Author Topic: “ฟิลิป” ถามเวิร์คพอยท์ฯ พัฒนาหรือทำลาย?  (Read 802 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


    มายากลคนดัง “ฟิลิป” ลั่นฟังไม่ขึ้นหลังเวิร์คพอยท์ฯ แจงทำรายการช่วงเฉลยกลเพราะต้องการพัฒนานักมายากลไทยพร้อมให้ความรู้ชาวบ้าน เผย “ปัญญา” โทร.หาชิลๆ บอกไม่ได้ตั้งใจ พร้อมรับปากจะเปลี่ยนแปลง
       
          กลายเป็นประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจกันไม่น้อยทีเดียวต่อกรณีรายการ “ชิงร้อยชิงล้าน” ในช่วง “ว้าวว้าวว้าว” ได้นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับการเฉลยเคล็ดลับมายากลต่างๆ กระทั่งสร้างความไม่พอใจให้กับนักมายากลทั่วทั้งป­ระเทศไทยจนต้องรวมตัวกันยื่นจดหมายขอร้องให้รายการดังกล่าวหยุดการกระทำที่ว่ากระทั่งเกิดการโต้เถียงกันไป
       
          ซึ่งในขณะที่ฝ่ายหนึ่งให้เหตุผลว่าการกระทำเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องที่ถูกและทำให้นักมายากลเมืองไทยอยู่ยาก ขณะที่ฝ่ายเฉลยก็ยืนยันว่าการทำเช่นนี้จะทำให้วงการมายากลเมืองไทยพัฒนาขึ้น
       
          เรื่องราวทั้งหมดมีที่มาที่ไปอย่างไร? และจะหาจุดลงตัวได้ตรงไหนหรือไม่? ลองมาฟังความคิดเห็นจาก “ฟิลิป” (เฉลิมสวรรค์ ไพบูลย์พันธ์) หนึ่งในแกนนำคนสำคัญของทางฝั่งนักมายากล โดยนักมายากลคนดังเผยว่าจริงๆ แล้วการเฉลยเทคนิคการใช้เล่นกลนั้นถือได้ว่าเป็นข้อห้ามของนักมายากลเลยก็ว่าได้ เพราะเสน่ห์ของมายากลนั้นอยู่ตรงความลับ เมื่อไหร่ที่ความลับถูกเปิดเผยกลชุดนั้นก็จะสูญค่าไปเลย
          
          “ใครเขาอยากดูหนังสองรอบล่ะ ถ้าคุณรู้แล้วว่าตอนจบเป็นยังไง แล้วใครเขาอยากดูใช่ไหม...มาตรฐานของมายากลทั่วโลกเลย คือมายากลทั่วโลกจะมีสมาคมนักมายากล กฎเหล็กข้อที่ 1 ไม่เผยความลับ ข้อที่ 2 ไม่แสดงซ้ำกัน คือถ้าเราเล่นรอบสองไปแสดงว่าคุณอยากจับผิดมากกว่าว่าเล่นยังไง”
       
          “ส่วนข้อ 3 ไม่จับผิดกันเอง คือเวลาดูมายากลถ้าคุณรู้ความลับแล้วไปกระซิบบอกกัน ตรงนี้ถือว่าไม่ควร ส่วนข้อที่ 4 ก็เป็นเรื่องของการฝึกฝน”
       
          ก่อนเผยถึงเรื่องราวปัญหาที่เกิดขึ้น...“คือทางรายการชิงร้อยชิงล้าน เขาก็เอามายากลมาเปิดเผยเป็นปีแล้ว ก็มีคนโพสต์มาทางเฟซบุ๊ก มาทางโรงเรียน โทรมาหา มีเรื่องราวแบบนี้เราจะทำไงดี จนมันหนาหู...ก็เลยเกิดการรวมตัวในกลุ่มและตั้งเพจขึ้นมาในเฟซบุ๊ก มีการลงชื่อเพื่อต่อต้านการเผยแพร่มายากลทางทีวี”
       
          “ทางนั้นเขาก็รู้ แล้วก็มีฝ่ายครีเอทีฟเขาก็ตอบกลับมาว่า การทำเช่นนี้ก็เพื่อให้นักมายากลไทยเรามีการพัฒนาตัวขึ้น...ซึ่งฟังไม่ขึ้นเลย คือจะพัฒนาวงการมายากลแต่คุณให้คนไปเปิดเผยแค่นี้คุณก็ผิดจรรยาบรรณของนักมายากลแล้ว คุณทำลายน้ำใจจิตใจของนักมายากลที่นี่ ผมกราบเรียนเลยว่า เรามีสมาคม เรามีชมรม กฏเหล็กของเราก็คือห้ามเปิดเผยความลับของการแสดง”
       
