โทโมยูกิ ฟูจิโมโต และ ธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ (คนขวา) 2 ผู้บริหารบราเดอร์แถลงภาพรวมบริษัทและเปิดตัวสินค้าใหม่ บราเดอร์เผยตลาดพรินเตอร์ไม่ได้ตกตามม็อบ คาดภาพรวมโตกว่า 5% ส่วนบราเดอร์ปีที่ผ่านมาโตขึ้น 11% และมีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นในหลายตลาด ตั้งเป้ายอดขายปีนี้โตได้สูงถึง 14% ผ่าน 5 กลยุทธ์ มร.โทโมยูกิ ฟูจิโมโต กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาแม้จะมีปัญหาทางการเมืองรวมไปถึงปัญหาเศรษฐกิจในภาพรวม ส่งผลให้อุตสาหกรรมไอทีในหลายๆ ผลิตภัณฑ์มียอดขายหดตัวลง แต่สำหรับในส่วนของตลาดพรินเตอร์นั้นยังสามารถไปได้ดีและมีอัตราการเติบโตได้ เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยังมีความจำเป็นต้องใช้โดยเฉพาะในธุรกิจเอสเอ็มอี โดยคาดว่าตลาดรวมพรินเตอร์ทุกชนิดน่าจะโตขึ้น 5% ส่วนผลประกอบการของบราเดอร์ในปี 56 มีอัตราการเติบโต 11%
ทั้งนี้ หากแยกเป็นเครื่องพิมพ์โมโนเลเซอร์มัลติฟังก์ชันพบว่าตลาดโดยรวมได้ขยับเพิ่มขึ้น 9% ในปี 2556 เนื่องจากในกลุ่มลูกค้าองค์กรและภาคธุรกิจมีกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของบราเดอร์ก็สามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดนี้เป็น 25% ในปี 2556 จาก 19% ในปี 2555
ส่วนธุรกิจเครื่องพิมพ์แบบอิงก์เจ็ตมัลติฟังก์ชันในปีที่ผ่านมา ตลาดโดยรวมลดลง 26% จากปี 2555 แต่ส่วนแบ่งทางการตลาดของบราเดอร์กลับเพิ่มขึ้นจาก 40% เป็น 52%
“ในปี 2557 บราเดอร์ตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 14% โดยได้ทำการเพิ่มงบการตลาดเพื่อสร้างยอดขาย และในปีนี้จะมีศูนย์บริการได้ครบ 77 จังหวัด โดยมีอ่างทองเป็นจังหวัดสุดท้าย นอกจากนี้ยังจะเสริมทัพด้วยผลิตภัณฑ์สแกนเนอร์ เนื่องจากมองว่าปัจจุบันมีการส่งข้อมูลในรูปแบบดิจิตอลมากขึ้น สแกนเนอร์จะเป็นตัวหนึ่งที่จะเปลี่ยนจากเอกสารเป็นไฟล์เพื่อใช้งานง่ายขึ้น โดยเน้นเจาะกลุ่มเซลส์ ไฟแนนซ์ กลุ่มออฟฟิศ และกลุ่มที่ใช้ตามบ้าน”
ด้านนายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายและการตลาด บราเดอร์ กล่าวว่า ปัจจุบันบราเดอร์แบ่งเป็นเลเซอร์พรินเตอร์ 50% อิงก์เจ็ตพรินเตอร์ 40% ที่เหลือ 10% เป็นสแกนเนอร์ จักรเย็บผ้า และผลิตภัณฑ์อื่นๆ โดยบราเดอร์ได้เตรียมกลยุทธ์ทางการตลาดแบบผสมผสาน เพื่อรองรับการเติบโตไว้ 5 กลยุทธ์ ประกอบด้วย 1. การสร้างความหลากหลายให้แก่ผลิตภัณฑ์ของบราเดอร์เพื่อเจาะทุกกลุ่มตลาดได้มากขึ้น 2. การขยายตลาดสู่ต่างจังหวัดมากขึ้น เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้เป็น 40% จากปัจจุบัน บราเดอร์มีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดอยู่ที่ 35% โดยอาศัยการทำกิจกรรมทางการตลาดให้เพิ่มขึ้น 3. การขยายธุรกิจเข้าไปในกลุ่มลูกค้าองค์กรมากขึ้น ด้วยการชูจุดขายเกี่ยวกับโปรแกรมการบริหารจัดการด้านการพิมพ์ (BR Admin Software) 4. การเพิ่มไดเรกมาร์เกตติ้ง เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง และ 5. การสร้างแบรนด์ให้เข้มแข็งผ่านมิวสิกมาร์เกตติ้งและสปอร์ตมาร์เกตติ้ง
นายธีรวุธกล่าวว่า ล่าสุดบราเดอร์ได้ทำการเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ประกอบด้วย เครื่องพิมพ์อิงก์เจ็ตมัลติฟังก์ชัน 3 รุ่นใหม่ คือ อิงก์เจ็ตมัลติฟังก์ชัน 3-in-1 จำนวน 2 รุ่น คือ DCP-J100 InkBenefit และ DCP-J105 InkBenefit และเครื่องอิงก์เจ็ตมัลติฟังก์ชัน 4-in-1 จำนวน 1 รุ่น คือ MFC-J200 InkBenefit และบราเดอร์ยังได้แนะนำสแกนเนอร์ 6 รุ่น ประกอบด้วย กลุ่มเดสก์ท็อปสแกนเนอร์ 4 รุ่น คือ ADS-1100W, ADS-1600W, ADS-2100 และ ADS-2600W และกลุ่มโมบายล์สแกนเนอร์ 2 รุ่น คือ DS-620 และ DS-720D
Company Related Link :
Brother
ที่มา: manager.co.th