อีเอ็มซีเผยปี 2557 เวอร์ชวลไลเซชันและคลาวด์จะเปลี่ยนผ่านด้านไอทีเข้าไปสู่ยุคโมบิลิตี ส่วนบิ๊กดาต้าจะเข้ามาช่วยทางด้านการแข่งขัน สร้างความแตกต่าง แนะธุรกิจต้องวางแผนให้มากและนำเครื่องมือใหม่ๆ เข้ามาปรับเพื่อความสำเร็จ พร้อมเปิดตัวสตอเรจอาเรย์ XtremIO ที่ใช้หน่วยเก็บข้อมูลแบบแฟลชทั้งหมด พร้อมจับมือพาร์ตเนอร์เจาะกลุ่มตลาดแบงก์ เทเลคอม มีเดีย และเอนเตอร์เทนเมนต์ นายนฐกร พจนสัจ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อีเอ็มซี อินฟอร์เมชั่น ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปี 2557 เวอร์ชวลไลเซชันและคลาวด์จะเป็นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนผ่านด้านไอที โดยจะทำให้ธุรกิจก้าวเข้าไปสู่ยุคของโมบิลิตีและอินเทลลิเจนต์ โดยองค์กรที่มีมาตรฐานทางด้านไอทีสูงจะเริ่มมีการปฏิรูปทางด้านแอปพลิเคชัน โครงสร้างพื้นฐาน และเพิ่มขีดความสามารถในการกู้คืนข้อมูลและความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ สำหรับในเอเชียแปซิฟิกรวมถึงประเทศญี่ปุ่น บิ๊กดาต้าจะกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถช่วยทางด้านการแข่งขัน สร้างความแตกต่าง รวมไปถึงการลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ส่วนบริษัทที่จะประสบความสำเร็จในปีนี้จะต้องเน้นการวางแผนให้มาก และพัฒนาทางด้านองค์ความรู้และทักษะ รวมไปถึงต้องสามารถต่อสู้กับภัยคุกคามทางด้านไอทีได้ และนำเครื่องมือต่างๆ มาปรับใช้อย่างถูกต้อง เพื่อปรับตัวรับสภาวะใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นให้ได้
“การ์ทเนอร์คาดว่าจะมีการใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในปี 2557 จะเติบโตขึ้นถึง 5.5% อยู่ที่ระดับ 767 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยเพิ่มจาก 727 พันล้านเหรียญในปีนี้ และจะเพิ่มเป็น 933 พันล้านเหรียญในปี 2560”
สำหรับในประเทศไทย ขณะนี้ลูกค้าเริ่มมองการใช้งานดาต้าเซ็นเตอร์มากขึ้น และมองเรื่องการยูทิไลต์ดาต้าเซ็นเตอร์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ยังเริ่มติดตามเทคโนโลยีใหม่ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีใหม่ที่มีความสะดวกสบายมากกว่า อย่างเช่นการเก็บข้อมูลใส่เทปเริ่มเปลี่ยนมาเป็นดิสก์มากขึ้น เพื่อการดึงข้อมูลมาใช้งานได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น รวมไปถึงการให้ความสำคัญของข้อมูลมีมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกธุรกิจจึงเริ่มให้ความสำคัญต่อการรักษาข้อมูลเหล่านี้ไว้ได้
อีเอ็มซีคาดว่าปีหน้าเทคโนโลยีในกลุ่มของสตอเรจ แฟลช จะมีมากขึ้น บิ๊กดาต้า อนาไลติก และบิสิเนสคอนทินิวตีจะเริ่มกลายเป็นตัวเลือกสำคัญ ดังนั้นอีเอ็มซีจึงได้ทำการเปิดตัวสตอเรจอาเรย์ XtremIO ใหม่ที่ประกอบด้วยหน่วยเก็บข้อมูลแบบแฟลชทั้งหมด เหมาะกับกลุ่มที่ใช้งานด้านวิดีไอ (เวอร์ชวลเดสก์ท็อป) เวอร์ชวลเซิร์ฟเวอร์ และดาต้าเบส ที่ต้องการพลังสูงๆ
EMC XtremIO เหมาะสำหรับเวิร์กโหลดทุกประเภท รองรับทุกการใช้งานด้านเก็บข้อมูลในทุกช่วงเวลา สถาปัตยกรรมแบบมัลติคอนโทรเลอร์ที่ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับแฟลช สามารถขจัดข้อมูลซ้ำซ้อนที่เปิดใช้งานอยู่ตลอดเวลา และทำงานทันทีที่รับข้อมูลเข้ามา นอกจากนี้ยังสามารถปกป้องข้อมูลด้วยประสิทธิภาพสูงกว่าถึง 6 เท่า และให้ความเร็วสูงกว่า 4 เท่าเมื่อเทียบกับ RAID รุ่นเก่า
“ไอดีซีคาดว่าในตลาดอาเรย์แบบแฟลช ตลาดจะมีการเติบโตสูงถึง 1.2 พันล้านเหรียญในปี 2015 ซึ่งปัจจุบันเวนเดอร์ทั่วไปในตลาดเทคโนโลยีแฟลชนี้จะอยู่ในไฮบริดเออเรย์มีเทคโนโลยี SAN และ NAS แต่สำหรับไฮบริดของอีเอ็มซีเป็นยูนิไฟล์ มีดิสก์อยู่หลายประเภทที่มีความเร็วต่างกันเพื่อการใช้งานที่ต่างกัน อีเอ็มซีรวมแฟลชทั้งหมดไว้ด้วยกัน และสามารถนำแฟลชไปเก็บไว้ในส่วนเซิร์ฟเวอร์ได้ จึงมีความโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่ง”
นายนฐกรกล่าวต่อว่า การออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างออลแฟลชอาเรย์ในเมืองไทยเราจะมุ่งเน้นการทำงานกับพาร์ตเนอร์ในการเข้าถึงกลุ่มเอนเตอร์ไพรส์ โดยจะมีการจัดพาร์ตเนอร์ที่จะนำเสนอโซลูชันในกลุ่มที่มีผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม โดยผลิตภัณฑ์ EMC XtremIO นี้อีเอ็มซีจะเน้นเจาะกลุ่มธนาคารและสถาบันการเงิน กลุ่มเทเลคอม มีเดียและเอนเตอร์เทนเมนต์ ภาครัฐ และกลุ่มโรงงาน
Company Relate Link :
EMC
ที่มา: manager.co.th
