Author Topic: อวสาน Winamp แปลว่า ”ยุคแรกของเพลงดิจิตอล” จบลงแล้ว?  (Read 2318 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


หน้าตาโปรแกรม Winamp Media เวอร์ชันคลาสสิค


"Winamp.com และบริการที่เกี่ยวข้องบนเว็บไซต์จะหยุดให้บริการในวันที่ 20 ธันวาคม 2013 เช่นเดียวกับโปรแกรมเล่นไฟล์มัลติมีเดีย “วินแอม มีเดีย (Winamp Media)” ก็จะไม่เปิดให้บริการดาวน์โหลดอีกต่อไป ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมเวอร์ชันล่าสุดก่อนวันดังกล่าว พร้อมกับอ่านบันทึกรายการปรับปรุงซอฟต์แวร์ครั้งล่าสุดซึ่งเป็นการอัปเดทครั้งสุดท้ายได้ที่นี่”
       
       นี่คือข้อความที่ปรากฏบนเว็บไซต์ www.winamp.com/media-player/en ซึ่งชี้แจงอย่างเป็นทางการว่าจะปิดตำนานโปรแกรมเล่นไฟล์เพลงและวิดีโอที่โด่งดังเมื่อ 10 ปีที่แล้ว โดยมีข้อความขอบคุณต่อท้ายด้วยว่า ”ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนชุมชนวินแอมมาตลอด 15 ปี”
       
       สิ่งที่สามารถสรุปได้จากตอนอวสานของวินแอม คือการปิดฉากซากวัฒนธรรมที่หลงเหลือมาจากยุค Web 1.0 ซึ่งเป็นยุคที่เว็บไซต์ยังเต็มไปด้วยข้อความตัวอักษรและภาพนิ่ง และเป็นยุคที่ผู้คนต้องหาโปรแกรมเล่นไฟล์มัลติมีเดียติดตั้งไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของตัวเอง
       
       Winamp หรือวินแอมนั้นเป็นบริการี่เริ่มเปิดตัวตั้งแต่เมษายน ปี 1997 ในช่วงแรก วินแอมยึดจุดยืนเรื่องการเป็นโปรแกรมเล่นไฟล์ MP3 รายแรกของวงการ ในช่วงเวลานั้น วินแอมคือโปรแกรมที่สำคัญมากในความคิดของชาวออนไลน์ที่ต้องปรับตัวรับการปฏิวัติวงการไฟล์เพลงด้วยฟอร์แมตใหม่
       
       ความร้อนแรงของวินแอมทำให้เจ้าพ่อวงการออนไลน์ของสหรัฐฯอย่าง AOL ตัดสินใจซื้อวินแอมในปี 1999 ด้วยราคา 80 ล้านเหรียญสหรัฐจากบริษัท Nullsoft
       
       ถามว่าทำไมวินแอมที่สำคัญขนาดนั้นจึงถึงกาลอวสานในวันนี้ คำตอบคือการเปลี่ยนแปลงของโลกออนไลน์ที่เกิดขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ การส่งเพลง 1 เพลงผ่านเว็บไซต์นั้นอาจต้องใช้เวลานับชั่วโมง แต่วันนี้การส่งเพลงหลายร้อยเพลงสามารถเกิดขึ้นในชั่วอึดใจเดียว
       
       ยังไม่นับการเติบโตของยักษ์ใหญ่แอปเปิล (Apple) ซึ่งมีส่วนทำให้วินแอมสูญเสียส่วนแบ่งตลาดอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากในช่วงก่อนที่แอปเปิลจะกลายเป็นบริษัทไอทีอันดับ 1 ของโลก วินแอมเคยเป็นโปรแกรมที่ชาวโลกเลือกใช้เพื่อเก็บและเล่นเพลงหลายล้านไฟล์ แทนที่จะเป็นโปรแกรมไอจูนส์ (iTunes) ในขณะนี้
       
       สถิติปี 2001 บันทึกไว้ว่า ผู้ใช้มากกว่า 60 ล้านคนทั่วโลกเลือกใช้วินแอม ตัวเลขนี้ถือเป็นตัวเลขสูงสุดที่เกิดขึ้นในปี 2001 ซึ่งเป็นปีแรกที่เครื่องเล่นไฟล์ mp3 ของแอปเปิลอย่างไอพ็อด (iPod) รุ่นแรกเริ่มเปิดตัว โดย 2 ปีถัดมา ไอพ็อดนับล้านเครื่องถูกจำหน่ายไปจนทำให้โปรแกรมเล่นเพลง iTunes มีผู้ใช้เพิ่มขึ้นชนิดฉุดไม่อยู่
       
       ปัจจุบันซึ่งแอปเปิลเปิดตัวร้านขายเพลงออนไลน์อย่างไอจูนส์สโตร์ (iTunes Store) แล้ว โปรแกรมไอจูนส์ได้รับการบันทึกว่ามีผู้ใช้งานมากกว่า 575 ล้านคน (สถิติเดือนมิถุนายน 2013) จุดนี้แอปเปิลระบุว่า มีผู้ใช้ไอจูนสรายใหม่มากกว่า 500,000 คนต่อวัน
       
       แม้จะไม่สามารถทานกระแสไอจูนส์ได้ แต่วินแอมก็ยังสามารถทำรายได้แม้ในปี 2012 ที่ผ่านมา เบื้องต้นมีการประเมินว่าวินแอมสามารถทำเงินได้มากกว่า 6 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี และยังมีผู้ใช้บริการอีกหลายล้านคนทั่วโลก ซึ่งเป็นคนละกลุ่มกับผู้ใช้ไอจูนส์
       
       ชัดเจนว่า วินแอมคือโปรแกรมดังในยุคปี 90 โปรแกรมล่าสุดที่ปิดฉากตัวเองลงตามโปรแกรมอย่าง Netscape Navigator และ Windows 95 แม้ว่าจะพยายามปรับตัวด้วยการคลอดโปรแกรมฟังเพลงสำหรับอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ในปี 2010 และโปรแกรมสำหรับคอมพิวเตอร์แมคอินทอชในปี 2011 แล้วก็ตาม
       
       อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีข่าวลือว่าไมโครซอฟท์ (Microsoft) กำลังเจรจาเพื่อซื้อธุรกิจโปรแกรมวินแอมจาก AOL รวมถึงบริการสตรีมมิ่งอย่างเชาต์คาสต์ (Shoutcast) ซึ่งเป็นผลงานพัฒนาจากบริษัท Nullsoft เช่นกัน จุดนี้สำนักข่าวเทคครันช์ (techcrunch) ระบุว่าบริการ Shoutcast ก็จะปิดบริการในสหรัฐช่วงสัปดาห์เช่นกัน
       
       ทั้งหมดนี้ AOL ยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับข่าวลือที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจเป็นเพราะว่าการเจรจายังไม่มีข้อยุติก็ได้ ซึ่งหากข่าวลือนี้เป็นจริง เราอาจได้เห็นโลก Music 1.0 กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งในมุมที่ต่างไปก็ได้.

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics