คืนเดียวหลังจากแอปเปิลปล่อย iOS 7.1 อย่างเป็นทางการ พบว่ายอดดาวน์โหลด iOS 7.1 ใน 45 ชั่วโมงแรกอยู่ที่ 12% หลังจากแอปเปิลได้เปลี่ยนโฉมระบบปฏิบัติการบนอุปกรณ์สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตใหม่หมดในรุ่น 7.0 ที่ผ่านมาพร้อมทิ้งปัญหาข้อผิดพลาดมากมายไว้ในตัวระบบปฏิบัติการที่ได้ชื่อว่า เป็นยุคใหม่ของแอปเปิลในแบบเรียบง่าย (Minimalist) แทนการออกแบบเน้นเสมือนจริง (Skeuomorphism) ปัญหาที่ค้างคาและสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบกับเรื่องความไม่สมบูรณ์ใน iOS 7.0 ได้เกิดขึ้นทั้งไอโฟนและไอแพดทุกรุ่น และแอปเปิลก็ทราบถึงปัญหาทั้งหมดอยู่แล้วตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2556 (iOS 7 Beta 5) แต่ด้วยการต้องเปิดตัวไอโฟน 5s ตามตารางเวลาเดิมทำให้จำเป็นต้องปล่อย iOS 7.0 ออกมาก่อนและใช้เวลาอีก 6 เดือนในการเก็บข้อมูลและศึกษาปัญหาที่เกิดขึ้นจาก iOS 7.0 พร้อมปรับแก้ไขใหม่และปล่อยให้ดาวน์โหลดพร้อมกันทุกดีไวซ์เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมาในชื่อ iOS 7.1
**iOS 7.1 ที่สาวกแอปเปิลรอคอย** แค่คืนเดียวหลังจากแอปเปิลปล่อย iOS 7.1 อย่างเป็นทางการได้มีรายงานจาก Chitika เว็บไซต์โฆษณาออนไลน์ของสหรัฐอเมริการายงานยอดดาวน์โหลด iOS 7.1 ใน 45 ชั่วโมงแรกอยู่ที่ 12% ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับตอน iOS 7.0.6 (13.3%) ถือว่าใกล้เคียงกันและคาดว่ายอดดาวน์โหลด iOS 7.1 จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมมั่นใจว่าผู้ใช้ iOS 7.0 ที่ปัจจุบันมีมากกว่า 80% ของผู้ใช้อุปกรณ์ iOS ทั้งหมดจะอัปเดตเป็น iOS 7.1 ภายในเดือน มี.ค.นี้ทั้งหมด
เพราะนี่คือ iOS ที่สาวกแอปเปิลรอคอยมาตลอด 6 เดือน จากปัญหาเครื่องช้าและหน่วงที่เกิดขึ้นในไอโฟน 4 ไอโฟน 4s ไอโฟน 5 ไอแพด 2 และไอแพด มินิ รุ่นแรกจะถูกแก้ไขใน iOS 7.1 แบบเฉพาะเจาะจงจากแอปเปิลอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน โดยเฉพาะ ไอโฟน 4 ที่ช้าและหน่วงจนแทบใช้งานไม่ได้ โดยแอปเปิลรายงานในเอกสารชุดที่แนบติดมากับอัปเดต iOS 7.1 อย่างเฉพาะเจาะจงว่า “จะปรับปรุงประสิทธิภาพและการทำงานบนไอโฟน 4 ทั้งหมด”
โดยใช้วิธีบังคับเปิดออปชันลดการเคลื่อนไหว (Reduce Motion) รวมถึงปรับเปลี่ยนเอฟเฟกต์ ความโปร่งใสของหน้าต่างโฟลเดอร์และแถบสถานะใหม่หมด ทำให้การบริโภคหน่วยความจำลดลง
นอกจากนั้น ทางแอปเปิลยังปรับออปชันลดการเคลื่อนไหวในส่วนเทคนิค Perspective Zoom ที่แต่เดิมจะมีผลต่อภาพพื้นหลังที่สามารถขยับตามการเคลื่อนไหวของตัวเครื่อง เพื่อสร้างมิติภาพ (Parallax Effect) โดยใน iOS 7.1 ผู้ใช้สามารถเลือกปิดออปชันนี้ได้จากหน้าภาพพื้นหลังซึ่งจะช่วยลดการใช้พลังงานของตัวเครื่องได้พอสมควร
