Author Topic: “หนิง” ยันฟ้อง “ไฮโซน้ำหวาน” ไม่ต้องการเงิน แต่อยากให้รู้ว่าตนเป็นฝ่ายโดนกระทำ  (Read 752 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


“หนิง” เผยเตรียมขึ้นศาล 21 ธ.ค.นี้ ในคดีฟ้อง “ไฮโซน้ำหวาน” ข้อหาหมิ่นประมาท ยันฟ้องศาลครั้งนี้ไม่ได้หวังเอาค่าเสียหาย แต่ต้องการให้สังคมรู้ว่าตนกับน้องสาวไม่ได้รุมตบอีกฝ่าย แต่โดนกระทำมาโดยตลอด
       
       ยังรอข้อยุติ สำหรับคดีที่ “หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ” ฟ้อง “ไฮโซน้ำหวาน วรพรรณ พันธุ์คงชื่น” ข้อหาหมิ่นประมาท หลังอีกฝ่ายแจ้งความถูก “แนน ชุมพิชา พัฒนาหิรัญ” น้องสาวของตน รุมตบคาร้านอาหารจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทางฝ่ายของแนนก็ได้เข้าแจ้งความไฮโซน้ำหวานข้อหาชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกายเช่นกัน โดยยืนยันว่าสิ่งที่ไฮโซน้ำหวานพูดไม่เป็นความจริง ล่าสุดเจอตัวหนิงขณะมาร่วมงานบวงสรวงซิทคอม “หมัดเด็ดเสียงทอง” ที่เจ้าตัวชิมลางเป็นผู้จัดเรื่องแรก ก็เลยถามถึงความคืบหน้าของคดี หนิงก็เผยว่าวันที่ 21 ธันวาคม นี้ ต้องไปขึ้นศาล
       
       “ก็รอวันที่ 21 ธันวาคมค่ะ ทนายแจ้งว่าหนิงควรจะไปเอง ส่วนรายละเอียดหนิงก็ยังไม่ทราบนะ แต่เท่าที่รู้คือศาลเรียกเราไปให้ข้อมูลในเรื่องการฟ้องหมิ่นประมาท มีเจตนาโฆษณาเพื่อให้เกิดการเข้าใจผิด ถามว่าจะมีการไกล่เกลี่ยไหม ก็ยังไม่มีใครเรียกไกล่เกลี่ยเลยค่ะ ก็ต้องปล่อยให้เป็นดุลพินิจของศาลว่าจะทำยังไง หนิงไม่มีสิทธิ์ว่าจะไม่ฟ้องแล้วหรือว่ายังไงเดี๋ยวจะกลายเป็นว่าเราแจ้งความเท็จ หนิงขอดูก่อนละกันนะ ว่าหลังวันที่ 21 มันจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เพราะว่าตอนนี้หนิงก็ยังไม่สามารถตอบได้เพราะว่ายังไม่ถึงวันนั้น รู้แต่ว่าวันที่ 21 ต้องไปศาล ถามว่าคิดว่าเขาจะไปไหม ก็ไม่ทราบเหมือนกันนะ หนิงไม่ขอออกความเห็น เอาเป็นว่าหนิงของตอบในส่วนของหนิง”
       
       บอกฟ้องศาลครั้งนี้ไม่ได้หวังเอาค่าเสียหาย เผยต้องการชี้แจงว่าตนกับน้องสาวไม่ได้เป็นคนทำ แต่โดนกระทำมาโดยตลอด
       “การฟ้องครั้งนี้ไม่ได้คาดหวังในเรื่องเงินทองหรือว่าในเรื่องศักดิ์ศรีไม่ได้ต้องการเอาชนะ แต่สิ่งที่ต้องการคือชี้แจงให้ทุกๆ คนเข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนั้น ทั้งตัวหนิงและน้องสาวไม่ได้เป็นคนกระทำแบบนั้น ต้องการทำเพื่อที่จะปกป้องสิ่งที่ตัวเองถูกกระทำมาตลอดและก็ทำไม่ให้เราเป็นผู้ถูกกระทำอีก”
       
       “ยิ่งตัวหนิงเองหนังสือพิมพ์พาดหัวลงหน้าหนึ่งว่า หนิง ปณิตา ยกพวกรุมทำร้าย คือสิ่งที่มันเกิดขึ้นมันก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วนะ แต่เวลาหนิงเดินไปไหนก็แล้วแต่ คือถ้าเป็นคนที่ชอบหรือรักเรา ก็จะบอกว่าอย่าไปทำเองเลย บอกป้า บอกน้า บอกพี่ เดี๋ยวจัดการให้ แต่ก็ทำให้คนอื่นเข้าใจว่าเราเป็นคนทำซึ่งจริงๆ เราไม่ได้อยู่ ณ ตรงนั้น ทำให้เราดูเป็นคนที่อันธพาล แล้วตัวหนิงเองเราก็ทำธุรกิจหรือทำละครก็คงไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น”
       
