“ณเดชน์” โต้หักหน้าแฟนคลับ “ณเดชน์-ญาญ่า” เล่นหยอกล้อ “แพทริเซีย” ในกองถ่าย แจงตนต้องทำความสนิทสนมอีกฝ่ายเพราะต้องเล่นละครให้เข้าขากัน และไม่อยากทำให้อีกฝ่ายรู้สึกตนเข้าถึงยาก พร้อมสอนแฟนคลับรักให้พอดี รักให้มีสติ ทำเอานางเอกหน้าใหม่ “แพทริเซีย กู๊ด” เสียเซลฟ์ร้องไห้ไปแล้วหลายรอบ ที่โดนแฟนคลับคู่จิ้นหนุ่ม “ณเดชน์ คูกิมิยะ” และสาว “ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์” แอนตี้ เพราะแพทริเซียต้องมาร่วมงานกับณเดชน์ในละครเรื่อง “ลมซ่อนรัก” ซึ่งแฟนคลับกลัวว่าสาวแพทริเซียจะมาแทนที่ญาญ่า ล่าสุดมีข่าวว่าแฟนคลับ “ณเดชน์-ญาญ่า” ไม่พอใจรู้สึกเหมือนโดนหักหน้าที่ไปเฝ้าในกองถ่ายแล้วเห็นภาพหนุ่มณเดชน์หยอกล้อกับสาวแพทริเซีย กับประเด็นนี้ณเดชน์ได้เคลียร์ในงาน “บี เดอะ เบสท์ บาย ออรัล-บี(B THE BEST by Oral-B)” ของแปรงสีฟันออรัล-บี ที่สยามพารากอน พร้อมสอนแฟนคลับว่ารักให้พอดี
“คนเล่นละครด้วยกันมันก็ต้องทำความรู้จักกัน สร้างความสนิทสนมกันด้วยไม่อย่างนั้นก็จะเข้าฉากกันแบบเกร็งกัน เล่นละครแล้วคนจะดูไม่เชื่อ ไม่จริง ผมก็พยายามชวนน้องเขาคุยด้วยครับ กับพี่แต้ว (รัฐพร เตมีรักษ์) ผมก็ทำเหมือนกัน คือเราไม่เคยเล่นละครด้วยกันมาก่อน เราก็ต้องมาทำความรู้จักกัน ทำความสนิทสนมกันปูพื้นในการทำงาน ให้รู้สึกว่าเป็นเพื่อน เป็นคนที่เข้าหาได้ มันจะได้เล่นละครกันง่ายแล้วก็สนุกมากขึ้น”
“กับข่าวแต่ละข่าวค่อนข้างจะรุนแรงน้องเขาก็ร้องไห้กับข่าวด้วย แต่ส่วนตัวที่เจอกันก็ปกตินะครับ น้องเขาก็ตั้งใจทำงานดี เรื่องของการทำงานไม่มีปัญหาเลย ผมกับน้องไม่เคยคุยกันเรื่องของข่าวกันเลย เราทำงานด้วยกันปกติ น้องเขาอยู่กับแม่เขาตลอด จะมีก็ผมเรียกเขาว่าเออ….แพทริเซียมาต่อบทกันมา พี่แต้วมาต่อบทกัน เราก็ทำตัวปกติ ไม่ทำให้เขารู้สึกกับเราว่าเราดูห่างไกล เราเข้าถึงยาก”
วอนแฟนคลับรักให้พอดี รักแบบมีสติ
“เรื่องนี้มันพูดยากนะ รักใครชอบใครผมอยากจะให้รักในปริมาณที่พอเหมาะ รักแบบมีสติ ให้เรามีความสุข อย่าไปรักให้ตัวเองเป็นทุกข์ ถ้ารักแล้วไปเกลียดคนโน้น รักแล้วไม่ชอบ รักแล้วรู้สึกผิดหวัง ไม่ว่าจะรักใครก็ตามถ้ารักแล้วเป็นแบบนี้อันนี้อย่ารัก รักให้มีสติ รักให้รู้จักความพอดี จะรักในสิ่งไหนก็ตามไม่ว่าจะรักแฟน รักเพื่อน ควรรักอย่างมีสติ ผมกับแฟนคลับเองเราไม่ได้สื่อสารกันเรื่องพวกนี้ มันเป็นสิ่งที่แม่บอกผมมา แม่เขาอาจจะสอนในไอจีแล้วมั้ง ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ผมพูดแบบนี้เพราะผมพูดแบบเป็นกลางที่สุดแล้วกัน”