**ภาษาไทยปรับเปลี่ยนใหม่หมด** เป็นประเด็นที่ผู้ใช้ iOS คนไทยดีใจมากที่สุด เพราะจากเดิมแอปเปิลตั้งใจเพิ่มรูปแบบฟอนต์สุขุมวิท (ไร้หัว) รวมไปกับฟอนต์ธนบุรี (มีหัว) เดิมที่ใช้ตั้งแต่ iOS รุ่นแรกมาจนเป็นเหตุให้การถอดรหัสภาษาไทยและการตัดคำเกิดปัญหาจนทำให้เครื่องช้าและค้างไปถึงแอปพลิเคชันบางตัวใช้ฟอนต์ทั้งสองตัวคละกันไม่เป็นระเบียบ
สุดท้ายเพื่อเป็นมาตรฐานเดียวกัน ทางแอปเปิลจึงเลือกตัดฟอนต์ภาษาไทยสุขุมวิทออกไปและเปลี่ยนการถอดรหัสโค้ดให้เลือกใช้เฉพาะฟอนต์ธนบุรีแบบมีหัวเหมือนเดิม ซึ่งช่วยให้การพิมพ์ข้อความและการอ่านทำได้รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะการเข้าเว็บไซต์ภาษาไทยผ่าน Safari แทบไร้อาการค้าง ช้า หน่วงอย่างที่เคยเกิดขึ้นใน iOS 7.0 ที่ผ่านมา
**กล้องถ่ายภาพฉลาดขึ้น** สำหรับผู้ใช้ไอโฟน 5s เมื่ออัปเดตเป็น iOS 7.1 การใช้งานกล้องถ่ายภาพในโหมด HDR จะมีการเพิ่มโหมดถ่ายภาพ HDR อัตโนมัติ โดยระบบจะทำการตรวจจับและคำนวณภาพที่ถ่ายให้เองว่าจำเป็นต้องถ่ายด้วยโหมด HDR หรือไม่ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการถ่ายภาพอย่างมาก
**อินเตอร์เฟซเรียบง่ายขึ้น** เดิมทีแนวทางของแอปเปิลกับ iOS 7 ก็คือเน้นความเรียบง่าย (Minimalist) แต่จากเสียงตอบรับของผู้ใช้ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมามีการกล่าวถึงด้านดีไซน์ที่ถูกเปลี่ยนมือไปที่เจ้าพ่อดีไซเนอร์ของแอปเปิล “โจนาธาน ไอฟ์” ว่ายังตอบรับกับแนวคิดมินิมัลลิสต์ยังไม่สมบูรณ์พอ โดยเฉพาะการออกแบบปุ่มโทร.ออก รับและวางสายที่ดูขัดกับหน้าอินเตอร์เฟซโดยรวมทั้งหมด
แน่นอนเมื่อเสียงตอบรับจากผู้ใช้เพิ่มมากขึ้น ทางแอปเปิลก็ตัดสินใจเปลี่ยนดีไซน์ของปุ่มคำสั่งและการออกแบบแอปพลิเคชันบางตัวใหม่ โดยที่เห็นชัดเจนสุดใน iOS 7.1 ก็คือปุ่มคำสั่งโทร.ออก-รับสาย ปิดเปิดเครื่องทั้งหมดถูกเปลี่ยนจากแป้นสี่เหลี่ยมเป็นวงกลมขนาดเล็กแทน เพื่อให้สอดคล้องกับปุ่มคำสั่งในหน้า Settings ที่ใช้เป็นวงกลมและต้องการให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันทั้งแพลตฟอร์มเพื่อความเรียบร้อย
อีกทั้งแอปเปิลยังได้ดีไซน์หน้าแอปพลิเคชันสภาพอากาศใหม่จากเดิมที่โดนเสียงวิจารณ์ว่าดูไอคอนรายงานสภาพอากาศยากและใช้สัญลักษณ์ไม่ชัดเจนก็ถูกปรับเปลี่ยนใหม่เป็นไอคอนที่มีสีสันและแสดงสภาพอากาศได้ชัดเจนยิ่งขึ้น หรือแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการปรับเปลี่ยนการแสดงผลปฏิทินในแบบรายเดือนใหม่ให้เห็นภาพรวมของหมายงานที่บันทึกไว้ได้ชัดเจนมากขึ้น
