ไม่ง้อแบบเรียน "หน่อง" เตรียมปัดฝุ่นละครอิงประวัติศาสตร์ "บางระจัน" หวังให้เด็กไทยซึมซับความเสียสละและความรักชาติของบรรพบุรุษไทย เชื่อเข้ากับสถานการณ์บ้านเมือง เผยแค่อ่านเรื่องย่อยังต้องร้องไห้ด้วยความประทับใจ เตรียมเอาเรื่องราวในประวัติศาสตร์ไทยมาทำเป็นละครอีกครั้งสำหรับผู้จัดละครคนดัง “หน่อง อรุโณชา ภาณุพันธุ์” แห่งค่าย “บรอดคาซท์ฯ” กับละครเรื่อง "บางระจัน" โดยเจ้าตัวยอมรับโปรเจ็กต์นี้ถือเป็นชิ้นใหญ่สุดเท่าที่ตนเองเคยทำมาเลยทีเดียว
"คนจะมองเอ๊ะ...บางระจันเวอร์ชันน่าจะไฮโซรึเปล่า มันไม่ขนาดนั้นค่ะเรียกว่าสมจริง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่การทำงานยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่พี่หน่องเลยทำมาเลย นักแสดง 54 ชีวิต ทีมงานแต่งหน้าทำผม 60 คน แล้วยังมีทีมงานอีกมากกว่าปกติถึง 4 เท่า ประมาณ 100 ชีวิต ตอนนี้ก็กำลังถ่ายทำอยู่แฟนๆ น่าจะได้ดูกันในเดือนกรกฎาคม เรียกว่าเป็นฟอร์มยักษ์ของปีเลย"
"พี่หน่องเชื่อว่าเรื่องนี้ทันกระแสบ้านเมืองเรานะ ละครในเรื่องจะบอกเลยว่าสิ่งที่เราจะรักษาแผ่นดินไทยเอาไว้ได้ไม่มีอะไรเลยนอกเสียจากความสามัคคี เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ซาบซึ้งมากและพี่หน่องเองอยากให้ลูกหลายไทยได้ชมกันว่าแผ่นดินไทยเรากว่าจะมีวันนี้ได้ต้องเสียเลือด เสียเนื้อ เสียชีวิตมามากมายเพื่อรักษาแผ่นดินนี้เอาไว้"
"บทประพันธ์เราก็ไม่ได้ปรับอะไรเลย พี่หน่องมองว่าเรื่องนี้ดูกี่ทีก็ทันสมัย สิ่งที่จะเพิ่มเข้ามาคงเป็นเรื่องราวที่อิงประวัติศาสตร์มากขึ้น เพื่อที่ว่าเด็กๆ ที่ไม่ค่อยได้เรียนประวัติศาสตร์ในสมัยนี้จะได้มีความรู้ไปด้วย พี่หน่องมองว่าเด็กในยุคนี้ยังไม่ค่อยเข้าใจและอินกับประวัติศาสตร์เราเลยอยากจะเสริมตรงนี้เข้าไป"
เผยอ่านเรื่องย่อแล้วถึงกับร้องไห้...“พี่หน่องเองได้มีโอกาสอ่านเรื่องย่อก่อนจะลงบทพี่หน่องเองยังร้องไห้เลย ถามนักแสดงคนอื่นๆ เขาอ่านบทเขาก็ร้องไห้กันหมด ยิ่งในตอนที่ต้องสร้างปืนใหญ่ ทุกคนต้องถอดสร้อย ถอดเครื่องประดับทุกสิ่งทุกอย่างมีค่าไปหลอมเอามาทำปืนใหญ่ แต่สุดท้ายก็รวมไม่ได้ปืนก็แตก"
"ถ้าใครได้ชมตอนนี้บอกเลยว่าเป็นซีนที่สะเทือนใจมาก แล้วครั้งสุดท้ายของศึกบ้านบางระจันคือทุกคนที่ออกไปรบทั้งๆ ที่รู้ว่าจะต้องตาย ไม่สามารถจะสู้ได้เลย ก็จะบอกว่าพระครูธรรมโชติต้องไปกับพวกเรานะ เราอยู่ร่วมรบกันมาตั้งนาน พระครูก็บอกว่าอาตมาคงไปกับโยมไม่ได้ถ้าอาตมาไปแล้วใครจะบังสุกุลให้พวกโยม นี่เป็นคำพูดในประวัติศาสตร์นะคะ”
เผยเจออาถรรพ์ละครประวัติศาสตร์ตน คนใกล้ชิดและทีมงานมีอาการเจ็บป่วยไปตามๆ กัน...“บอกเลยเรื่องนี้พี่หน่องเองต้องบวงสรวงหลายครั้ง และต้องทำพิธีกราบขอขมาบรรพบุรุษว่าวัตถุประสงค์ที่เรามาทำตรงนี้เราอยากจะทำเพื่อประเทศชาติ ทำให้แผ่นดิน ให้ลูกหลานไทยรักแผ่นดินไทย ตอบแทนคุณแผ่นดินไทย"
"ก็ไม่รู้นะว่ามันมาจากอาถรรพ์อะไรต่างๆ ด้วยรึเปล่า แต่เชื่อไหมว่าตั้งแต่ถ่ายทำเรื่องนี้พี่หน่องปวดบ่ามาก ทั้งคอทั้งหลังก้ม หัน เอี้ยวตัวไม่ได้เลย นี่ปวดมา 2 เดือนแล้ว ก็พยายามรักษาก็ไม่หายเลย เจ็บตลอดแบบไม่ทรายสาเหตุ เลขาที่หน่องเองก็เป็นแต่เขาเป็นที่เข่า ก็เป็นไล่ๆ กัน"
"คนอื่นๆ ในกองก็จะมีเจ็บตัวบ้าง ท้องเสียบ้างตลอดที่ถ่ายกัน 2-3 ตอน ก็ยังไม่ได้มีโอกาสปรึกษาใครอย่างจริงจังนะ แต่เลขาก็ไปแอบถามๆ มา พราหมณ์ท่านบอกว่าเป็นมาจากเจ้ากรรมนายเวร ทีมงานอาจรับเคราะห์กันไปเล็กน้อย แต่ละครจะประสบความสำเร็จ”
ที่มา: manager.co.th