“ติ๊ก เจษฎาภรณ์” ควงภรรยาเผยโฉมลูกชาย “น้องเต้นท์” เจ้าตัวสุดตื่นเต้นเอากล้องเข้าไปถ่ายขณะคลอดแต่มือไม้สั่นภาพออกมาเบลอ วางแผนอยากมีลูกอีกจะได้อบอุ่น ลั่นอยากมีลูกแฝด แต่งงานกับ “พีช สิตมน” ไปหลายปีแล้วสำหรับ “ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี” แต่ติ๊กพึ่งจะปั๊มลูกสำเร็จ ให้กำเนิดลูกชาย “น้องเต้นท์” ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา น้ำหนักตัว 3,100 กรัม และทั้งคู่ได้เปิดแถลงข่าวถึงการมีทายาทครั้งนี้ว่า
ภรรยา : “ก็น้องคลอดไปเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2557 โดยการผ่าค่ะ คือคุณหมอบอกว่าน้องแข็งแรงและช่วงนี้ออกมาได้ก็ฤกษ์สะดวกค่ะที่ว่างทุกคน ตั้งชื่อว่าน้องเต้นท์ค่ะ”
ติ๊ก : “ตอนแรกบอกว่าจะตั้งชื่อว่าน้องเน แต่ยังไม่ได้ตั้งชื่อจริงครับ”
ภรรยา : “คิดว่าเดียวลองเลี้ยงเค้าไปก่อนและก็ค่อยดูอะไรที่ความหมายดีกว่า”
เห็นหน้าลูกแล้วมือสั่น ถ่ายภาพขณะคลอดก็สั่น
ติ๊ก : “ของผมนี่เป็นอะไรที่เออเวลารวดเร็วมากครับ ผมเองเข้าไปในห้องผ่าคลอดด้วย คุณหมอชวนผมคุย คุยยันไม่ทันจบเรื่องเลยครับออกมาแล้ว ผมยังตามคุณหมอไม่ทันเลยครับ”
ภรรยา : “ต้องบอกว่ามันเร็วมากค่ะงงๆ ไม่รู้จริงๆ คุณหมอก็เอาออกมาแล้ว และเราก็ได้ยินเสียงร้องไห้เสียงเด็กร้องไห้ดังมาก ก็แบบโอเคเหมือนภารกิจเราสำเร็จ น้องแข็งแรงโอเคก็ตื้นตัน ก็น้ำตาไหลนิดนึงผู้หญิงต้องเป็น”
ติ๊ก : “ผมเอากล้องเข้าไปถ่ายไว้ด้วยครับ แต่ผมมือไม้สั่นหมดเลนครับผมถ่ายไม่ทันครับ
ภรรยา : “แต่ว่ากล้องโปรมากเพราะเอากล้องจากเนวิเกเตอร์มาถ่าย”
ติ๊ก : “คุณหมอถามว่านี่กล้องถ่ายรายการหรือเปล่า ก็ตั้งใจจะถ่ายครับ ผมยังบอกคุณหมอเลยกล้องตัวนี้ปกติผมเอาไว้ถ่ายภาพสัตว์ป่านะ (หัวเราะ) ภาพก็ออกมาเบลอๆ ครับ แต่ก็จะมีแบบญาติๆ ที่มาถ่ายหลังจากที่น้องออกมาแล้วครับ ตอนนั้นผมเองก็มือไม้สั่นทำอะไรไม่ค่อยถูกครับ”
เข้าครอสเป็นคุณพ่อแล้ว
ติ๊ก : “เราเองก็เตรียมตัวไว้อยู่แล้วนะครับ ณ วันหนึ่งที่น้องออกมาแล้วต้องเป็นพ่อครับ
คือตอนนั้นความรู้สึกของผมแบบโล่งๆ โหวงๆ คือคิดอยู่อย่างเดียวว่า ผมอยากให้คุณแม่ปลอดภัยแล้วก็อยากให้น้องปลอดภัย พอปลอดภัยแล้วรู้สึกว่าเราตื้นตันแทนเขาฮะ คือมันใช้เวลามาพอสมควรก็ ณ บัดนี้ก็ออกมาลืมตาดูโลก หลายปีที่ผ่านมาคนก็ถามวาเมื่อไหร่จะมี ก็พอเริ่มขยับมาก็เริ่มตั้งครรภ์และก็มาวันนี้เราก็จะได้เห็นหน้าน้องแล้ว”
“ตอนนี้ก็เข้าครอสดูแลเด็กที่โรงพยาบาลครับ ทางโรงพยาบาลดูแลเทคแคร์ดีมากยังแซวกับเจ้าหน้าที่เลยครับว่าเดี๋ยวจะมาเข้าที่นี่บ่อยๆ” (หัวเราะ)
เป็นหลานคนแรกของครอบครัวทั้งคู่ ทำให้เห่อกันมาก
ภรรยา : “ก็น่าจะเลี้ยงเองค่ะคืออยากใช้เวลากับเขาให้เต็มที่เลยตั้งใจมาก”
ติ๊ก : (หัวเราะ) “ผมคิดว่าตามภารกิจครับ”
ภรรยา : “ถ้าจริงๆ เลี้ยงได้อยากให้คุณพ่อได้ไปทำหน้าที่เนวิเกเตอร์ให้เต็มที่ อยากให้ลูกเจริญรอยตามพ่อ
ติ๊ก : “ผมมีคุณแม่ที่เข้าใจเห็นไหมครับ แต่ก็มีญาติๆ ปู่ย่าตายายช่วยเลี้ยงเยอะมากเลยครับ ผมสบายใจ”
ภรรยา : “ที่บ้านค่อนข้างเหอะค่ะที่สุด เรียกว่าเป็นหลานคนแรกของทั้งสองฝ่ายเพราะฉะนั้นทุกคนรอคอยและมีคนช่วยเลี้ยงเยอะพอสมควร”
ติ๊ก : “ผมรู้สึกว่าไม่ว่าจะอะไรก็ตาม มันคือยังไงตัวหลักก็คือพ่อกับแม่อยู่แล้วครับ เราก็ต้องดูแลแล้วก็เราอยากจะให้เขาเป็นแบบไหนก็อยู่ที่เราเองครับว่าเราจะนำพาเขาไปยังไง”
อยากมีลูกอีก 1 คน เผยอยากมีลูกแฝดเพราะเล่นละครกับ “เฮเดน” และ “โจชัวร์” แฝดลูกครึ่ง ในละครอย่าลืมฉัน แล้วชื่นชมในความฉลาดน่ารัก
ภรรยา : “จริงๆ คิดว่าถ้าเป็นไปได้อยากมีอีกสักคน แต่ว่าเดี๋ยวดูก่อนเพราะว่าเราเป็นครอบครัวที่มีพี่น้องทั้งคู่เลยและเรารู้ว่ามันอบอุ่น ถ้าเป็นไปได้อยากให้เขามีพี่น้องค่ะ แต่ว่าขอทีละคนเนอะขอดูไปก่อนเนอะ”
ติ๊ก : “จริงๆ แล้วผมก็อยากมีลูกแฝดนะครับ เฮเดนและโจชัวร์คือแรงบันดาลใจของผมเลย ยังถามกับคุณแม่เลยว่าเออต่อไปเราจะแฝดไหม”
ภรรยา : “ถ้าไดแบบนี้ก็น่ารักเอาเนอะ”
ถึงจะมีลูกแต่ “ติ๊ก” ก็ยังคงคอนเซ็ปต์เลือกรับเฉพาะงานที่มีคุณภาพ ไม่โหมรับงาน
“ผมก็รับตามปกติครับ แต่ก็ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมว่าเราจะรับงานที่มีคุณภาพ งานที่เราอยากจะทำและก็เป็นช่วงจังหวะที่เราว่างพอดี”
ฝากถึงแฟนคลับ
ติ๊ก : “แฟนคลับคือสิ่งที่สำคัญตลอดมา ทั้งในเรื่องของความเป็นอยู่การทำงานต่างๆ ผมได้รับการสนับสนุนที่ดีจากแฟนคลับ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็แล้วแต่แฟนคลับอยู่เคียงข้างผมเสมอ ผมอยู่กับเขาแล้วเราเหมือนเราอยู่บ้านหลังใหญ่ เราชื่อว่าเนวิเกเตอร์เป็นบ้านที่อบอุ่นนครับ แล้วแฟนก็คอยให้กำลังใจแล้วก็ลุ้นไปกับเรา ณ วันนี้ทุกๆคนก็ได้เห็นน้องแล้วขอบคุณมากนะครับสำหรับกำลังใจ และช่วยสนับสนุนผมและก็ต่อไปของฝากน้องด้วย”
ภรรยา : “คิดว่าคุณแม่ทุกคนน่าจะรู้สึกคล้ายๆ กัน ก็คือมันตื้นตันมันบอกไม่ถูก มันเหมือนว่าเป็นของขวัญที่พิเศษมาก ตอนนี้ก็มีของเล่นชิ้นใหม่แล้วเป็นตุ๊กตาของเรา ก็ตั้งใจจะเลี้ยงเขาให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ อยากให้เขาเป็นคนดีที่สุดแค่นี้เองจริงค่ะรักธรรมชาติด้วย”
จะพาน้องเข้าป่าไหม
ติ๊ก : “ถ้ามีโอกาสนะครับถ้าแม่เค้าอนุญาตนะ”
ภรรยา : “ชอบเลยและทิ้งแม่ไว้ชอปปิ้งในเมืองนะ”
ที่มา: manager.co.th