"ไอแพด" ที่ว่าแน่ หรือ "คินเดิล" ที่ว่าเจ๋ง...อาจต้องหยุดหายใจ แล้วเหลียวหลังมองศัตรูตัวใหม่ ที่กำลังวิ่งฝุ่นตลบตามมาติดๆ ในตลาดเครื่องอ่านอีบุ๊ก ราคา 499 เหรียญ ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ แต่ไม่ใช่ไอแพด มีหน้าจออีอิงค์ และหน้าจอแอลซีดี สามารถดาวน์โหลดอีบุ๊กได้ แต่ไม่ใช่คินเดิล แต่จะเป็นอะไร และทำงานได้ดีแค่ไหน ต้องมาพิสูจน์กัน
"เอดจ์" (Edge) จากบริษัทเอนทัวเรท ซิสเต็มส์ (Entourage Systems) ของประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกนำมาโชว์ตัวครั้งแรกในงาน CES 2010 มันเป็นอุปกรณ์ลูกผสมระหว่างเน็ตบุ๊ก และอีบุ๊ก ที่กำลังพยายามต่อสู้อยากหนักหน่วงในสงครามเครื่องอ่านอีบุ๊ก ระหว่างไอแพด (iPad) และคินเดิล (Kindle) เพื่อให้ได้เป็นเจ้าตลาดในอนาคต
โฆษกจากบริษัทเอนทัวเรท ซิสเต็มส์ กล่าวว่า เอดจ์เป็นอีบุ๊ก 2 หน้าจอ ที่วางจำหน่ายบนเว็บไซด์
www.entourageedge.com มีขนาดเท่าเน็ตบุ๊ก และเปิดได้เหมือนหนังสือ ภายในมีหน้าจออีอิงค์ขนาด 9.7 นิ้ว ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าหน้าจอของคินเดิลและโซนี่ อีกด้านหนึ่งมีหน้าจอแอลซีดีขนาด 10.1นิ้ว แบบที่สามารถใช้เข้าอินเทอร์เน็ต และดูไฟล์วิดีโอ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถอ่านหนังสือ และไฟล์เอกสารบนจออิเล็กทรอนิกส์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ในขณะที่ตัวเครื่องมีน้ำหนักรวมประมาณ 1.4 กิโลกรัม ซึ่งมีหนักเท่ากับเน็ตบุ๊กในท้องตลาด และหนักเป็น 2 เท่าของไอแพด อีกทั้งยังทำงานด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ของกูเกิล ซึ่งถือเป็นระบบปฏิบัติการเปิดที่น่ากลัวที่สุดในตอนนี้
ด้าน Asghar Mostafa ซีอีโอบริษัทเอนทัวเรท ซิสเต็มส์ กล่าวว่า เอดจ์ออกแบบมาเพื่อนักธุรกิจ และนักเรียน นักศึกษา โดยผู้ใช้งานสามารถเขียนข้อความ หรือทำไฮไลท์ข้อความสำคัญลงบนไฟล์เอกสารผ่านปากกาสไตลัสที่ให้มา ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเรียนในห้องเรียน หรือจะจดโน้ตย่อในห้องประชุม อีกทั้งยังสามารถเซฟไฟล์เอกสารที่คุณทำการขีดเขียนลงไป เพื่อนำไปเปิดบนคอมพิวเตอร์ได้ รวมถึงการอัพโหลดไฟล์จากเว็บไซด์ หรืออีเมล์ได้โดยตรง
โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกดาวน์โหลดอีบุ๊กได้จากร้านหนังสือออนไลน์ของเอนทัวเรท (Entourage e-bookstore) ตามการจัดลำดับหนังสือขายดี หรือเลือกดาวน์โหลดหนังสือเฉพาะทางจากกูเกิล บุ๊ก ได้
ในส่วนของการเชื่อมต่อนั้น ก็ไม่ยอมน้อยหน้าคู่แข่ง "เอดจ์" มาพร้อมพอร์ตยูเอสบี 2 ช่อง, มินิ ยูเอสบี, ตัวอ่าน SD card ซึ่งช่วยให้ง่ายต่อการโหลดไฟล์เอกสารจากภายนอกมาไว้ภายในตัวเครื่อง นอกจากนี้หน่วยความจำภายในมาให้ 4 กิกะไบต์, ช่องใส่ซิมการ์ด และรองรับการเชื่อมต่อ 3G, ไวไฟ และบลูทูธ
โฆษกอ้างว่า เอดจ์มีแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้นาน 16 ชั่วโมง ซึ่งระยะเวลาของแบตเตอรี่ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณ เนื่องจากหน้าจอสีนั้นค่อนข้างกินแบตฯ แต่ถึงอย่างไรเอดจ์ก็มีแบตเตอรี่ที่ถอดเปลี่ยนได้ นั่นหมายความว่าคุณสามารถพกแบตฯ สำรองติดตัวไปได้ตลอด ซึ่งจุดนี้นับเป็นอีกจุดหนึ่งที่น่ากลัวในการโค่นล้มคินเดิลและไอแพด
อย่างไรก็ตาม ได้มีผู้เชี่ยวชาญออกมาให้ความคิดเห็นหลังจากทดลองใช้งาน"เอดจ์" ว่ายังมีข้อบกพร่องอยู่หลายจุด อาทิเช่น กล้องเว็บแคมที่ไม่มีความคมชัด, หน้าจอแบบสัมผัสไม่มีความแข็งแรง ซึ่งจะยุบตัวลงไปตามแรงกด รวมถึงคีย์บอร์ดที่ยังไม่มีความแม่นยำเท่าที่ควรและถึงแม้ว่าเอดจ์จะใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการเปิดที่น่าจะมีแอปพลิเคชันให้ใช้งานมากมาย แต่ในแอนดรอยด์มาร์เก็ต กลับไม่มีแอปพลิเคชันตัวไหนที่เขียนขึ้นมาเพื่อตอบสนองการใช้งานบนเอดจ์เลย
สุดท้ายเรื่องของน้ำหนัก ที่หนัก 1.4 กิโลกรัม ซึ่งมันดูหนักเกินไปสำหรับการใช้เป็นอีบุ๊ก และเอดจ์ก็ไม่มีทางที่จะมาแทนโน๊ตบุ๊กได้ เนื่องจากการใช้งานคีย์บอร์ดบนหน้าจอแบบสัมผัสยังทำได้ค่อนข้างยาก
อย่างไรก็ดี เราต้องชื่นชมผู้ผลิตในความพยายามที่จะอัดเทคโนโลยีหลายๆ อย่างลงไปในเอดจ์ เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ออกมา แต่ทว่าเอดจ์ยังมีอีกหลายจุดที่ต้องพัฒนาให้ดีขึ้น ก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดเครื่องอ่านอีบุ๊ก
เครื่องอ่านอีบุ๊กแบบ 2 หน้าจอ "เอนทัวเรท เอดจ์" มีจำหน่ายบนเว็บไซด์
www.entourageedge.com ในราคา 499 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 16,000 บาท และมี 5 สีให้เลือกคือ น้ำเงิน, ดำ, แดง, ขาว และฟ้า
Company Related Link :
Entourage System
ที่มา: manager.co.th