‘เอชพี' ชูผลิตภัณฑ์ครบไลน์ทั้งตลาดคอนซูเมอร์ และตลาดองค์กร ช่วยให้บริษัทยังสามารถรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมปรับกลยุทธ์นำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมเข้ามาเจาะกลุ่มผู้บริโภคโดยตรง เล็งเพิ่มช่องทางจำหน่ายออนไลน์ รับกระแสโซเชียลเน็ตเวิร์ก นายปวิณ วรพฤกษ์ ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจการพิมพ์และคอมพิวเตอร์ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด (เอชพี) กล่าวว่า แม้ในปีนี้ภาพรวมตลาดพีซีฝั่งคอนซูเมอร์อาจจะมีการหดตัวลงเกือบ 20% แต่ในมุมของเอชพี ยังถือว่าสามารถรักษาการเติบโตได้ เนื่องจากมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของตลาดองค์กรซึ่งยังมีกำลังซื้ออย่างต่อเนื่องมาช่วย เช่นเดียวกับกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มบีที่ต้องการนำไอทีเข้าไปใช้งานมากขึ้น
“ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาข้อมูลจากไอดีซีระบุว่าเอชพีมีส่วนแบ่งตลาดรวมพีซีเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 14% จากไตรมาสก่อนอยู่ที่ 9.5% ส่งผลให้ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 2 ส่วนในตลาดเครื่องพิมพ์เอชพีก็มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจาก 16.5% เป็น 20%"
แต่ในบางไลน์ผลิตภัณฑ์อย่างเวิร์กสเตชัน ซึ่งเป็นเครื่องพีซีไฮเอนด์เหมือนกับเซิฟร์เวอร์ ที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งถือครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 50% ส่วนในกลุ่มผลิตภัณฑ์อย่างบิสสิเนส โน้ตบุ๊ก และคอมเมอเชียลพีซีก็ครองส่วนแบ่งเป็นอันดับ 1
โดยปัจจุบันสัดส่วนระหว่างลูกค้าในกลุ่มคอนซูเมอร์ และองค์กรอยู่ที่ 60% ต่อ 40% ซึ่งถ้ามองแล้วก็คือในตลาดลูกค้าคอนซูเมอร์แม้ว่าตลาดจะหดตัวลง 20% แต่เอชพีก็หดตัวน้อยกว่าตลาด ในส่วนของลูกค้าองค์กรที่มีการเติบโต 5% เอชพีก็เติบโตสูงกว่าตลาด ทำให้โดยรวมแล้วเอชพียังมีการเติบโตอยู่
อีกส่วนหนึ่งคือการที่เอชพี ปรับกลยุทธ์ในการเข้าถึงลูกค้า ด้วยการเปลี่ยนแนวจากเดิมที่เน้นนำผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเข้ามาให้ลูกค้าเลือกใช้ กลายเป็นคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าเข้ามาแทนที่ โดยเซกเมนต์ที่เติบโตขึ้น จะมีอย่างผลิตภัณฑ์ที่เป็นหน้าจอทัชสกรีน โน้ตบุ๊กไฮบริด พีซีแบบออลอินวัน และเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันที่รองรับการเชื่อมต่อไวไฟเป็นต้น
นอกจากนี้ ยังได้มีการเปลี่ยนคอนเซปต์ผลิตภัณฑ์ให้เป็น 24 x 7 ไลฟ์สไตล โซลูชัน โดยเริ่มจากการมีสินค้าที่เป็นอุปกรณ์พกพาแบบทัชสกรีน ทั้งแท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก และไฮบริดโน้ตบุ๊ก รวมถึงเครื่องพิมพ์แบบหน้าจอทัชสกรีน
ถัดมาคือในแง่ของจุดขาย ที่จะมีการขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากขึ้น ซึ่งจะเน้นไปที่ห้างสรรพสินค้ามากขึ้น รวมถึงช่องทางจำหน่ายแบบออนไลน์ ส่วนโปรโมชันจะผสมผสานสินค้าที่หลากหลายเข้ามาทำราคาพิเศษ และยังมีการทำโปรโมชันร่วมกับพาร์ทเนอร์ให้มากขึ้น สุดท้ายคือในแง่ของบริการที่เตรียมแผนจะให้บริการแบบ 24 ชั่วโมง เพื่อตอบสนองการใช้งานของผู้บริโภคให้มากขึ้น
โดยในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เอชพี นำมาเสนอเพื่อช่วยให้ชีวิตการทำงาน และความบันเทิงลื่นไหลอย่างต่อเนื่อง ประกอบไปด้วย HP Envy Recline (42,990 บาท) และ HP Recline TouchSmart All-in-One PC (45,990 บาท) ซึ่งเป็นพีซีขนาดเล็ก ที่สามารถวางในสถานที่ซึ่งมีพื้นที่จำกัดอย่างคอนโดได้สะดวกมากขึ้น
ถัดมาก็จะมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโน้ตบุ๊กอย่าง HP Pavilion x2 (24,900 บาท) ซึ่งเป็นโน้ตบุ๊กที่สามารถถอดออกมาเป็นแท็บเล็ตได้ หรือจะเลือกใช้เป็นแท็บเล็ตแอนดรอยด์อย่าง HP Slate Extream สุดท้ายคือเครื่องพิมพ์ในตระกูล HP Deskjet InkAdvantage ราคาเริ่มต้นที่ 1,990 บาท
Company Relate Link :
HP
ที่มา: manager.co.th
