เอชพีหันมาทำตลาดสินค้าระบบปฏิบัติการ Windows 7 ที่ถูกเปิดตัวตั้งแต่ตุลาคมปี 2009 ทั้งที่ไมโครซอฟท์เปิดตัว Windows 8 และ 8.1 แต่เจ้าพ่อพีซีอย่างเอชพี (HP) กลับผ่าไปเลือกผลิตและจำหน่ายคอมพิวเตอร์พีซีรุ่นใหม่ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 7 Home และ Pro เวอร์ชันเก่าแทน เบื้องต้นเอชพีให้เหตุผลการตัดสินใจครั้งนี้ว่าเป็นเพราะความต้องการของลูกค้าที่ต้องการระบบปฏิบัติการ Windows 7 มากกว่า ทำให้กระแสแง่ลบของ Windows 8 ถูกมองว่ากำลังมีอิทธิพลมากขึ้นทุกที สื่อต่างชาติวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของเอชพีเรื่องการหันมาทำตลาดสินค้าระบบปฏิบัติการ Windows 7 ที่ถูกเปิดตัวตั้งแต่ตุลาคม ปี 2009 หรือเมื่อ 4 ปีที่แล้วว่าเป็นเพราะเอชพีต้องการทำทุกวิถีทางเพื่อเพิ่มยอดจำหน่ายคอมพิวเตอร์พีซีของบริษัท หลังจากที่ยอดจำหน่ายของบริษัทตกต่ำต่อเนื่องตั้งแต่ Windows 8 ถูกเปิดตัว โดยที่ผ่านมา Windows 7 ได้รับการการันตีจากไมโครซอฟท์ (Microsoft) ต้นสังกัดว่าเป็นระบบปฏิบัติการวินโดวส์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดรองจาก Windows XP ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่แจ้งเกิดในปี 2001
เช่นเดียวกับผู้ผลิตรายอื่น เอชพีระบุว่าจะวางจำหน่ายคอมพิวเตอร์พีซีรุ่นใหม่ระบบปฏิบัติการ Windows 7 โดยจะจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์โปรแกรมเหมือนกับที่ทำในระบบปฏิบัติการ Windows 8
ข้อมูลระบุว่า รายได้ค่าลิขสิทธิ์ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ครึ่งหนึ่งมาจากการจำหน่ายให้กลุ่มธุรกิจ ซึ่งผู้ใช้กลุ่มนี้สามารถชำระเงินเพิ่มเพื่อ “downgrade” หรือการลดขั้นลงมาใช้ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันต่ำกว่าอย่าง Windows 7 ได้ อย่างไรก็ตาม ไมโครซอฟท์ไม่เคยเปิดเผยว่ารายได้จากธุรกิจดาวน์เกรดระบบปฏิบัติการนี้มีสัดส่วนเท่าใด ซึ่งคาดว่าจะเป็นหนึ่งในคำถามที่ไมโครซอฟท์จะถูกซักในระหว่างการประกาศผลประกอบการช่วงวันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคมนี้ตามเวลาสหรัฐฯ
ความเคลื่อนไหวของเอชพีทำให้โลกหันไปมองภาวะถดถอยของตลาดพีซี ซึ่งปรากฏว่ายอดจำหน่ายคอมพิวเตอร์พีซีในปี 2013 นั้นลดลงต่อเนื่อง 10% ทั้งหมดนี้ทำให้เจ้าพ่อผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์อย่างอินเทล (Intel) ออกมาคาดว่าภาวะตลาดพีซีซบเซานี้จะเกิดขึ้นถึงช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ เท่ากับว่าผู้ผลิตพีซีจะต้องพยายามทำทุกทางเพื่อกระตุ้นตลาดพีซีให้ตื่นตัวให้ได้
ในมุมของเอชพี การสำรวจของสำนักไอดีซี (IDC) พบว่าเอชพีคือผู้ได้รับผลกระทบจากยอดจำหน่ายพีซีโลกลดลงหนักที่สุดเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นในสหรัฐฯ โดยไตรมาสที่ผ่านมายอดจำหน่ายของเอชพีลดลงมากกว่า 12.3% ต่อปี
ข้อมูลจาก StatCounter พบว่า Windows 7 คือระบบปฏิบัติการที่ครองตลาดพีซีมากที่สุด (54.8% จากกลุ่มผู้ใช้คอมพิวเตอร์ท่องอินเทอร์เน็ตทั่วโลก) ขณะที่ XP คิดเป็นสัดส่วน 19.8% พร้อมกับที่ Windows 8 คิดเป็น 8.1%
ด้านระบบปฏิบัติการ Mac OSX ของแอปเปิล (Apple) มีสัดส่วนตลาดโลกคิดเป็น 7.8% โดยก่อนหน้านี้แอปเปิลประกาศว่ามีผู้ใช้บริการระบบปฏิบัติการดังกล่าวราว 72 ล้านคนทั่วโลก (ข้อมูลเดือนมิถุนายน 2013) สถิตินี้ถือว่าใกล้เคียงกับ 80 ล้านคนที่คำนวณได้จากสัดส่วนการตลาด 8.1% ของผู้ใช้งาน Windows 8 ที่ StatCounter สำรวจได้
ที่มา: manager.co.th