ทวิตเตอร์ (Twitter) ประกาศเปิดเสรีให้ผู้ใช้ทั่วโลกได้ใช้งานหน้าโปรไฟล์ใหม่ทุกคนเมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมาตัวอย่างหน้าโปรไฟล์ใหม่ของสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐอเมริกา "มิเซล โอบามา" เครือข่ายสังคมข้อความสั้นอย่างทวิตเตอร์ (Twitter) ประกาศเปิดเสรีให้ผู้ใช้ทั่วโลกได้ใช้งานคุณสมบัติใหม่พร้อมกันทุกคนเมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา คุณสมบัติใหม่คือหน้าประวัติส่วนตัวหรือหน้าโปรไฟล์ (profile) ซึ่งออกแบบให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มข้อมูลประวัติส่วนตัวและแสดงรูปภาพสะท้อนตัวตนได้มากขึ้นกว่าเดิม ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่าหน้าโปรไฟล์ใหม่ของทวิตเตอร์นี้ถอดแบบคู่แข่งอย่างเฟซบุ๊ก (Facebook) มาอย่างกับแกะ หน้าโปรไฟล์ใหม่ของทวิตเตอร์นั้นออกแบบให้ผู้ใช้ตั้งค่าแสดงภาพใหญ่ไว้ด้านบนสุดของหน้า ขณะที่ประวัติและข้อมูลส่วนตัวสามารถแสดงเพิ่มเติมได้ที่ด้านซ้าย โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์สามารถปักหมุดข้อความทวีตที่ชื่นชอบได้ เพื่อให้ระบบแสดงไว้กึ่งกลางของหน้า รวมถึงติดตามสถิติการโพสต์หรือจำนวนผู้ติดตามได้จากเมนูบริเวณเหนือไฮไลต์ข้อความทวีตหลัก
การเปิดให้ผู้ใช้ทั่วโลกใช้งานหน้าโปรไฟล์ใหม่นี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทวิตเตอร์ทดลองเริ่มให้บริการแก่ผู้ใช้บางกลุ่มก่อนตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งแม้ดีไซน์เหล่านี้จะถูกวิจารณ์ว่ามองแล้วให้ความรู้สึกเหมือนไทม์ไลน์ (Timeline) หรือหน้าหลักที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กทั่วโลกคุ้นเคยดี แต่ทวิตเตอร์ก็ไม่ใส่ใจ และออกแถลงการณ์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะทำให้โลกรู้จักผู้ใช้ทวิตเตอร์แต่ละรายมากขึ้น และทำให้ทุกคนสามารถสะท้อนตัวตนของตัวเองบนทวิตเตอร์ได้ง่ายกว่าเดิม
นอกจากการปักหมุดข้อความทวีตที่ชื่นชอบเพื่อแสดงไว้ด้านบนสุดของหน้า แต่โปรไฟล์ใหม่จะทำให้ผู้ใช้สังเกตได้ว่าข้อความทวีตใดมีความเคลื่อนไหวเช่นการถูกส่งต่อหรือการตอบกลับด้วยความถี่มากเป็นพิเศษ ซึ่งระบบบนหน้าโปรไฟล์ใหม่จะแสดงภาพหรือข้อความทวีตนั้นในขนาดใหญ่ขึ้น ขณะเดียวกัน ผู้ใช้จะสามารถเลือกได้ว่าจะรับข้อมูลทวีตในหน้าโปรไฟล์แบบใด โดยหน้าโปรไฟล์ใหม่จะกรองเฉพาะข้อความที่ผู้อ่านต้องการได้สะดวกสบาย ทั้งข้อความทวีตที่มีรูปภาพหรือวิดีโอประกอบ ข้อความทวีตธรรมดา หรือข้อความทวีตพร้อมข้อความตอบกลับ ทั้งหมดนี้ถือเป็นความสะดวกสบายที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์จะได้รับจากหน้าโปรไฟล์ใหม่
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าทวิตเตอร์จะไม่ได้จงใจถอดรูปแบบหน้าโปรไฟล์ของคู่แข่งมาเท่านั้น แต่ยังมีแนวโน้มว่าทวิตเตอร์จะเดินตามรอยธุรกิจของเฟซบุ๊กด้วย โดยที่ผ่านมาทวิตเตอร์เพิ่งประกาศว่าจะลงมาบุกตลาดเครือข่ายโฆษณาทั้งบนโมบายล์แอปพลิเคชันและบนทุกบริการของทวิตเตอร์อย่างจริงจัง
ความเคลื่อนไหวนี้ถือว่าเป็นภารกิจเร่งด่วนของทวิตเตอร์ ซึ่งต้องการกู้ภาพลักษณ์ของบริษัทให้สามารถทำรายได้มากกว่าที่เป็นอยู่ โดยไตรมาส 4 ปี 2013 ทื่ผ่านมาทวิตเตอร์ประกาศว่าสามารถทำเงินได้เพียง 243 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น ถือเป็นตัวเลขที่นักลงทุนมองว่าทวิตเตอร์มีศักยภาพทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตมากกว่านี้แน่นอน
ที่มา: manager.co.th