       “มันคงต้องใช้มาตรการทางกฎหมายในการที่จะจัดการกับมัน เพราะเรื่องที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นปีจนจะสิ้นปี มันกลายเป็นว่าหนิงเป็นผู้ถูกกระทำไม่ว่าจะเรื่องใดๆ แม้กระทั่งข่าวล่าสุดหนิงก็เป็นผู้ถูกกระทำเหมือนกัน แล้วเราถูกกระทำบ่อยๆ เข้ามันก็ต้องทำอะไรบ้างเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องขึ้นอีก คือมันไม่ดีหรือเวลามีเรื่องราวแบบนี้คือคนที่เข้าใจก็เข้าใจไป แต่คนที่ไม่เข้าใจแล้วมีเรื่องบ่อยๆ คนที่เสียหายคือเรา คือเราโดนคนเดียวยังไม่เป็นไรนะคะ แต่มันส่งผลไปถึงครอบครัวทั้งครอบครัวของตัวเอง ครอบครอบครัวคุณจินที่เขามีหน้ามีตาในสังคม พ่อแม่ที่ต้องไปนั่งตอบคำถามคนอื่น น้องเอย เพื่อนเอย คือมันเหนื่อยที่ต้องมานั่งตอบคำถาม”
       
       ส่วนเรื่องจะจบหรือไม่ อยู่ที่ศาลตัดสิน
       “ส่วนเรื่องนี้จะจบไหม ก็เป็นเรื่องของศาลเป็นตัวตัดสิน แต่ขั้นถึงศาลแล้วก็คงยาวเนอะ กว่าจะตัดสินก็คงต้องใช้เวลาประมาณนึง อย่างคุณชาย (อานันท์ทวีป ชยางกูร ณ อยุธยา) มีเรื่องก่อนหนิงอีก ตัดสินไปเมื่อกี่วันเอง ส่วนผลจะเป็นยังไง ก็รอถามพี่ชายเองแล้วกัน แต่ผลออกมาก็น่าแฮปปี้”
       
       เคลียร์เรื่องคดีความเสร็จ “หนิง” ก็เผยถึงพัฒนาการของลูกสาว “น้องนิริน” ว่ากำลังฉายแววนักแสดงเหมือนแม่
       “นิรินเป็นเด็กที่ชอบเสียงเพลง ชอบเจอคน คือด้วยความที่หนิงท้อง แล้วเราทำงานตลอด เขาก็เลยเป็นเด็กไม่กลัวกล้อง อย่างเวลาเจอกล้องถ่ายรูปเข้าก็จะยิ้มจะเล่น ก็เคยมีติดต่อเข้ามานะ แต่คุณพ่อไม่ให้รับ ทำให้ไม่มีใครกล้าติดต่อ แต่จะมีนิตยสารประมาณเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ เป็นแนวประมาณครอบครัว (ออก3คนรับค่าตัว3เท่าเลยไหม?)ไม่ค่ะ ก็ปกติ”
       
       “เรตการรับงานของน้องก็ปกติค่ะ ไม่ได้ว่าต้องดูงานแพงๆ หรือว่าอะไร มันอยู่ที่ว่าบางงานไม่ได้แพงนะ แต่มันอยู่ที่คอนเน็คชั่นกัน อย่างพี่คนนี้เคยช่วยเรามา อย่างคนมีบุญคุณเราก็ช่วยกันกลับ อย่างบางงานไม่ได้ค่าตัวเราก็ไปไม่ได้เอาเรื่องเงินมาเป็นปัจจัย แต่สำคัญอยู่ที่เราพอใจว่าอยากทำหรือไม่อยากทำ”
       
       ล่าสุดเจ้าตัวยังโดดมาเป็นผู้จัดครั้งแรก ร่วมกับ “นีโน่ เมทนี บุรณศิริ” ประเดิมซิทคอมเรื่อง “หมัดเด็ดเสียงทอง” ออกอากาศทางช่อง 9
       “ก็เป็นการร่วมงานครั้งแรกกับพี่นีโน่ ดีใจค่ะ เหมือนได้รับความเมตตาให้ฝันเป็นจริง คือหนิงจะมีหน้าที่ดูรายละเอียดแทบทุกอย่างเพราะว่าเราเป็นคนอยู่เฉยๆ ไม่ได้ อย่างเรื่องอาหารของนักแสดงก็จะจัดเป็นมุมไปเลย อย่างในกองใครไม่สบายหนิงก็จะจัดการให้ อย่างนักแสดงหลายคนเป็นศิลปินยังไม่ชินกับการเล่นละคร เราก็จะช่วยดูว่าเอาแบบนี้นะ เพราะว่าเราเคยเล่นมาก่อน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เล่นมา 2 ปีแล้วก็ตาม แต่มันก็ยากมากนะ จากการที่เคยทำเบื้องหน้าแล้วมาทำเบื้องหลังไม่คิดว่าจะปวดหัวขนาดนี้ ทั้งดูเรื่องคิว รายละเอียด เรื่องเงิน แต่เราก็อยากให้งานออกมาดี มีคุณภาพ ถูกใจผู้บริโภคมากกว่าค่ะ”
       
       “ส่วนซิทคอมเรื่องนี้ก็จะมีทั้งหมด 13 ตอน ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ ก็เป็นซีซั่นแรกของเรา ก็น่าจะได้ชมอีกประมาณ 3 เดือน ถ้าผลตอบรับดีก็น่าจะมีต่อซีซั่น2 แต่ถ้าไม่ดีเราก็จะมีเรื่องใหม่อีก ก็อยากให้คอยติดตาม(หัวเราะ) แต่ก็จะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ”


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)