สามารถฯ หวั่นมือมืดทำตลาดเซตท็อปบ็อกซ์ป่วน หวัง กสทช.กำหนดมาตรฐานให้เคร่งครัด ไม่ให้เกิดแบรนด์จีนตัดราคาไร้คุณภาพ พร้อมกระตุ้นเร่งให้ความรู้ผู้บริโภคเกี่ยวกับทีวีดิจิตอล เชื่อตลาดจะเริ่มโตหลังมีการแพร่สัญญาณ และการแจกคูปอง นายทวี อุดมกิจโชติ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด กล่าวถึงสิ่งที่กังวลในเวลานี้เกี่ยวกับเรื่องกล่องรับสัญญาณภาพทีวีดิจิตอลหรือเซตท็อปบ็อกซ์ คือเรื่องที่ กสทช.ยังไม่มีการควบคุมผู้จำหน่ายกล่องให้มีมาตรฐานหรือเคร่งครัดให้มากขึ้น เพราะกลัวว่าจะเกิดการขายตัดราคาแข่งกันโดยเฉพาะสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ
“ถ้ามีผู้ประกอบการบางรายนำสินค้าไร้คุณภาพเข้ามาจำหน่ายในราคาถูก หลังจากขายไป 3 เดือน 6 เดือนแล้วปิดบริษัทหนี สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือผู้บริโภคจะได้รับความเดือดร้อน จึงหวังให้ทาง กสทช.ช่วยออกมาตรการควบคุม โดยอาจจะใช้การวางเงินประกันเพื่อให้มีการดำเนินธุรกิจต่อเนื่องก็ได้”
นายทวีกล่าวย้ำว่า ในปัจจุบันก็เริ่มมีสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานเข้ามาวางจำหน่ายแล้ว ในจุดนี้ก็หวังว่าจะมีผู้ประกอบการที่มีคุณภาพเข้ามาในตลาดมากขึ้นเพื่อช่วยให้ความรู้แก่ผู้บริโภค เพราะตลาดยังมีพื้นที่อีกจำนวนมาก รวมถึงอยากให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ต้องทำการบ้านให้แก่ผู้บริโภค ในเรื่องของการให้ความรู้เรื่องภาครับสัญญาณทีวีดิจิตอลว่าในการรับชมต้องใช้กล่องรับสัญญาณร่วมกับเสารับสัญญาณ โดยไม่จำเป็นต้องใช้จานดาวเทียมทุกกรณีไป
เพราะปัจจุบันเสาอากาศรับสัญญาณก็จะมีด้วยกัน 2 แบบ คือ Active Antena ที่ต้องใช้ไฟฟ้าเพื่อช่วยเพิ่มภาครับสัญญาณให้รับสัญญาณได้แรงขึ้น ซึ่งเหมาะสำหรับบ้านที่อยู่ในมุมอับสัญญาณ หรือจุดที่ใช้เสาธรรมดารับไม่ได้ กับเสาแบบ Passive Antena ที่เป็นเสาอากาศทั่วไป มาเชื่อมต่อกับกล่องรับสัญญาณ และหากดูจากเป้าหมายที่ทางสามารถตั้งไว้ 2 ล้านกล่องภายในปีนี้ก็คิดเป็นประมาณ 10-20% ของตลาดเท่านั้น เพราะเชื่อว่าในปีแรกจากการที่ กสทช.กำหนดให้เผยแพร่สัญญาณทีวีดิจิตอลให้ครอบคลุม 50% ทั่วประเทศ ก็เชื่อว่าจะมีราว 11 ล้านครัวเรือนที่เปลี่ยนมาใช้ ซึ่ง 80% ในนั้นน่าจะมีการซื้อกล่องรับสัญญาณมาใช้
“เบื้องต้นสามารถคิดว่าจะจัดชุดจำหน่ายกล่องและเสารับสัญญาณในระดับราคาใกล้เคียงกับคูปองที่ทาง กสทช.จะแจก เพราะเชื่อว่ากำลังซื้อหลักจะมาจากส่วนนั้นมากกว่า แต่ยอดขายในตอนนี้จำหน่ายไปแล้วประมาณ 2 หมื่นเครื่อง จากกลุ่มลูกค้าที่อยากดูช่องใหม่ๆ กับที่ต้องการแก้ปัญหาโทรทัศน์ไม่สามารถรับสัญญาณได้”
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้สามารถจะวางจำหน่ายกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลประมาณ 5 รุ่น จากปัจจุบันที่มีวางจำหน่ายแล้วคือ Samart Strong ในราคา 1,350 บาท แต่ต่อไปในอนาคตจะมีทั้งรุ่นที่ถูก และแพงกว่านี้เข้ามาจำหน่าย โดยเฉพาะกล่องที่จะแปลงทีวีปกติให้กลายเป็นสมาร์ททีวีด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่งจะวางจำหน่ายในช่วงไตรมาสที่ 3 ส่วนงบการตลาดที่วางไว้ในปีนี้จะอยู่ที่ราว 100 ล้านบาท โดยจะเน้นไปที่การโฆษณาตามจุดขายเป็นหลักมากกว่าลงโฆษณาตามโทรทัศน์ เพราะเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วลูกค้าก็จะมาตัดสินใจตามหน้าร้านค้าอยู่ดี ขณะที่ช่องทางการจำหน่ายก็จะมีทั้งร้านค้าไอโมบาย บานาน่าไอที และโฮมโปร
Company Relate Link :
Samart Digital
ที่มา: manager.co.th