ไมโครซอฟท์พร้อมที่จะสนับสนุนระบบการศึกษาของไทยอย่างต่อเนื่อง หลังใช้งบพัฒนาไปแล้วกว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เผยล่าสุดยอดการใช้งานผลิตภัณฑ์ Office 365 for Education เพิ่มจาก 7 แสนราย เป็น 2 ล้านรายแล้ว ในระยะเวลาเพียง 6 เดือนที่ผ่านมา ชี้ยอดดังกล่าวทำให้ไทยก้าวสู่อันดับที่ 5 ของโลกที่นำระบบคลาวด์มาใช้ในห้องเรียน นายฮาเรซ คูบจันตานิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ไมโครซอฟท์ยังคงมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในภาคการศึกษา หลังจากได้มีการลงทุนในการพัฒนาโปรแกรมเพื่อระบบการศึกษาประเทศไทยมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โดยใช้งบประมาณไปแล้วประมาณ 5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อสนับสนุนเครื่องมือ เทคโนโลยีที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพให้แก่นักศึกษาและผู้สอน เพื่อสร้างศักยภาพการเรียนการสอนในประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการศึกษาของอาเซียน
หลังจากไมโครซอฟท์นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่อันเป็นบริการคลาวด์สำหรับสถาบันการศึกษาอย่าง Office 365 for Education ไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พบว่ามีนักศึกษาและบุคลากรระดับอุดมศึกษาใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า เป็น 2 ล้านราย จากเดิม 700,000 ราย และทำให้ไทยก้าวขึ้นเป็นประเทศแรกในอาเซียน และเป็นประเทศลำดับที่ 5 ของโลกในการนำระบบคลาวด์มาใช้ในห้องเรียน
“นักศึกษาของไทยได้รับรางวัลจากไมโครซอฟท์มากที่สุดในโลกจากการประกวดในหลายๆ สาขา ดังนั้นการส่งเสริมด้วยโปรแกรมต่างๆ น่าจะช่วยสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพให้แก่ประเทศไทยได้เพิ่มขึ้นอีก ซึ่งที่ผ่านมาไมโครซอฟต์ได้ร่วมมือกับประเทศโปรตุเกสในการช่วยเข้าไปพัฒนาระบบการสอน การใช้งานโซลูชัน มีแนวทางการสอนที่ชัดเจน ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวจะนำมาใช้ในประเทศไทยด้วย”
นายฮาเรซกล่าวต่อว่า คลาวด์มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น และไมโครซอฟท์มีทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก Office 365 for Education ถือเป็นอีกหนึ่งของการนำระบบคลาวด์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ช่วยให้นักศึกษาและคณาจารย์ของสถาบันที่นำไปใช้ สามารถสื่อสารและทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปัจจุบันมีนักศึกษาและคณาจารย์มากกว่า 110 ล้านคนทั่วโลกที่ใช้ผลิตภัณฑ์นี้ โดยในประเทศไทยมีผู้ใช้กว่า 60 มหาวิทยาลัย
นอกเหนือไปจากการสนับสนุนทางด้านซอฟต์แวร์แล้ว ในส่วนของดีไวซ์ต่างๆ ของไมโครซอฟท์นั้น ที่ผ่านมาได้มีการทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ในการทำงานร่วมกันเป็นอีโคซิสเต็มส์ เพื่อนำเสนออุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพเหมาะสมเข้าสู่ตลาดการศึกษา เพื่อการใช้งานร่วมกันระหว่างฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้าน ผศ.โปรดปราน สิริธีรศาสน์ ผู้อำนวยการสถาบันประมวลข้อมูลเพื่อการศึกษาและการพัฒนา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาธรรมศาสตร์ได้ใช้ไมโครซอฟท์ในการทำงานของบุคลากร อาจารย์ อยู่แล้ว ต่อมาได้นำ Office 365 for Education มาใช้ร่วมกับนักศึกษาด้วย เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของอธิการบดีที่ต้องการให้สถาบันเป็น “ธรรมศาสตร์ทุกที่ทุกเวลา” ที่นักศึกษาจะสามารถใช้งานระบบของมหาวิทยาลัยได้ทุกที่ทุกเวลา
ดังนั้น ปัจจุบันการจัดการแอ็กเคานต์นักศึกษามีความสะดวกมากขึ้น และทางมหาวิทยาลัยได้เริ่มให้นักศึกษานำไปใช้กับการลงทะเบียนและการสอบ ซึ่งนักศึกษาจะรู้ว่าเรียนเวลาไหน สอบวันไหน และต่อไปจะนำไปใช้กับระบบต่างๆ ในมหาวิทยาลัยให้มากขึ้น
Company Relate Link :
Microsoft
ที่มา: manager.co.th