Author Topic: “เจสัน ยัง” โต้ข่าวบวชหนีงานแต่ง โพล่งตั้งใจจะไม่แต่งอยู่แล้วตั้งแต่แรก  (Read 1008 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


      “เจสัน ยัง” โต้ข่าวบวชไม่มีกำหนดสึกเพราะอยากหนีการแต่งงาน เผยตั้งใจจะไม่แต่งอยู่แล้วตั้งแต่แรก พร้อมรับไม่เคยบอกอดีตคู่หมั้นว่าจะไม่แต่งงานกัน แต่เชื่อตอนนี้อีกฝ่ายน่าจะทราบแล้วจากข่าวต่างๆ ที่ออกไป พร้อมแจงความเป็นดาราทำให้บวชแล้วไม่สงบอย่างที่คิดจึงสึกดีกว่า
       
       เคยตกเป็นข่าวช็อกวงการไปเมื่อครั้งที่นักแสดงหนุ่ม “เจสัน ยัง” ได้มีการถอนหมั้นกับ “น.ส.ดาริกา จาโกต้า” คู่หมั้นสาวลูกครึ่งไทย-อินเดีย เมื่อปลายเดือน มิ.ย. 2555 เพราะต้องการจะบวชไม่สึก ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ต่างๆ ตามมามากมาย กระทั่งต้นปีที่ผ่านมาเจ้าตัวก็ตัดสินใจสึกจากผ้าเหลืองออกมาใช้ชีวิตฆราวาสแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย หลังจากบวชได้เกือบ 2 ปี ทำเอาหลายคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น กับประเด็นดังกล่าวหนุ่มเจสันได้เผยในงานบวงสรวง Club Friday The Series 4 ที่ตึกแกรมมี่ โดยถามกลับว่าตนพูดตอนไหนว่าจะบวชตลอดชีวิต
       
       “เอาเป็นว่าผมพูดตอนไหน อย่างที่ผมเคยบอกไปแล้ว ก็หลายคนเอาไปตีความกันแล้วก็เข้าใจเป็นอย่างนั้น ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ออกมาจากปากของผม ผมไม่เคยพูดว่าผมจะบวชตลอดชีวิต ผมจะไม่สึก ผมก็ทำหน้าที่ของผมคือบวชไปเรื่อยๆ วันนึงที่ผมจะสึกผมก็ไม่อยากจะออกมาชี้แจงว่าเพราะอะไร ผมว่ามันไม่เหมาะ”
       
       “ตอนนั้นเราเป็นพระภิกษุด้วย อยู่ในพระวินัย มีครูบาอาจารย์ ฉะนั้นผมก็อยู่เฉยๆ ดีกว่า ก็ดูจิต ดูใจเราไป ก็ปฏิบัติธรรมไป ผมพูดไม่ได้หรอกครับว่าตัวเองเข้าถึงธรรมหรือไม่เข้าถึงธรรม เอาเป็นว่าผมเข้าใจกลไกของธรรมชาติว่ามันเป็นเช่นนั้นเอง มันก็เป็นแบบนี้ ไม่ว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น หรือจะเปลี่ยนแปลงไม่แน่นอน มันก็เป็นธรรมชาติ เราก็รับได้”
       
       ต่อกระแสวิจารณ์ที่ออกมาว่าที่ตอนแรก “เจสัน ยัง” บวชไม่มีกำหนดเพราะอยากหนีการแต่งงาน กับเรื่องนี้เจ้าตัวบอกแม้จะไม่มีการบวชก็ไม่มีการแต่งงานเกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่เพราะสาเหตุอะไรนั้นไม่อยากลงลึก
       “(หัวเราะ) จริงๆ ต้องแยกนะ มันเป็นคนละประเด็นกัน เรื่องบวชก็ประเด็นนึง เรื่องตรงนั้นก็ประเด็นนึง มันรวมกันไม่ได้ มันคนละเรื่องกัน ถึงผมจะไม่ได้บวชนานขนาดนี้ แต่เรียกว่างานแต่งงานก็จะไม่มีขึ้นอยู่แล้ว ผมเป็นคนเลือกที่จะเป็นอย่างนี้ครับ แต่ก็ไม่ได้คุยกับเขา(อดีตคู่หมั้น)ว่าจะแบบนี้ แต่ตอนนี้เขาก็ต้องทราบแล้ว ก็ต้องดูข่าว ผมคงไม่ขอไปเจาะลึกถึงรายละเอียดแล้วกัน เพราะมันก็ผ่านมาแล้ว และผมก็ไม่มีอะไรจะพูดด้วย”
       