**ปัญหาเก่าหมดไป ปัญหาใหม่ตามมา** แม้หลายปัญหาใน iOS 7.0 จะถูกแก้ไขให้หมดไป แต่ก็มีปัญหาใหม่เกิดขึ้นอย่างหลึกเลี่ยงไม่ได้ถึง 3 ปัญหา ได้แก่
1. การบริโภคพลังงานที่เพิ่มขึ้นทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วขึ้น 2-4% จาก iOS 7.0 เดิมและยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ในปัจจุบัน
2. แอปพลิเคชันบางตัวยังมีปัญหากับภาษาไทย โดยปัญหานี้ไม่ใช่อาการช้า หน่วงหรือเครื่องค้าง แต่เป็นปัญหาในการพิมพ์ภาษาไทยแล้วตัวอักษรขาดหายไปเหลือเพียงช่องว่างเปล่าๆ ซึ่งถ้าผู้ใช้พบเจอสามารถแก้ไขได้ง่ายด้วยการลบแอปพลิเคชันที่มีปัญหาออก แล้วกดติดตั้งใหม่จาก AppStore เท่านั้น
3. บลูทูธมีปัญหา หลังจาก iOS 7.1 ออกอัปเดตมาได้สักพักก็มีผู้ใช้หลายคนรายงานว่าอุปกรณ์บลูทูธ (Bluetooth) จำนวนมากพบปัญหาหลังจากการอัปเดต iOS 7.1 โดยพบว่าอุปกรณ์อย่างคีย์บอร์ดพกพาและหูฟังบลูทูธไม่สามารถจับคู่กับเครื่องที่อัปเดต 7.1 ได้ดีเหมือนเดิม
**แนวโน้มภาพรวมดีขึ้น** แม้ iOS 7.0 จะถูกวิจารณ์ว่าสร้างประสบการณ์การใช้งานอุปกรณ์แอปเปิลที่เลวร้ายให้ผู้ใช้ แถมถูกบังคับจากระบบปิดให้เลือกใช้งานอย่างหลีกเลี่ยงได้ยากจนเป็นเหตุให้สาวกไอโอเอสดีไวซ์ตีจากไปหาคู่แข่งมากมาย
แต่สุดท้ายแอปเปิลก็ไม่ทิ้งความพยายามกับการผลักดันระบบปฏิบัติการแนวคิดใหม่นี้ให้สำเร็จด้วยการพยายามจัดเก็บทั้งหน้าบ้านและหลังบ้านให้เรียบร้อย ขึ้นกับ iOS 7.1 ซึ่งจะเห็นได้ว่าถูกปรับปรุงไปในทิศทางที่ดีขึ้นมาก แม้จะยังมีปัญหาตามมาบ้างแต่ก็เป็นปัญหาเล็กน้อยที่ผู้ใช้ยอมรับได้เมื่อเทียบกับความเร็วที่เพิ่มมากขึ้นจนเกือบเหมือน iOS รุ่นเดิมที่คุ้นเคยกัน
**อนาคต iOS ยุคใหม่** ในเมื่อ “ไอฟ์” เป็นผู้บุกเบิกและทิ้งจุดเด่นของแอปเปิลที่มีมานานอย่าง Skeuomorphism สู่ iOS แนวทางใหม่เน้นเรียบง่ายจนสร้างบาดแผลให้แอปเปิลไปบ้างและกำลังถูกแก้ไขในปัจจุบัน ในอนาคต iOS แนวทางใหม่นี้จะดำเนินต่อไปพร้อมพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น อย่าง iOS 8 ที่คาดว่าจะเปิดตัวช่วงกลางปีนี้ในสถานะทดลองใช้งานสำหรับนักพัฒนา (Beta) จะมีการเพิ่มแอปพลิเคชันใหม่ Healthbook ที่จะถูกใช้งานร่วมกับชิป M7 หรือแม้แต่ TextEdit และ Preview สำหรับงานเอกสารและภาพที่ถึงแม้เป็นข่าวลือในตอนนี้แต่ก็ทำให้เราได้เห็นถึงแนวทางของ iOS ยุคใหม่ที่มีความชัดเจนในตัวตนมากขึ้น จนในที่สุดแล้ว iOS รูปแบบนี้จะสมบูรณ์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าและจะลบเสียงวิจารณ์ในแง่ลบให้หายไปได้ไม่ยากนัก
ถึงเวลาแล้วที่สาวกแอปเปิลจะคืนรังรักเก่า เพราะ iOS 7.1 ทำให้เห็นทิศทางที่ดีขึ้นของ iOS จากแอปเปิลซึ่งรอวันที่จะกลับมาสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่ง
ที่มา: manager.co.th