“กิ๊บซี่” แย้ม “เกิร์ลลี่ เบอร์รี่” มีแนวโน้มไม่ต่อสัญญากับอาร์เอส แต่ไม่คิดย้ายไปไหน เพราะอยู่มานานจนกลายเป็นโลโก้ค่ายไปแล้ว รับวงถึงจุดอิ่มตัว 2 ปีที่หายไปพยายามพัฒนางานอยู่ตลอดเวลาแต่ยังไม่ดีพอจะออกซิงเกิลใหม่ ไม่มีผลงานเพลงมา 2 ปี แถมจะหมดสัญญากับอาร์เอสในปีนี้แล้ว สำหรับ “เกิร์ลลี่ เบอร์รี่” ล่าสุดได้เจอตัว “กิ๊บซี่ วนิดา เติมธนาภรณ์” เจ้าตัวก็เผยให้ฟังว่ามีแนวโน้มว่าตนและเพื่อนๆ ในวงอาจจะกลายเป็นศิลปินอิสระ
“สัญญายังเหลืออยู่ไม่ถึงปี ก็มีคุยกันว่าเราค่อนข้างโตแล้ว ในเรื่องจะต่อสัญญาหรือเปล่ายังไม่ได้คุยกับผู้ใหญ่ ถ้ากิ๊บไม่ได้ต่อกับอาร์เอสก็คงไม่ได้ย้ายไปไหน เราอยู่กับอาร์เอสมานานแล้ว กิ๊บเองก็เพิ่งทำโปรเจกต์พิเศษ แล้วก็มีละครก็คิดว่าคงอยู่กับอาร์เอสต่อไป คือมันมีแนวโน้มที่จะเป็นอิสระ แต่แนวโน้มที่จะย้ายค่ายไม่มีเลย”
“ถามว่ามีค่ายอื่นติดต่อมาไหม ก็จะมีติดต่อมาในแบบเล่นละครมากกว่า แต่ตอนนี้นโยบายของที่นี่คือข้ามช่องไม่ได้ ส่วนเรื่องวงถ้ากิ๊บพอแล้ว วงเกิร์ลลี่เบอร์รี่เราคงพอพร้อมกัน ตอนนี้มันเหมือนทุกอย่างนิ่งๆ ไป ตัวกิ๊บก็มาทำโปรเจกต์พิเศษ ถ่ายหนังอยู่เรื่องนึง แล้วก็มีละครเรื่องนึง”
“ที่พี่ๆ ถามกันว่าคงจะถึงเวลาอวสานของวงเกิร์ลลี่เบอร์รี่ไหม ก็ยอมรับนะว่ามันไม่มีอะไรกระเตื้องจริงๆ ตอนนี้เราต่างคนก็ต่างโต มีอะไรให้ไปทำกันเยอะแยะเลย บางคนก็ไปทำรายการ ไปเล่นละคร ทุกคนก็หันไปโฟกัสอย่างอื่นกัน พูดจริงๆ เรื่องเพลงถ้ามันจะต้องจบจริงๆ มันก็คงต้องจบ แต่ตอนนี้เราก็ยังไม่ได้เจอกันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้วนัดนัดแถลงข่าว ที่คุยๆ กันอยู่เราก็ปล่อยไหลกันมากกว่า เพราะทุกคนก็โฟกัสอย่างอื่น”
“ตรงนี้ก็เลยไม่มีใครซีเรียสมาก ถ้าพอก็พอ ถ้ามีต่อเดี๋ยวว่ากันถ้ามันต้องเลิกจริงๆ ก็ต้องเสียดายอยู่แล้วแหละ เราอยู่กันมานาน อาร์เอสก็เหมือนกับบ้านเราไปแล้ว หน้ากิ๊บมันเหมือนโลโก้ อยู่กันมาปีนี้ก็ 13 ปีถือเป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่อยู่นานมาก จะมีอะไรส่งท้ายไหมอันนี้คงแล้วแต่ผู้ใหญ่ พวกเราเองไม่ค่อยดื้อนะ แล้วแต่ผู้ใหญ่มากกว่า”
รับ “เกิร์ลลี่เบอร์รี่” ถึงจุดอิ่มตัว บอก 2 ปีเพลงที่ผ่านมาไม่ได้หยุดนิ่งแต่รู้สึกว่าที่คิดออกมามันยังไม่เพียงพอสำหรับงานใหม่
“มันก็อิ่มประมาณนึงนะ โตแล้วไง ที่ผ่านมา 2 ปี อย่างซิงเกิลล่าสุด ฟีเจอริง ก็ทำกันมาตลอด พอทำไปแล้วยังรู้สึกไม่ดีพอ มันก็หลายเป็นไม่ดีพองั้นก็ยังไม่ออก จนถึงจุดนี้ก็เอ๊ะหรือยังไง 2 ปีที่ผ่านมาเปลี่ยนเพลงมาเป็นล้านรอบทั้งทำเพลง ทำชุด คิดคอนเซ็ปต์เหมือนมันไม่พอ เรารู้สึกว่าถ้าออกไปแล้วดีเท่าเดิม ไม่มีอะไรแปลกใหม่ เราก็ไม่ออกดีกว่า”
ที่มา: manager.co.th