          รับไม่สามารถเอาผิดทางกฏหมายอะไรได้...“เราไม่มีที่จะไปต่อสู้เขาได้ ทำอะไรไม่ได้พูดง่ายๆ คือเรื่องกฎหมายทำอะไรไม่ได้ แต่ที่เราทำก็เพื่อเตือนว่าที่ทำแบบนี้มันผิดกฎนักมายากลซึ่งในอดีตก็มีมาแล้ว 30 ปี...ยิ่งทางรายการเขาไม่ใช่นักมายากลยิ่งไม่สมควรทำเลย เพราะว่าคุณไม่รู้ลิมิตของการที่จะไปเฉลย อย่างพี่ก็มีการเฉลยบาง ถ้ามีโชว์เล็กๆ น้อยๆ เอาไว้สอนสนุกสนาน ซึ่งนักมายากลเขาจะรู้ว่าจะเฉลยได้ในขนาดไหน”
       
          เผยหลังส่งหนังสือท้วงติงรวมถึงไปออกรายการทีวีต่างๆ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น...“เขาก็ยังทำรายการเหมือนเดิม เพื่อนๆ ก็รายงาน ผมก็ไปเดลินิวส์ ทางนั้นก็บอกให้เขียนร้องเรียนมาเลย มีคอลัมน์อยู่ ก็เขียนไปประมานว่ามีทีวีรายการหนึ่งเฉลยมายากล ทำให้มีความเดือดร้อนกับวงการมายากลในเมืองไทยมาก ทำร้ายจิตใจนักมายากล ทำร้ายจิตใจผู้ชมทั่วประเทศ วงการมายากลไปแล้ว จิตใจมายากลไปแล้ว ซึ่งในวงการไม่มีใครมากล้าทำ แต่เป็นคนนอกกลับมาทำเราแบบนี้...”
       
          “ก็เขียนไปประมานนี้ คือเป็นอารมณ์ขอร้อง เพราะตอนนี้พวกผมจะอดตายแล้ว หลังจากที่ออกหนังสือพิมพ์ไปก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น ไปออกรายการคนดังนั่งเคลียร์ก็แล้ว ผมก็เลยเขียนจดหมายจ่าหน้าซองถึงคุณปัญญาและทางบริษัท เนื้อหาในจดหมายก็จะเรียนพี่ปัญญา เรื่องที่เปิดเผยทางมายากล ฝากพิจารณา ช่วงของรายการ ว้าว ว้าว ว้าว...”
       
          “ทางคุณปัญญาได้โทรศัพท์มาหา ก็พูดคุยสนุกสนาน...ผมก็ไม่ได้คิดว่าจะทำร้ายวงการมายากล เราก็เป็นเพื่อนกันทั้งนั้น จริงๆ ช่วงของอาจารย์คงวัตถุประสงค์หลักก็คือช่วยชาวบ้าน เราเฉลยเพราะจะได้ให้ชาวบ้านรู้เล่ห์กล รู้เล่ห์เหลี่ยม ไม่ให้คนไปตกหลุมของพวกมารศาสนา หรือว่าพวกเจ้าเล่ห์ทั้งหลาย เรื่องมายากลเราก็ไม่ได้รู้อะไรมาก เราแค่ไปดูตามหนังสือ มันก็ไม่น่าจะเดือดร้อนอะไรกัน”
       
          “อันนี้ก็เป็นเหตุผลที่ทางคุณปัญญาให้มา...ซึ่งผมไม่ได้โต้ตอบคุณปัญญาสักนิดเดียว รับฟังอย่างเดียว ทางนั้นก็บอกอย่าไปซีเรียสกับเรื่องพวกนี้ได้ไหม เรามาช่วยพัฒนาวงการมายากลกันดีกว่า ฟิลิปมีไอเดียดีๆ ผมยินดีสนับสนุน...ผมฟังแกไม่ขึ้นนะ แต่ผมก็เข้าใจเหตุผลของแก”
       
