มีความรับผิดชอบมากพอในการแสดงความคิดเห็น จนอาจเป็นผลร้ายต่อสถานีโทรทัศน์ได้
“หากเราพบสถานีโทรทัศน์ใดฝ่าฝืนคำสั่งนี้ คสช.จะใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก ตามลำดับ เริ่มตั้งแต่ เตือน เรียกพบ และปิดในที่สุด”
ขณะที่ประเภทโทรทัศน์ที่ คสช. อนุญาตให้ออกอากาศแล้วในเวลานี้ได้แก่ ช่องฟรีทีวีเดิมในระบบแอนาล็อก 6 ช่อง ช่องรายการฟรีทีวีในระบบทีวีดิจิตอล 23 จาก 24 ช่องรายการ ทีวีดาวเทียม เคเบิลทีวี และไอพีทีวี โดยทีวีดาวเทียม เคเบิลทีวี และไอพีทีวี ในช่วงเวลานี้จะอนุญาตให้สามารถออกอากาศได้เฉพาะที่เป็นของผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ในระบบบอกรับสมาชิกเท่านั้น
ส่วนช่องทางการออกอากาศอื่นๆ รวมทั้งในส่วนช่องวอยซ์ทีวี และช่องรายการโทรทัศน์อื่นๆจำนวน 14 ช่อง และวิทยุชุมชนที่ได้มีคำสั่งระงับการออกอากาศไปก่อนหน้านี้ จะยังไม่ให้ออกอากาศในเวลานี้ และจะนำมาพิจารณาใหม่ในภายหลัง
อย่างไรก็ดีข้อมูลจากผู้ประกอบการโทรทัศน์ล่าสุด ระบุว่า ปัจจุบันมีช่องรายการทีวีที่สามารถออกอากาศตามปกติได้แล้วจำนวน 274 ช่องรายการเนื่องจากมีเนื้อหาสาระที่ไม่ได้ขัดต่อประกาศคสช.
ที่มา: manager.co.th