ชนะอเมริกัน ญี่ปุ่นขึ้นแชมป์ประเทศใช้จ่ายบน"แอปมือถือ" มากสุดในโลกประชากรญี่ปุ่น 127 ล้านคนนั้นมียอดใช้จ่ายมากกว่าประชากรอเมริกัน 310 ล้านคนถึง 10%ชาวญี่ปุ่นยินดีจ่ายค่าบริการแม้จะใช้งานฟีเจอร์โฟน ในภาพคือกราฟแสดงสัดส่วนการใช้จ่ายของชาวญี่ปุ่นบนฟีเจอร์โฟนเทียบกับสมาร์ทโฟนญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศเดียวในโลกที่ชาวแอนดรอยด์ใช้จ่ายเงินบนแอปพลิเคชันไม่น้อยกว่าชาวไอโฟน เมืองปลาดิบอย่างญี่ปุ่นสามารถคว่ำสหรัฐอเมริกา แล้วขึ้นเป็นแชมป์ประเทศที่มีการใช้จ่ายบนโมบายแอปพลิเคชันมากที่สุดในโลก โดยสถิติล่าสุดระบุว่าชาวญี่ปุ่นมีอัตราการใช้จ่ายเงินบนแอปพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่มากกว่าชาวอเมริกันถึง 2.5 เท่าตัว ปี 2012 ที่ผ่านมา การสำรวจพบว่าชาวอเมริกันมียอดใช้จ่ายบนโมบายแอปพลิเคชันมากกว่าชาวญี่ปุ่นถึง 30% โดยคำนวณจากแอปพลิเคชันที่วางจำหน่ายและเปิดให้ดาวน์โหลดบนร้านกูเกิลเพลย์ (Google Play) ของกูเกิลและร้านแอปสโตร์ (App Store) ของแอปเปิล แต่สถิติเดือนตุลาคมปีนี้ ปรากฎว่าประชากรญี่ปุ่น 127 ล้านคนนั้นมียอดใช้จ่ายมากกว่าประชากรอเมริกัน 310 ล้านคนถึง 10%
หากคำนวณตามสัดส่วนประชากร ข้อมูลจากบริษัทวิจัยแอป แอนนี่ (App Annie) นี้ทำให้สามารถสรุปได้ว่าชาวญี่ปุ่นมีสัดส่วนการใช้จ่ายเงินบนแอปพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่มากกว่าชาวอเมริกันถึง 2.5 เท่า โดยการสำรวจพบว่าแอปพลิเคชันเกมยังคงเป็นประเภทแอปพลิเคชันที่สามารถดูดเงินจากผู้ใช้ได้มากที่สุด
ย้อนกลับไปในปี 2012 สัดส่วนการใช้จ่ายบนแอปพลิเคชันเกมของชาวญี่ปุ่นนั้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 400% ซึ่งถือว่าเป็นประเภทแอปพลิเคชันที่มีการเติบโตด้านการใช้จ่ายมากที่สุดเมื่อเทียบกับแอปพลิเคชันกลุ่มอื่นที่มีอัตราการเติบโตราว 30% โดยสัดส่วนการใช้จ่าย 400% ที่เพิ่มขึ้นนี้เหนือกว่าประชากรในประเทศอื่นที่มีการใช้จ่ายบนแอปพลิเคชันเกมเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัว
การสำรวจพบว่าการเติบโตของยอดใช้จ่ายบนแอปพลิเคชันเกมของชาวญี่ปุ่นนั้นได้รับแรงผลักดันจากการโฆษณาบนทีวี ซึ่งเป็นระบบโฆษณาออฟไลน์แบบเก่าที่สามารถกระจายช่องทางการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันในวงกว้าง จุดนี้รายงานพบว่ายอดการดาวน์โหลดของแอปพลิเคชันเกมนั้นจะพุ่งกระฉูดทันทีหลังจากโฆษณาถูกออกอากาศทางทีวี
นอกจากโฆษณา ปัจจัยสำคัญอีกส่วนที่ช่วยผลักดันให้ยอดการใช้จ่ายผ่านโมบายแอปพลิเคชันเพิ่มขึ้นก้าวกระโดด คือพฤติกรรมการบริโภคของชาวญี่ปุ่น ที่ผ่านมา ชาวญี่ปุ่นยินดีจ่ายค่าบริการแม้จะใช้งานฟีเจอร์โฟน ซึ่งเมื่อการขยายตัวของตลาดสมาร์ทโฟนเกิดขึ้นในญี่ปุ่นจนมีผู้ใช้งานมากขึ้น ยอดการใช้จ่ายบนสมาร์ทโฟนจึงยิ่งเพิ่มขึ้นทวีคูณอย่างรวดเร็ว
ที่สำคัญ ร้านดาวน์โหลดแอปพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์แอนดรอยด์อย่างกูเกิลเพลย์นั้นมีการให้บริการแบบโอเปอเรเตอร์บิลลิง (carrier-billing) หรือการเปิดให้ผู้ใช้ชำระค่าบริการบนแอปพลิเคชันได้ผ่านบิลชำระค่าบริการโทรศัพท์มือถือ ความสะดวกสบายและปลอดภัยในการชำระเงินผ่านโอเปอเรเตอร์ถือเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผู้ใช้ในญี่ปุ่นสมัครใจซื้อหาบริการและสินค้าบนแอปพลิเคชัน จุดนี้ กูเกิลระบุว่ารายได้ของนักพัฒนาแอปพลิเคชันนั้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 14 เท่าตัวเมื่อกูเกิลจับมือกับโอเปอเรเตอร์ญี่ปุ่นให้บริการ carrier billing แก่ชาวปลาดิบ
ข้อมูลนี้สะท้อนว่ารูปแบบการเก็บค่าบริการ carrier billing นั้นมีความสำคัญมาก โดยปี 2012 กูเกิลพบว่ายอดใช้จ่ายบนแอปพลิเคชันแอนดรอยด์ของชาวญี่ปุ่นนั้นน้อยกว่ายอดใช้จ่ายบนแอปพลิเคชันสำหรับไอโอเอสมากกว่า 50% กระทั่งตุลาคมปี 2013 ยอดใช้จ่ายของทั้ง 2 กลุ่มเริ่มเท่ากัน ซึ่งผลที่เกิดขึ้นในขณะนี้คือญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศเดียวในโลกที่ชาวแอนดรอยด์ใช้จ่ายเงินบนแอปพลิเคชันไม่น้อยกว่าชาวไอโฟนที่มา: manager.co.th