เป็นมิวสิควิดีโอที่ได้รับความสนอกสนใจพอสมควรทีเดียวสำหรับมิวสิควิดีโอของ “โบ๊กกี”นักร้องสาวชาวฮังการี โดยเจ้าตัวสุดเก๋โชว์หน้าสดทำโฟโตช็อป ก่อนสื่อให้ผู้หญิงพอใจกับตัวตนที่แท้จริงของตนเอง โบ๊กกี หรือชื่อจริงว่า แชร์แมร์ โบกลารกอร์ เพิ่งเปิดตัวมิวสิควิดีโอแสนเก๋ไก๋ของตนเองโดยเป็นภาพที่เธอกำลังนั่งร้องเพลง Nouveau Parfum พร้อมกับทำโฟโต้ช็อปให้เห็นความเปลี่ยนแปลงแบบสดๆ
โดยสีและรูปตา สีผมและทรงผม สีผิวและความขาวของฟัน ถูกเปลี่ยนแปลงด้วยพลังของดิจิตอลจนทำให้เธอเปลี่ยนเป็นคนละคน
อย่างไรก็ตาม โบ๊กกี ได้เลือกที่จะเผยความจริงเบื้องหลังคนดังในรูปแบบวิดีโอผ่านบทเพลงของตนเองที่วิจารณ์การคุ้มครองผู้บริโภคยุคใหม่พร้อมเตือนสาวๆให้เป็นตัวของตัวเอง
บทเพลงนี้มีเนื้อร้องเป็นภาษาฝรั่งเศสซึ่งเริ่มต้นด้วยชื่อของแบรนด์หรูและดีไซเนอร์ดังมากมายทั้ง Prada, Hugo Boss, Chanel, Giorgio Armani และ Lancome ก่อนที่จะหยุดแล้วกล่าวว่า “ฉันไม่ใช่สินค้า”
โดยในส่วนคอรัส มีเนื้อหาว่า “ความงาม, ความหรูหราล้ำค่า ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงฉันได้ ไม่มีใครเทียบเทียม ไม่สามารถหาใครเหมือน น้ำหอมใหม่ก็คือตัวฉันเอง” ขณะที่ท่อนสามได้กล่าวว่า “มาสคารา, บลัช, ลิปสติก, ที่เขียนขอบปาก, อายแชโดว์, รองพื้น, ยาทาเล็บ, แป้งฝุ่น คือสิ่งที่ฉันไม่ต้องการ”
มิวสิควิดีโอตัวนี้กำลังเป็นที่ถูกกล่าวถึงอย่างมากในโลกอินเตอร์เน็ตนับตั้งแต่ปล่อยออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทรนด์ในเวลานี้ที่พยายามพูดถึงการไม่อยู่ในโลกความจริงของคนดังรวมถึงการโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ
โดยเมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว ก็เคยมีคลิปที่สร้างโดย GlobalDemocracy.com ออกมาเรียกเสียงฮือฮาไปได้ไม่น้อย โดยเป็นการนำหญิงสาวรูปร่างหน้าตาธรรมดาๆ มาทำโฟโต้ช็อปจนกลายเป็นนางแบบสาวสวยหุ่นดีที่ทำเอาทุกคนตะลึง ซึ่งคลิปดังกล่าวถูกส่งต่อและพูดถึงอย่างมากในโลกอินเตอร์เน็ต และถกเถียงเกี่ยวกับการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ตกแต่งภาพจนเด็กสาวธรรมดาๆเปลี่ยนเป็นเซ็กซี่สตาร์แบบคนละคน
และด้วยผลจากสิ่งนี้เองได้เพิ่มปฏิกิริยาต่อต้านภาพโฟโต้ช็อปให้เกิดขึ้นอย่างรุนแรง ซึ่ง American Eagle จึงเป็นแบรนด์ล่าสุดที่ออกแคมเปญเปิดตัวรูปโฆษณาที่ไม่ใช้โฟโต้ช็อปในการโฆษณาชุดชั้นในใหม่ของพวกเขาเลย
โดยในสัปดาห์นี้ก็มีการถกถียงถึงประเด็นนี้กันอย่างมากเช่นกัน เกี่ยวกับภาพรีทัชของ ลีนา ดันแฮม ในการถ่ายแบบลงนิตยสาร Vouge นับได้ว่าเวลานี้หากแบรนด์ไหนใช้โฟโต้ช็อปเป็นตัวช่วยจนเกินพอดี ก็จะถูกนักสืบไซเบอร์มือดีนำมาแฉประณามในโลกออนไลน์ให้ได้อายโดยนำภาพก่อนและหลังรีทัชมาเปรียบเทียบกันให้เห็นความแตกต่างแบบจะๆเลยทีเดียว
ที่มา: manager.co.th