Author Topic: “เป็ด เชิญยิ้ม” เตรียมระดมเพื่อนตลก ปลดหนี้ให้ “ป๋าเทพ”  (Read 591 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai




     “เป็ด เชิญยิ้ม” เตรียมระดมเพื่อนตลกยื่นมือช่วยเรื่องหนี้สิน “ป๋าเทพ” บ่นอีกฝ่ายติสต์และไม่อยากให้ใครเดือดร้อน ไม่รู้จะรับความช่วยเหลือรึเปล่า ไม่เชื่อจะทิ้งสัตว์เลี้ยงไปอยู่ลาวได้ พร้อมเผยอีก 4 ปี จะเปิดสถาบันสอนตลก
       
       ทำเอาหลายคนตกใจ หลังตลกระดับตำนาน “ป๋าเทพ โพธิ์งาม” ออกมาเผยว่ากำลังจะโดนยึดบ้าน เพราะไม่มีเงินส่งมาหลายเดือน ถึงขั้นวางแผนจะย้ายไปอยู่ประเทศลาว ซึ่งพอมีข่าวออกไปก็มีกำลังใจส่งไปยังป๋าเทพอย่างท่วมท้น รวมถึง “เป็ด เชิญยิ้ม” ที่เผยว่าเตรียมติดต่อเพื่อนตลกช่วยเหลือเรื่องหนี้สินของป๋าเทพ ก่อนบอกอีกฝ่ายติสต์ไม่รู้จะรับความช่วยเหลือรึเปล่า
       
       “จริงๆ หนี้ 7-8 ล้าน มันอาจจะเยอะในสายตาพี่เทพ แต่คนอย่างพี่เทพทำงานจริงๆ ก็คืนได้ มันมีทางออกแน่นอน มนุษย์เวลามีปัญหามันมีทางแก้อยู่แล้ว แต่อยู่ที่คุณแก้ถูกจุดรึเปล่า คุณอยากให้ร่วมแก้รึเปล่า พี่เทพแกเป็นคนศิลป์ แกติสต์ ไม่อยากทำให้ใครเดือดร้อน ไม่อยากให้ใครช่วยเหลือ แกเลยเครียดที่ตัวแกเอง”
       
       “แต่ทางออกที่ดีก็คือเพื่อนนี่แหละที่จะช่วยแกได้ เดี๋ยวจะคุยกับพี่หม่ำ พี่เด๋อ พี่โน้ต ดูว่าเราจะทำยังไงได้ พี่เทพเองไม่เคยมาปรึกษาอะไร เราเพิ่งรู้เรื่องเอง แต่คิดว่าแกคงไม่ทิ้งวงการไปหรอก สำหรับเรื่องที่แกจะไปอยู่ที่ลาวนั้น แกไปทำธุรกิจที่ลาวรึเปล่า แกจะทิ้งหมา แมว ปลา จะทิ้งสัตว์ที่แกเลี้ยงได้เหรอ เรื่องไปอยู่ลาวมันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ”
       
       พร้อมกันนี้ “เป็ด เชิญยิ้ม” ยังได้เผยในส่วนของโปรเจกต์เรียลิตีโชว์ “เดอะ คอมเมเดียนไทยแลนด์ ซีซัน 2” ที่กำลังจะมีขึ้น เพื่อเฟ้นหาตลกมีความรู้ความสามารถ มาทดแทนตลกที่กำลังค่อยๆ อายุมากขึ้น โดยเจ้าตัวมองว่าการทำเรียลิตีเป็นแค่เวทีทดลองวิชาไว้เตรียมความพร้อมในการเปิดสถาบันตลกในอีกอีก 3-4 ปีข้างหน้า
       
       “เดอะ คอมเมเดียนไทยแลนด์ซีซันแรกที่เราทำมา มันเป็นการลองผิดลองถูก คนก็ไม่รู้ คาดไม่ออกว่ามันจะออกมาเป็นรูปแบบไหน แต่พอเราทำแล้วกระแสตอบรับค่อนข้างดี เลยเป็นโจทย์ที่ยากสำหรับปีนี้ ปีนี้เราได้ครูมาเพิ่มอีก อาทิ ครู ไชยา มิตรชัย มาสอนลิเก พี่มืด กรมศิลป์ มาสอนโขน เป็นต้น ปีนี้เด็กที่เข้ามาได้องค์ความรู้มาก หากได้อยู่ในบ้านนานๆ ซีซันนี้จะเข้มกว่าซีซันแรก เพราะผมจะทำโชว์ให้ยิ่งใหญ่กว่าซีซันแรก ซีซันแรกกระแสตอบรับค่อนข้างดี พอมาถึงซีซันนี้เราก็รู้สึกกดดันเหมือนกัน เลยต้องประชุมกันทุกเรื่องว่าจะทำโชว์ยังไงให้มันดี แต่เราโชคดีที่เด็ก 16 คนที่เข้ามามีองค์ความรู้ความสามารถติดตัวมา ความสามารถเฉพาะตัวของแต่ละคนก็มีความหลากหลาย เลยทำให้เราทำงานง่ายขึ้น”
       