          “ผมเลยเสนอไปว่าให้พี่ปัญญาเน้นเรื่องกลวิทยศาสตร์มากๆได้ไหม อย่างเช่น น้ำเปลี่ยนสี ซึ่งกลพวกนี้มันเฉลยได้เพราะมันมีเยอะแยะเลย วงการวิทยศาสตร์ไม่เกี่ยวกับวงการมายากล พี่ปัญญาก็ไปเน้นเรื่องพวกนี้ดีกว่า ทางนั้นก็บอกว่าเอาเป็นว่าให้ฟิลิปกลับไปบอกกับพวกว่าทางผมจะเน้นทางวิทยาศาสตร์ให้มากขึ้นแล้วกัน แล้วช่วงการเฉลยกลผมอาจให้อาจารย์คงเบาๆ ลง”
       
          คาดหวังว่าอีกฝ่ายว่าจะทำได้แค่ไหน?
          “คือถ้าหยุดได้ยิ่งเป็นพระคุณเลย เพราะผมว่าฝ่ายครีเอทีฟหาเรื่องอื่นมาได้ หรือไม่ก็เอาเรื่องกลวิทยาศาสตร์เข้ามาอย่างที่บอก...แต่ก็พอใจและขอบคุณปัญญาที่โทร.มาคุย โทร.มาสนุกสนาน ถ้าแกเน้นกลวิทยาศาสตร์ไปก็ยินดี”
       
          สุดท้ายเจ้าตัวยอมรับว่าการที่นักมายากลส่วนใหญ่ออกมาเคลื่อนไหวเช่นนี้ก็กลัวถูกมองเหมือนกันว่าเป็นเรื่องจุกจิก เนื่องจากปัจจุบันเรื่องการเฉลยกลก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะในยุคไอทีเช่นนี้
       
          “แต่เราจะเห็นว่าส่วนใหญ่คือคนที่อยากรู้เรื่องมายากลมากกว่า เพราะส่วนใหญ่ถ้าคนไม่อยากเรียนรู้เขาจะไม่ค่อยเข้าไปอยู่แล้ว ผมต้องกราบเรียนว่านักมายากลทั่วโลกเขาเป็นพี่เป็นน้องกัน เพราะในวงการมายากลแต่ละประเทศเขาแชร์คลิปการเล่นมายากลกันในกลุ่มของนักมายากลด้วยกัน เพราะอันนี้คือการพัฒนาวงการมายากลของเขาจริงๆ”
       
          “แต่คุณเป็นคนนอกแล้วคุณไปเอาของเขามาเปิดเผยคุณคิดว่ามันถูกหรือเปล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอามาเปิดต่อสื่อสาธารณะ...นักมายากลรุ่นใหม่ๆ เขาไม่มีทุน เขาพึ่งเล่นต้นทุนไม่กี่หมื่น บางทีเรื่องที่เปิดเผยเราต้องมีการถามก่อนว่าเรื่องนี้เคยเฉลยไปหรือยัง ถ้ามีเราก็จะไม่ได้เล่น และร้านมายากลก็ขายของได้น้องลง เพราะบางชุดที่เขาเฉลยนั้นก็ไม่มีใครซื้อเท่าไหร่ มันกระเทือนไปหมด มันถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ของนักมายากล ถือว่าเป็นเรื่องทำมาหากินเลย”
       
          “มุมดีก็มีนะ แต่อาจจะเล็ก ถ้าอย่างนั้นครีเอทีฟก็จ้างนักมายากลไปเล่นทุกวันอาทิตย์ ไปโชว์เลย หรือจะให้เฉลยก็จ้างนักมายากลไปเลย จะได้อยู่ในขอบเขต นักมายากลจะได้มีงานทำเยอะๆ บ้านเรายุคผมกับยุคนี้ ยุคนี้เด็กมีความสนใจมายากลเยอะมาก สื่อยุคผมแค่วิดีโอ เดี๋ยวนี้สามารถเรียนเองได้เลย คนมีความสนใจเยอะ รวมถึงเทคนิคก็มีการพัฒนามาก ถ้าคุณไม่พัฒนาคุณก็ตาย ถ้าคุณเล่นอยู่กับที่คุณก็ตาย”
       
          “ส่วนประเภทของผู้ชม ประเภทที่จับผิดอยากรู้อยากเห็นก็มีเยอะ อันนี้เป็นธรรมชาติปกติอยู่แล้ว แต่คนดูใช่ศัตรู...ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องรอกันไปว่าทางปัญญาจะทำยังไงให้นักมายากลแฮปปี้กันทั่วประเทศ ผมคาดหวังไว้อย่างนั้น”
       
          (หมายเหตุ : ข้อมูลเนื้อหาเรียบเรียงจากรายการ Talkative ทางช่อง SUper บันเทิง)

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)