เผยใกล้เรียนปริญญาตรีจบแล้ว ตอนนี้อยู่ในช่วงทำวิทยานิพนธ์
“ปีหน้าก็รับปริญญาแล้ว หมดแล้ว เหลือแค่วิทยานิพนธ์ตัวทำหนัง ตอนนี้ถ่ายไปแล้วคิวนึง เป็นโปรเจกต์รวม มีผม สายป่าน ธันวา ตอนนี้ก็เริ่มทำแล้ว ผมเป็นเรื่องที่สอง เดี๋ยวธันวาก็จะเริ่มวางแผนงานแล้ว ก็เป็นหนังคนละเรื่องครับ แต่เป็นโครงการเดียวกัน”
“ส่วนของผมก็เป็นทั้งผู้กำกับทั้งเล่นเองด้วย ชื่อเรื่องมิสเตอร์ปีเตอร์โปรเจกต์ ภารกิจพิชิตเธอ เป็นหนังตลก เรียกว่าทำอะไรด้วยตัวเองเยอะ แต่เวลาผมมันน้อยมากๆ ก็ต้องขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่ได้ช่วย บางทีก็ตัดสินความคิดบางอย่างให้แทนเราด้วย เพราะผมไม่มีเวลา ผมนี่ไม่มีเวลาไปประชุมกับเขาเลย เราต้องคุยกันผ่านไลน์อย่างเดียวเลย เลยทำให้งานทุกอย่างค่อนข้างที่จะล่าช้า แต่มีเพื่อนๆ ที่คอยช่วยคอยดูให้”
“กับงานกำกับเป็นอะไรที่ยากมากเลยครับ มันยากมากจริงๆ ที่ผมจะต้องแสดงไปด้วย กำกับไปด้วย บางทีสมองมันหลุดไปเลย บางทีเราเป็นนักแสดงเราก็โฟกัสกับที่การแสดงมันก็จะหลุดไปเลย แต่พอเราเป็นผู้กำกับ พอเราไปเช็คเทป แบบว่าเฮ้ย เขาพูดผิดนี่หวา ทำไมเราไม่ตรงนั้นตรงนี้ เพราะเราไม่ได้ใส่ใจในภาพรวมไงครับ เรามัวแต่เล่นเป็นตัวละครตัวนั้น”
“มันก็เป็นก้าวแรก อาจจะได้ผลงานการกำกับของผมเรื่องต่อไปอีกก็ได้ ก็ฝากด้วยแล้วกันครับ อะไรที่มันผิด อะไรที่มันไม่ถูก ก็ให้อภัยผมด้วยแล้วกัน ก็ดีนะครับ การที่ได้มาลองทำตรงนี้ทำให้เราเข้าใจการทำงานมากขึ้น เราได้เอามาปรับใช้ในการทำงานของเรา อย่างการดึงเสน่ห์ของตัวละครออกมาใช้ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องชองการใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้มันเกิดลักษณะเด่นขึ้นในงานหนังของเรา เราก็พยายามจะดึงเอามาใช้ หลังจากที่เรียนจบแล้วก็อยากไปเวิร์คแอนด์ทราเวล ก็ยังบอกไม่ได้ อาจจะมั้งครับ ต้องรอให้ไม่มีอะไรหนักๆ ก่อน ถ้ามีโอกาสก็อยากจะไปลองใช้ชีวิตแบบนั้นแบบคนอื่นกับเขาบ้าง ส่วนเรื่องเรียนคงพักก่อนครับ ทำงานก่อน”
ที่มา: manager.co.th