นายอนิศ โอสถานุเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิจิทัล ฮับ จำกัด ดิจิทัล ฮับ พร้อมรุกตลาดโฆษณาดิจิตอล หลังมองเห็นแนวโน้มการใช้งานอินเทอร์เน็ตของผู้บริโภคเติบโตขึ้นตามเครือข่ายมือถือ พร้อมชิงส่วนแบ่งตลาดรวมที่มีมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท ชี้เบื้องต้นจะทำตลาดภายในให้กับลูกค้าของโอสถสภาบริษัทแม่ ก่อนขยายไปสู่ภายนอก ตั้งเป้ายอดปีแรก 120 ล้านบาท มั่นใจทำได้แน่เพราะมีลูกค้าในมืออยู่แล้ว
นายอนิศ โอสถานุเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิจิทัล ฮับ จำกัดในกลุ่มบริษัท ฟิวเจอร์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมิวนิเคชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด (FMCG) ในเครือบริษัท โอสถสภา โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ดิจิทัล ฮับ พร้อมเข้ามาทำตลาดโฆษณาดิจิตอลที่ปัจจุบันมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโอกาสทางการตลาดเกิดจากในปัจจุบันผู้บริโภคหันมาสนใจสื่อดิจิตอลเพิ่มมากขึ้น และมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตกันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะการเข้ามาของเครือข่าย 3G และ 4G ที่เริ่มขยายวงกว้างไปเรื่อยๆ ดิจิทัล ฮับ เป็นดิจิตอลเอเจนซี่ คือหนึ่งในบริษัทลูกของโอสถสภา โดยบริษัทจะเข้ามาดูแลลูกค้าเดิมที่ FMCG ดูแลอยู่ แต่มีความต้องการใช้สื่อดิจิตอลเป็นตัวสื่อสารการตลาดไปถึงลูกค้า ซึ่งการทำงานจะมุ่งเน้นการสร้างสรรค์โฆษณาผ่านสื่อดิจิตอล โดยดูตามผลิตภัณฑ์ว่าจะทำอย่างไรจึงจะเหมาะสม รวมไปถึงการวางแผนสื่อและโซเชียลมีเดีย อาทิ เฟซบุ๊ก ซึ่งสามารถทำให้เป็นวันสต็อปชอปปิงทำให้ลูกค้าทั้งหมด
“ปัจจุบันมูลค่าตลาดรวมโฆษณามีมูลค่าประมาณ1 แสนล้านบาท ตลาดโฆษณาดิจิตอล มีมูลค่าประมาณ 4% หรือคิดเป็นเงินราว 4,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10% ในทุกๆ ปี โดย ดิจิทัล ฮับมีเป้าหมายรุกธุรกิจโฆษณาดิจิตอล เต็มรูปแบบ และตั้งเป้ายอดรายได้ในปีนี้ไว้ที่ 120 ล้านบาท ซึ่งไตรมาสแรกที่ผ่านมาสามารถทำรายได้แล้วประมาณ 20 ล้านบาท”
นายอนิศ กล่าวว่า ทั้งนี้บริษัทมั่นใจว่าไตรมาสที่เหลือนับจากนี้จะสามารถสร้างรายได้ให้ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากในขณะนี้มีลูกค้าอยู่ในมือพอสมควรแล้ว และขณะนี้ได้มีการเพิ่มจำนวนบุคคลากรให้เพียงพอต่อการตอบสนองความต้องการของลูกค้าในตลาดอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันลูกค้าดิจิทัล ฮับ สัดส่วน 60% เป็นลูกค้ากลุ่ม FMCG และอีก 40% เป็นลูกค้าใหม่ ซึ่งแนวโน้มของกลุ่มลูกค้าใหม่จะมีการเติบโตเพิ่มมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
นายสรนัฐ อุนะพำนัก รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิจิทัล ฮับ ด้านนายสรนัฐ อุนะพำนัก รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิจิทัล ฮับ กล่าวว่า จุดเด่นของดิจิทัล ฮับ อยู่ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านโฆษณาดิจิตอล โดยมีความสามารถในการ คิดสร้างสรรค์งานโฆษณา ที่สามารถกระทบต่อความรู้สึกของผู้บริโภค รวมทั้งการกำหนดช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม ของการเผยแพร่โฆษณาดิจิตอล ไปยังกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งที่ผ่านมาผลงานโฆษณาดิจิตอลมีผลสำเร็จและเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง และให้ผลดีกว่าโฆษณาประเภท สื่อโทรทัศน์ วิทยุ และสิ่งพิมพ์
ทั้งนี้ ผลงานที่ประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ของดิจิทัล ฮับ คือ THE KILLER'S HOUSE BY OPPO N1 “Webisode”หรือการสร้างละครซีรี่ส์เพื่อออกอากาศบนเว็บไซต์ แทนการสร้างเป็นรูปแบบโฆษณาเผยแพร่ทางโทรทัศน์ โดย “Webisode” ต่างจากภาพยนต์โฆษณาทั่วไปตรงที่เป็นสื่อที่ใช้ต้นทุนการผลิตถูกกว่า เพราะการออกอากาศของภาพยนต์โฆษณาผ่านTVC นั้นคิดค่าออกอากาศเป็นวินาทีและมีมูลค่ากว่า 1 แสนบาทขึ้นไป
แต่สำหรับ Webisode จะไม่มีค่ามีเดีย และเนื้อเรื่องจะยาวเท่าไรก็ได้ เพราะใช้เผยแพร่ลงไว้ที่Youtube,Facebookหรือเว็บฝากวิดีโอรายอื่นๆ แล้วก็สามารถนำไป “แปะ” ไว้ที่เว็บของแคมเปญหรือที่ใดๆ ก็ได้ให้ผู้ใช้คลิกเข้าดูได้ทางอินเทอร์เน็ตได้
นอกจากนี้ จุดเด่นอีกประการหนึ่งที่น่าสนใจคือระยะเวลาการรับสื่อVDO Content ยาวนานกว่าภาพยนต์โฆษณาในTVC ส่งผลให้การ Engagement หรือความผูกพันต่อแบรนด์นั้นมีมากขึ้นตาม และยังได้ถ่ายทอดเนื้อหาที่ต้องการได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องการโชว์ตัวสินค้า องค์ประกอบของสินค้า และเรื่องราวของสินค้า เพื่อสร้างการรับรู้และผูกพันกับตัวแบรนด์
ที่มา: manager.co.th