       “คือบวชนี่เราบวชอยู่แล้วเพราะมันมีกำหนด พอบวชไปเราก็อยากที่จะบวชต่อ อยากที่จะศึกษาพระธรรมต่อ เราก็บอกว่าถ้าเราต่อเราก็ไม่รู้ว่าเราจะต่อได้อีกนานแค่ไหน เราแค่ทำให้มันดีที่สุด ซึ่งเราเองไม่เคยบอกว่าเราจะบวชตลอดชีวิตหรือบวชแล้วไม่สึก เราแค่ตั้งใจอยากจะบวชให้ยาวนานที่สุด เราบวชแล้วเราปฏิบัติ เราอยู่ในพระธรรมวินัย เรามีครูบาอาจารย์ เราไม่ได้อยู่ไปวันๆ หรือทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง ตอนอยู่ในผ้าเหลืองเราก็ทำความดี ไม่ให้ด่างพร้อย ก็อยู่มาได้ 1 ปี 9 เดือน เราก็รู้สึกกว่าเราอิ่มตัวแล้ว ทางนี้เราเรียนรู้ได้ประมาณนี้ เราโอเคเราแฮปปี้แล้ว ก่อนหน้านั้นเรื่องราวที่เกิดขึ้น ถ้าผมออกไปเร็วกว่านี้งานที่กำลังจะเกิดขึ้นก็คงไม่ได้เกิดขึ้นอยู่แล้ว มันคนละประเด็นกัน”
       
       “ก็นานาจิตตังนะครับ คนเราก็มโนกันเก่ง(หัวเราะ) ก็คิดประติดประต่อกันไปต่างๆ นานา คือถ้าผมพูดใครจะเชื่อผม ก็คงจะมีทั้งคนเชื่อและคนไม่เชื่อ แต่ที่ผมพูดผมไม่ได้ต้องการให้ใครมาเชื่อผม ผมก็พูดความจริงของผมว่ามันเป็นคนละเรื่องกัน ผมบวชเพราะว่าผมศรัทธา อยากจะอยู่ต่อให้นานที่สุด อุทิศบุญกุศลให้กับพ่อแม่ของผม ปฏิบัติธรรมศึกษาหาความรู้จากครูบาอาจารย์เพื่อที่จะเป็นเกราะป้องกัน อย่างที่ผมออกมาถ้าผมเป็นทุกข์ นั่นคือผมสอบไม่ผ่าน ผมเจอสิ่งกระทบ ผมเย็นใจได้ ใจผมเย็น ผมก็ถือว่าผมสอบผ่านนะในระดับนึง”
       
       ลั่นตอนนี้ขอทำงานเต็มที่ก่อนยังไม่ฟันธงจะกลับไปบวชอีกหรือไม่ แต่สาเหตุที่สึกส่วนหนึ่งมาจากบวชแล้วไม่สงบอย่างที่คิดเพราะความมีชื่อเสียงที่ติดตัวมาก่อนบวช
       “ตอนนี้ก็กลับมารับงานเต็มตัว นี่เดี๋ยวมีงานละครกับช่อง 3 อีก 3 เรื่อง เรื่องที่จะกลับไปบวชมันก็ยังไม่แน่นอนครับ บวชแล้วสงบ แต่ด้วยความที่เรามีชื่อเสียงติดตัวมา ก็ไม่ได้สงบอย่างที่เราคาดหวังไว้ เมื่อเรามีชื่อเสียงติดตัวมา ไปไหนมาไหนคนก็ค่อนข้างที่จะจับจ้อง การขอถ่ายรูปนี่เป็นเรื่องปกติเลย เขายังคิดว่าเราเป็นดาราอยู่ เขาลืมไปว่าเราเป็นพระ อย่างสีกาบางทีก็จะมีเผลอตัวมาใกล้มาก ซึ่งเราจะต้องคอยระวังเป็นพิเศษ แม้จะวุ่นวายแต่ถ้าข้างในเราไม่วุ่นวายมันก็สงบ แต่ก็ดีใจที่ผมได้ช่วยงานพระพุทธศาสนาที่แคนาดา แล้วก็กลับมาเมืองไทย สุดท้ายได้ไปประเทศนิวซีแลนด์ ก็ถือว่าได้ทำเต็มที่แล้ว”
       
       “หลายคนจะเข้าใจว่าการเข้าวัดเป็นการได้ใกล้ชิดพระศาสนา แต่จริงๆ แล้วเราอยู่ที่ไหนเราก็ใกล้ชิดพระศาสนาได้ อย่างทุกคนทำได้ง่ายๆ คือการปฎิบัติหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด อยู่ในศีลในธรรม ก็จะพาเราให้มีความสุข ฉะนั้นทุกคนปฎิบัติธรรมได้อยู่แล้ว ถ้าเราบวชได้เราก็บวช จะบวชได้นานแค่ไหนเราก็ทำของเราให้เต็มที่ บวชไม่ได้ก็กลับออกมามันก็เป็นเรื่องปกติ ใครบวชได้นานก็ถือว่าดี เป็นเนื้อนาบุญของโลก”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)