“บุ๋ม” โต้ “แทค” เป็นมือที่สาม บอกตนแค่ไปทำงานให้แม่ของอีกฝ่ายบ่อย แต่ไม่มีอะไรนอกรอบกับแทคแน่นอน หวั่น “ติ๊งโน้ต” เข้าใจผิด รับเสียดายที่ต้องเลิกกันเพราะฝ่ายชายเป็นคนดี ก่อนบอกปีหน้าอาจถอนหุ้นออกจากทีมแข่งรถของติ๊งโน้ต หลังจากที่ “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” ออกมายอมรับน้ำตาซึมว่าได้เลิกกับแฟนหนุ่มรุ่นน้อง “ติ๊งโน้ต ฐิติพงศ์ วโรกร” แล้ว เพราะฝ่ายชายไม่เคยเชื่อใจระแวงว่าตนมีคนอื่น อีกทั้งยังหาว่าตนรักน้อยลง ทำให้รู้สึกเหนื่อยที่จะคบกันต่อไป แต่อยู่ๆ กลับมาข่าวออกมาสวนทางว่า ชนวนเหตุที่ทำเลิกกันเป็นเพราะ “แทค ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม” เป็นมือที่สามต่างหาก พอได้เจอตัวบุ๋มอีกครั้ง เจ้าตัวก็ยืนยันว่าไม่มีเรื่องของมือที่สามอย่างแน่นอน
“ถ้าน้องแทคจะเป็นมือที่สามคงเป็นไปนานแล้ว เพราะด้วยละครเรื่องแรกของแทคเขาก็เล่นเป็นลูกชายเรา ในซอย 3 สยามสแควร์นะ ถ้าจำไม่ผิด เพราะถ้าเป็นก็คงเป็นตั้งแต่ที่มีข่าวตอนนู้น เนื่องจากทางอาร์เอสให้ดารานักแสดงทุกคนไปที่ช่อง 5 รับโทรศัพท์ แล้วก็นัดรวมตัวกันที่เซ็นทรัลลาดพร้าว แต่ปรากฏว่าน้องเขาบอกว่าให้ช่วยเลือกเนคไทให้หน่อยเท่านั้นแหละค่ะ ก็มีข่าว”
รับยกหูโทร.หา “แทค” หลังมีข่าวเพราะตกใจว่ามีข่าวแบบนี้ได้ยังไง
“วันนั้นบุ๋มให้สัมภาษณ์ตอน 11 โมง (ออกมายอมรับว่าเลิกกัน) แต่ตอน3 ทุ่มมีข่าวขึ้นในอินสตาแกรมของนักข่าวว่ามีมือที่สามกับการเลิกรากันไป เราก็ เฮ้ย มีข่าวขึ้นมาใหม่อีกแล้ว เราก็เลยคุยกับน้องว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะว่าในข่าวเหมือนแทคไปพูดเล่นหรืออะไรสักอย่างนึง ซึ่งเราก็ต้องเคลียร์กับน้องก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น ว่าทำไมมีข่าวแบบนี้เกิดขึ้น”
“ถามว่าทำไมมีเบอร์ติดต่อกัน แน่นอนค่ะ บุ๋มทำงานให้แม่เขาบ่อย คือแม่คนที่ 2 ของเขาเป็นคุณครู แล้วก็ให้บุ๋มไปเป็นพิธีกรที่เชียงใหม่ โดยที่ไม่มีแทคเกี่ยวข้อง แล้วก็ทำงานส่งงานเหมือนงานอีเวนต์ แต่เราก็ถามน้องว่ามีอะไรหรือเปล่า หรือมีอะไรที่นักข่าวคุยอะไรกันแล้วมีอะไรที่ผิดสังเกต คุยไปคุยมาเขาก็บอกมาจากกุล่มกะเทยที่เขาเมาท์กัน เราก็เลยว่ามาเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ สักพักเราก็นึกออกว่าคราวก่อนมางานที่เดอะไนน์เซ็นเตอร์ แล้วเรามานั่งกินข้าวกัน แล้วทุกคนมองหน้ากัน แต่ว่าบุ๋มไม่ได้ว่าอะไร เขาก็คงเหมารวม”
แม้จะมีข่าว “แทค” เป็นมือที่สาม แต่เจ้าตัวก็ยันว่าไม่สะเทือนความสัมพันธ์พี่น้องแน่นอน แต่หวั่น “ติ๊งโน้ต” เข้าใจผิด
“ไม่กระทบอะไรหรอกรุ่นนั้น ระดับแทคไม่มีอะไรกระทบเขาได้ เพียงแต่ว่ากลัวติ๊งโน้ตจะเข้าใจผิดมากกว่า (แปลว่ายังแคร์?) แน่นอนคือเราไม่ได้เลิกกันแบบนั้นเนอะ คือพูดจริงๆ ว่าถ้ามีมือที่สาม เราคงไม่ร้องไห้ คือคุยกันแบบแฟร์ๆ เลย ถ้าบุ๋มมีมือที่สามจริง บุ๋มคงบอกว่าค่ะ เลิกกันแล้วค่ะ”
ถึงจะเลิกกันแล้ว แต่ยังคุยกันอยู่ พร้อมยอมรับว่าไม่แน่ปีหน้าตนอาจจะถอนหุ้นออกจากทีมแข่งรถมอเตอร์ไซค์ที่ก่อตั้งร่วมกับอดีตแฟนหนุ่ม “ติ๊งโน้ต” แล้วให้ฝ่ายชายไปทำต่อ
“ยังคุยค่ะเพราะว่าธุรกิจก็ยังทำด้วยกันอยู่นะ ก็คิดอยู่ว่าไม่แน่ปีหน้าจะตัดทีมแข่งออกเป็นของติ๊งโน้ตคนเดียวไปเลย คือว่าจะถอดหุ้นออก ก็เสียดายลงทุนไปตั้งเยอะ กว่าจะประสบความสำเร็จมากมายขนาดนี้ ตอนนี้ก็กำลังปรึกษากับบริษัทอยู่ แต่ทุกวันนี้ก็ยังเครียดเพราะมีรายการนึงที่เราสัญญาว่าเราจะไป ก็คิดหนักอยู่ว่าจะไปดีไหม (กลัวใจอ่อนไม่กล้าเจอ?) ไม่ใช่หรอก เพราะว่าถ้าใจอ่อนคงอ่อนไปแล้ว แต่เราไม่รู้จะคุยอะไร กลัวเขาลำบากใจ”
ล่าสุดหนุ่ม “ติ๊งโน้ต” ได้โพสต์รูป “บุ๋ม” ขณะกำลังให้สื่อสัมภาษณ์สื่อ มวลชนพร้อมกับคอมเมนต์ที่รูปว่า “ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีดีระหว่างเรานะครับ” เมื่อสอบถามไปยังฝ่ายหญิงกับเรื่องนี้ เจ้าตัวบอกว่า…
“ก็คิดว่าเขาคงไม่รู้ว่าจะพูดยังไง คือเราคุยกันเยอะนะ หลายคนเห็นว่าเราใจเย็น ก็ขอบคุณมากๆ สำหรับกำลังใจเราก็พยายามที่สุดแล้ว แต่บางทีคนเราถ้ามีความรักแล้วมีคำว่าเหนื่อยเกิดขึ้น บุ๋มก็ขอถอยก่อน ขอเอาพลังที่เรามีกลับคืนมา เพราะเราต้องทำงาน ต้องเลี้ยงลูก มันไม่ใช่ว่าจู่ๆ ต้องทุ่มให้กับใครสักคนนึง ที่ไม่มองคนรอบข้างเลยมันก็ไม่ใช่”
“แต่นอกจากอินสตาแกรมเราก็ได้คุยนะ แต่ไม่ได้คุยกันเรื่องข่าว เขาแค่วอทช์แอปมาถามว่า จะตอบยังไงดีมีนักข่าวมาถาม บุ๋มก็ตอบไปว่าคุณตอบยังไงก็ได้ที่เป็นตัวของคุณเอง คือบุ๋มไม่ยุ่งไม่เกี่ยวอะไรเลย คือความรู้สึกเขาเป็นยังไงจะด่าเรายังไงมันก็เป็นเรื่องของเขา”
ส่วนที่ “ติ๊งโน้ต” ให้สัมภาษณ์กับสื่อ บอกว่าอยากง้อเหมือนกัน “บุ๋ม” ก็บอกว่า…
“เพราะเราไม่ได้ทะเลาะกันไง คือถ้าเราทะเลาะกันเราเกลียดกัน เราด่ากัน คือถ้าจบไม่สวยมันคงง่ายกว่านี้ ดังนั้นตัดประเด็นเรื่องมือที่สามออกไปได้เลย เพราะว่าถ้ามีเรื่องมือที่สามคงตัดกันง่ายกว่านี้ไม่ต้องมานั่งแคร์กัน แต่เป็นเพียงแค่มุมมองของเราทั้งคู่มันเริ่มถอยแล้ว คือเขามองอีกมุม เรามองอีกมุม ซึ่งเรามองไม่เห็นอนาคต เราก็เลยถอยดีกว่าเพราะว่าเราไม่ได้อายุน้อยๆ”
หลายๆ คนมองว่าตอนนี้ดูเหมือน “บุ๋ม” จะทำใจได้แล้ว ไม่เศร้าเหมือนวันแรกๆ ที่เลิกกัน
“แล้วจะให้เศร้าหรือไง คือต้องระวังอย่างนึงว่าข่าวดารามันเป็นแบบนี้ ถ้าเกิดเลิกกันร้องไห้เศร้ามากบุ๋มคิดว่าบุ๋มโดนซ้ำ อย่างในเน็ตโดนแน่ๆ ดังนั้นทางที่ดี กลางๆ ดีที่สุด เพราะว่าบางอย่างเรื่องส่วนตัวก็ไม่ควรพูดออกมา แต่ว่าบุ๋มเองก็ไม่ได้ปิดอะไรมาก”
ส่วนโอกาสคืนดี บอกอยู่ที่ฝ่ายชายเปลี่ยนแปลงตัวเอง
“ถ้าเขาสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้นะ เพราะเขาเป็นคนดีมาก เราเสียดายเขามาก แต่อยากให้เขาปรับได้เข้าใจเรามากขึ้น เราเห็นการเติบโตของเขามากขึ้น ก็อาจกลับมา ถ้าเรายังไม่มีใครและเขายังไม่มีใคร เพราะว่าเราไม่ได้เกลียดกันไง เพราะว่าถ้าคุณเจ้าชู้หรือว่าฉันเจ้าชู้จริงๆ เราคงเกลียดกันและไม่แคร์กันมากขนาดนี้ คงไม่มีน้ำตา เลิกได้ก็ดีแล้ว”
ที่มา: manager.co.th