Author Topic: เจพีกรุ๊ป แตกไลน์ ก้าวสู่ธุรกิจไอที  (Read 557 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


นายจักรพันธ์ ประจวบเหมาะ ผู้บริหารหนุ่มวัยเพียง 30 ปี ของเจพีกรุ๊ป ที่มาพร้อมกับตำแหน่ง นายกเทศมนตรี อ.กุยบุรี 2 สมัยซ้อน


 ภายหลังจากประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์นำเข้า-ส่งออกรถมอเตอร์ไซค์จากทั่วโลก รวมไปถึงธุรกิจลีสซิ่งด้วยระยะเวลาเพียง 2 ปี ล่าสุดเจพี กรุ๊ป ได้สร้างความฮือฮา แตกไลน์ธุรกิจใหม่ก้าวเข้าสู่ธุรกิจไอทีอย่างเต็มตัว
       
       นายจักรพันธ์ ประจวบเหมาะ ผู้บริหารหนุ่มวัยเพียง 30 ปี ของเจพีกรุ๊ป ที่มาพร้อมกับตำแหน่งนายกเทศมนตรี อ.กุยบุรี 2 สมัยซ้อน มองว่า ตลาดไอทีจะโตต่อเนื่องยาวไปอีกหลายปี โดยเฉพาะแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพราะมีการใช้งานที่หลากหลายและการพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ ดังนั้นจึงมองเห็นโอกาสและผันตัวเข้าสู่ธุรกิจไอทีด้วยการเปิดตัวบริษัท เจพี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 70 ล้านบาท พร้อมเปิดศูนย์ซ่อมและจำหน่ายอุปกรณ์ไอทีและโทรศัพท์มือถือ ภายใต้แบรนด์ “ไอวิช” ที่ห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ บางแค ที่เป็นทั้งสำนักงานใหญ่และสาขาแรกของบริษัท
       
       “การที่ผมสนใจธุรกิจไอทีนั้น เพราะเห็นว่า อุปกรณ์ไอทีเป็นสิ่งที่มนุษย์ขาดไม่ได้ และเชื่อว่าในอนาคตจะเป็นยิ่งกว่าปัจจัย 4 เสียอีก” จักรพันธ์กล่าว
       
       ทั้งนี้ ศูนย์ไอวิชจะมีทั้งการจำหน่ายอุปกรณ์ใหม่และมือสองในสัดส่วนอย่างละ 50% โดยสินค้าที่เป็นมือสองนั้นจะมีสภาพเหมือนใหม่ 99% โดยรับมาจากตัวแทนจำหน่ายของแบรนด์ต่างๆ ที่รับประกันคุณภาพตามมาตรฐาน ทำให้ผู้ที่สนใจนั้นมีโอกาสเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นในราคาที่ถูกกว่า โดยในระยะแรกจะมีสินค้าอยู่ 2 แบรนด์ คือ แอปเปิล และซัมซุง แต่ในเดือน ม.ค. 2557 จะนำสินค้าแบรนด์อื่นๆ มาจำหน่ายเพิ่ม ทั้ง ไอโมบาย โนเกีย และ ออปโป้
       
       สำหรับแผนธุรกิจของบริษัทในปี 2557 จะมีการเพิ่มบริการในส่วนของซิมการ์ดในรูปแบบ “ไอวิช” ซึ่งจะเปิดตัวพร้อมโปรโมชันเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกระดับ และให้สามารถตอบโจทย์ของลูกค้าในกลุ่มคนรุ่นใหม่อีกด้วย ขณะเดียวกัน บริษัทได้วางแผนขยายศูนย์บริการ โดยในปี 2557 จะมีการเปิดศูนย์บริการทั่วกรุงเทพฯ อย่าง เดอะมอลล์ และซีคอนสแควร์ ทุกสาขา ซึ่งล่าสุดได้เซ็นสัญญาเช่าพื้นที่ไปแล้ว 10 แห่ง ด้วยงบลงทุนแห่งละไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท แบ่งเป็นเครือเมเจอร์ 2 แห่ง ที่รัชโยธิน และเซ็นจูรี่ มอลล์ และเดอะมอลล์ อีก 8 แห่ง ขณะที่สยามพารากอนนั้น คาดว่าจะได้เห็นภายในอีก 2 ปี

 นอกจากการจำหน่ายสินค้าตามสาขาต่างๆ แล้ว เจพี คอร์ปอเรชั่นยังมีแผนขยายช่องทางการจำหน่ายไปยังกลุ่มภาครัฐ ทั้งกลุ่มข้าราชการครู หน่วยงานในสังกัดกรมการปกครองท้องถิ่น (อปท.) และโรงงานเอกชนต่างๆ โดยจะแบ่งตามภูมิภาคไป อย่างการจำหน่ายผ่านสหกรณ์ครู จะเริ่มต้นจากภาคเหนือก่อนไปยังภูมิภาคอื่นต่อไป ขณะที่หน่วยงานในสังกัดกรมการปกครองท้องถิ่น (อปท.) จะเริ่มจากภาคกลางก่อนเป็นอันดับแรก และโรงงานเอกชนต่างๆ ในภาคกลาง ซึ่งบริษัทฯ มีสายสัมพันธ์ที่ดีมาช้านาน โดยรูปแบบการนำเสนอนั้นจะนำสินค้าไปจำหน่ายในราคาพิเศษ ถูกกว่าหน้าร้าน 5-10% และให้หน่วยงานราชการและเจ้าของโรงงานต่างๆ จ่ายเงินสดให้บริษัทตามออเดอร์ที่สั่งมา ซึ่งหน่วยงานราชการและเจ้าของโรงงานจะคิดอัตราดอกเบี้ยตามที่แต่ละแห่งกำหนดเอง
       
       “จากแผนงานทั้งหมดในปี 2557 ที่กล่าวมา จะทำให้ เจพี คอร์ปอเรชั่น มีรายได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ 30-50 ล้านบาท”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)