Author Topic: ไซแมนเทค เตือนแฟนบอล ระวังภัยมือถือ ก่อนดูศึกลูกหนัง  (Read 886 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai

ทีมฟุตบอลและแฟนบอลจาก 32 ประเทศทั่วโลกกำลังหลั่งไหลเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลโลกที่กำลังเริ่มต้นขึ้นในแอฟริกาใต้และนี่เป็นอีกหนึ่งโอกาสที่บรรดาอาชญากรไซเบอร์กำลังรอคอยจังหวะงามๆ จากผู้พลั้งเผลอ

 


นายนพชัย ตั้งไตรธรรม ที่ปรึกษาทางเทคนิคอาวุโส ของไซแมนเทค กล่าวว่า แฟนบอลจำนวนมากมายหวังพึ่งพาอุปกรณ์พกพาอย่างมือถือในการติดตามข่าวสารได้อย่างทันท่วงที ไม่ว่าจะเป็นข่าว และ เทปบันทึกการแข่งขัน สมาร์ทโฟนต่างๆ ในปัจจุบันมักถูกโจมตีได้ง่ายโดยกิจกรรมไม่พึงประสงค์ต่างๆ อย่างเช่น ฟิชชิ่ง เว็บไซต์หลอกลวงและจากการดาวน์โหลดต่างๆ ที่ทำให้โค๊ดอันตรายอย่างโทรจันสามารถติดเข้ามาในเครื่องได้

ขณะนี้มีการตรวจพบภัยคุกคามบนแพลตฟอร์มโมบายประมาณ 400 ภัยคุกคามด้วยกัน ซึ่งอาจเป็นเพียงเศษเสี้ยวเมื่อเทียบกับภัยคุกคามที่เกิดขึ้นบนพีซีแพลตฟอร์มที่สูงถึง 4 ล้านภัยคุกคาม แต่ก็เป็นอันตรายอย่างแท้จริงสำหรับผู้ใช้งาน

ภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดสำหรับแฟนบอลคือ การทำโทรศัพท์ของตัวเองหาย โทรศัพท์แบรนด์หลักๆ ทั้งหมดที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้มักจะเต็มไปด้วยข้อมูลทั้งส่วนตัวและข้อมูลทางธุรกิจมากมาย ซึ่งถ้ามือถือเกิดหายหรือถูกขโมยขึ้นมา ก็จะทำให้อาชญากรเหล่านี้เข้าถึงข้อมูลสำคัญดังกล่าวได้โดยง่ายดาย” นายนพชัย กล่าว

ในขณะที่โทรศัพท์บางรุ่นจะมีระดับการป้องกันข้อมูลโดยการเข้ารหัส แต่สามารถถูกปลดออกได้อย่างง่ายดาย และแฟนบอลควรแบ็คอัพข้อมูลในมือถือของตนไว้ ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ และ คลิปวิดีโอต่างๆ ไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของตน หรือ เอาใส่ไว้ในแหล่งจัดเก็บข้อมูลออนไลน์อย่างเช่น กูเกิล ทันทีที่มีโอกาส

อีกอย่างก็คือ ควรระวังเวลาที่ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คอย่าง ทวิตเตอร์ และ เฟซบุ๊ค มากยิ่งขึ้น เนื่องจากบรรดาอาชญากรมักใช้ช่องทางเหล่านี้ในการเช็คดูว่าคนเหล่านี้จะออกจากบ้านเมื่อไหร่ ซึ่งมันอาจกลายเป็นประสบการณ์ที่ไม่น่าจดจำเท่าไรนัก ถ้าแฟนบอลพบว่าข้าวของโดนกวาดไปเรียบบ้านในขณะที่พวกเขาออกไปสนุกกับการดูบอลโลกในปีนี้


ที่มา: posttoday.com


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)