       “สำหรับการต่อยอดของเด็กหลังจากที่ได้แชมป์การประกวดแล้ว เด็กก็จะเซ็นสัญญากับบริษัทของเรา เราดูแลเอง คือที่ผมทำทุกวันนี้ผมทำเพื่อต่อยอด เพื่อตกผลึก เป็นการนำร่อง ผมมีแพลนจะตั้งสถาบันคอมมาดีในเมืองไทย ที่มีทั้งครูสอนร้อง สอนเต้น สอนแอ็กติ้ง ครูพัฒนาบุคลิกภาพ สำหรับสถาบันคอมมาดี้ผมมองไว้ว่าสัก 4 ปีก็น่าจะเห็นผล ผมคิดหลักสูตรคอมมาเดียนนี้มาเกือบ 10 ปี ผมศึกษาเชิงลึกเลยว่ารากเหง้าของตลกไทยมาจากไหน”
       
       “ผมมองว่าวันนี้คนมันไม่พอกับรายการทีวี การผลิตทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังมันยังไม่พอในงาน เราเลยหาวิธีการสร้างแล้วเอาไปต่อยอด ตลกของเราไม่ได้สร้างเพื่อเป็นตลกอย่างเดียว เราสร้างเพื่อเป็นพระเอก เป็นได้หลากหลาย ถามว่าทุกวันนี้ตลกขาดแคลนไหม คือมันก็ซ้ำๆ กันอยู่ไม่กี่คน หน้าเดิม ดังนั้นเราต้องสร้างคนรุ่นใหม่ขึ้นไป เดี๋ยวนี้คาเฟ่มันก็ไม่ค่อยมีแล้ว เราก็ต้องสร้าง ปรับปรุงภาพลักษณ์ตลกขึ้นมาใหม่ โดยใช้เด็กรุ่นใหม่เป็นคนเล่าแทน มันจะได้อยู่ใกล้คนมากขึ้น
       
       เผยบุคลิกตลกในอุดมคติต้องสุภาพไม่หยาบคาย มีความรู้การศึกษา รับตอนนี้มีหลายช่องติดต่อให้ไปร่วมทำงานด้วยหลังประมูลทีวีดิจิตอล
       “ในสังคมยุคใหม่มันต้องพัฒนาไป จริงๆ มุกมันก็ตั้งแต่รุ่นครูบาอาจารย์โบราณนั่นแหละ แต่เราก็เอามาพัฒนาได้ เราเอามาใส่หีบห่อใหม่ มันก็ดูดีขึ้นสำหรับในยุคสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์ก มันต้องไปพร้อมกัน ตลกจะมาล้าหลังอยู่ก็ไม่ได้ ตอนนี้ผมเล่ามันก็ไม่ขำแล้ว ต้องให้เด็กรุ่นใหม่ๆ มาเล่าเรื่องแทนแต่ก็อยู่ในกรอบที่เรากำหนด”
       
       “สำหรับคุณสมบัติตลกรุ่นใหม่ที่เราอยากให้เป็นคือเรื่องบุคลิกภาพต้องดี และต้องไม่หยาบคาย มีองค์ความรู้ทั้งศาสตร์และศิลป์ก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งสถาบันผมต้องมีองค์ความรู้พื้นฐานศิลปะพื้นบ้านสอดแทรกอยู่เสมอ ทุกคนต้องมีองค์ความรู้พื้นฐาน วันนี้ตลกยืนในตลาดบันเทิงในระยะยาวก็มีองค์ความรู้จากศิลปวัฒนธรรมไทย คือองค์ความรู้ศาสตร์และศิลป์ที่เป็นวัฒนธรรมความเป็นไทย คนไทยก็ยังต้องเสพอยู่ แต่อยู่ที่การนำเสนอว่าเราจะนำเสนอแบบไหนเท่านั้นเอง ในส่วนทีวีดิจิตอลก็มีหลายที่มาติดต่อผมเยอะอยู่ เพราะผมมีทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ผมเองก็สนใจอยู่และน่าจะเป็นไปได้ครับ”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)