“ฟิล์ม” รับนอยด์ข่าวลือ “อาร์เอส” ไม่ให้รับงานนอกค่าย โอดเสียดาย แต่เข้าใจธุรกิจมีการแข่งขันกันสูงขึ้น บอกตอนนี้ผู้ใหญ่ยังไม่ได้แจ้งเรื่องนี้ รับหากเป็นจริงตนก็น้อมรับนโยบาย เปิดค่ายทำละครอย่างเต็มตัว สำหรับสถานีช่อง 8 ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ฟรีทีวีดิจิตอล จึงแว่วว่าทางค่าย “อาร์เอส” มีนโยบายใหม่ไม่ให้เด็กในสังกัดของตนเองไปรับงานนอกค่ายตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนใครที่รับงานค่ายอื่นไว้แล้วก็ทำให้เสร็จ แต่จะไม่มีการรับงานนอกค่ายเพิ่มอีก จึงร้อนถึงหนุ่ม “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” ที่มีผลงานละครอยู่กับทางช่อง 3 ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าถ้าเป็นนโยบายของทางค่ายจริงตนก็พร้อมปฏิบัติ แต่รู้สึกเสียดายอยู่เหมือนกัน
“มีหลากหลายข่าวที่บอกกันมา แต่เท่าที่ทราบมานโยบายของทางอาร์เอสเองก็ยังไม่ได้ลงระบุแน่ชัดมาว่าเป็นเรื่องจริง ผมก็ยังรับงานอื่นได้อยู่ เนื่องด้วยทางนโยบายของบริษัทตอนนี้ก็ทำละครของตัวเองเยอะมาก ก็คงต้องรอให้ผู้ใหญ่เขาพูดออกมาชัดเจนจริงๆ ดีกว่า เพราะตอนนี้ยังไม่มีใครมาพูดกับผมเรื่องนี้เลย”
“ตอนได้ยินแรกๆ ก็นอยด์อยู่เหมือนกันนะครับ แต่ถ้านโยบายเป็นแบบนั้นจริงๆ ผมก็คงจะต้องปฎิบัติตาม ซึ่งก็น่าเสียดาย ก็คงไม่ถึงขั้นว่าต้องคุยกับทางผู้ใหญ่ ผมเองทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว คงแล้วแต่ทางบริษัทเลยว่าเขาจะสรุปผลออกมายังไง เดี๋ยวทางทีมงานก็คงจะโทร.มาหาผมเอง”
“ผมเข้าใจครับ เพราะตอนนี้ทางบริษัทเองก็หันมาทำละคร ซึ่งการแข่งขันมันก็สูงขึ้น ผมเองอยู่ใต้สังกัดอาร์เอสก็คงต้องให้ทางอาร์เอสเขาจัดการ ตอนนี้ก็รอคำสั่งเขาอย่างเดียวครับ ผมมองว่าการที่เราได้ทำงานกับหลากหลายค่ายมันเป็นเรื่องที่ดี เราเองเคยได้รับอิสระมาตลอด ตั้งแต่เด็กยันโตมาถึงทุกวันนี้ เราจะไปทำงานที่ไหนก็ได้ เพียงแต่อาร์เอสจะเป็นคนพิจารณาบทให้ แล้วก็เป็นโอกาสดีๆ ทั้งนั้นเลย”
“แต่เรื่องจะฉีกสัญญาเพราะเรื่องไม่ให้รับงานนอกค่ายนี่คงไม่มีแน่นอน เป็นไปไม่ได้ การที่ผู้ใหญ่ตัดสินใจอะไรให้ผมก็ถือว่าสิ่งนั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดอยู่แล้ว ฉะนั้นผมเคารพการตัดสินใจของทางผู้ใหญ่”
พร้อมโต้คบสาว “น้ำฝน ทวีพร อารีย์สวัสดิ์” เจ้าของตำแหน่ง Miss Tourism South East Asia Thailand 2001 จนเป็นเหตุให้ทะเลาะกับพี่ชายตัวเอง ลั่นไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่มีรูปเพราะฝ่ายหญิงไปใช้บริการที่คลินิกเสริมความงามของตน
“เขาเคยมาที่คลินิกจริงครับ ก็เคยถ่ายรูปด้วยกัน ผมพูดตามความจริงว่าเราไม่เคยรู้จักกัน พอดีว่าเจอที่คลินิก ด้วยความที่ผมต้องเข้าออฟฟิศตลอดเวลาอยู่แล้ว พอเจอกันก็ถ่ายรูป มีแค่นี้เอง จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้จักอยู่ดีครับ ไม่มีอะไร ก็คงเป็นข่าวเดิมๆ เก่าๆ ตอนนี้เรื่องหัวใจว่างมากเลย ทำแต่งานครับ”
“คือผมอยากให้ตัวเองประสบความสำเร็จเร็วๆ จะได้ว่างจริงๆ เสียที เพราะปัจจุบันนี้ถ้าผมมีใครแล้วอยากจะทำธุรกิจไปด้วยก็ต้องเลิกกันอยู่ดี เพราะผมไม่มีเวลาให้เขา เขาไม่เข้าใจชีวิตแบบเรา การที่จะประคับประคองกันไปให้ได้หลายๆ อย่างมันยากมาก บางทีเจอคนที่ไม่เข้าใจเขาก็จะแยกแยะไม่ออก ผมธุรกิจเยอะมากแล้วก็ทำแต่งานจริงๆ”
ที่มา: manager.co.th
