“เจนลี ซาปาโร” สาวเปอร์โตริโก คว้ามงกุฎมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2013 คนแรกของโลก หลังจากนี้เจ้าตัวจะต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจร่วมรณรงค์และยุติความขัดแย้ง ความรุนแรง กับองค์กรต่างๆ ทั่วโลก ตลอดระยะเวลา 1 ปี หลังการประกวด Miss Grand International 2013 นำโดยหัวเรือใหญ่ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” สร้างความฮือฮาด้วยการจับสาวงามนานาชาติ 75 ประเทศ มาจัดม็อบนางงามให้ผู้เข้าประกวดสวมชุดว่ายน้ำเดินชูป้าย NO MOB, STOP THE WAR เพื่อเรียกร้องให้ม็อบทุกม็อบยุติความรุนแรงตามคอนเซ็ปต์ของการประกวดมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล STOP THE WAR ในรอบชุดว่ายน้ำไปแล้ว ล่าสุดเมื่อค่ำคืนวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา การประกวดดังกล่าวก็เดินทางมาถึงวันตัดสิน ซึ่งจัดขึ้นที่ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ตั้งแต่เวลา 22.30 น.เป็นต้นไป และถ่ายทอดไปอีกกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ผ่านช่องทางต่างๆ โดยมีสาวงามนานาชาติ 75 ประเทศ ร่วมประชันโฉม ท่ามกลางกองเชียร์แน่นขนัด มี “อัษฎา พานิชกุล” และ “ซอนย่า คูลลิ่ง” รับหน้าที่พิธีกร
เปิดเวทีด้วยการเปิดตัวผู้เข้าประกวด 75 ประเทศ ใน ชุดราตรีสั้น ชุดว่ายน้ำ จากนั้นคัดเหลือเพียง 20 คนสุดท้าย เพื่อโชว์โฉมในชุดราตรียาว พร้อมโชว์จากศิลปิน ไทเทเนียม ก่อนประกาศผู้เข้ารอบ 5 คนสุดท้าย ได้แก่ เปอร์โตริโก โดมินิกัน รีพับลิก ออสเตรเลีย สโลวัค รีพับลิก และ ฟิลิปปินส์ เพื่อตอบคำถามจากคณะกรรมการที่ว่า “คุณจะมีวิธียุติสงครามและความขัดแย้งได้อย่างไร?” ซึ่งสาวงามแต่ละคนก็ใช้ไหวพริบในการตอบคำถามได้อย่างฉะฉาน สร้างความหนักใจให้กับคณะกรรมการเป็นอย่างยิ่ง
โดยสาวงามจาก เปอร์โตริโก ตอบว่า “ต้องเข้าใจว่าทุกคนมีความแตกต่าง ย่อมไม่เข้าใจกันได้ ดิฉันว่าการให้ความรักกับทุกคน เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะความรักจะทำให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข”
มิสโดมิกัน รีพับลิก ตอบว่า “เราทุกคนเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา ย่อมมีสิทธิทำความผิดพลาดได้ทั้งนั้น แต่จากประสบการณ์ที่ได้อยู่ร่วมกันกับเพื่อนนางงามอีก 74 ประเทศ ทำให้รู้ว่าถ้ามีความขัดแย้งกัน เราจะเปิดใจพูดคุยกัน เพื่อประนีประนอม ทุกคนก็น่าจะทำในสิ่งเดียวกันได้”
มิสออสเตรเลีย ตอบว่า “ในฐานะที่ดิฉันเป็นผู้สื่อข่าว คำว่าสงครามเป็นผลกระทบที่หนักและเป็นเรื่องใหญ่ แต่ถ้าเราคิดให้มันเล็กลงและเป็นเรื่องใกล้ตัว เราก็ลุกขึ้นมาทำอะไรเพื่อโลกได้ ไม่ว่าเราทุกคนบนเวทีนี้จะเป็นใครที่ได้รับตำแหน่ง มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ก็จะเป็นทูตสันติภาพให้เกิดขึ้น เราจะเป็นตัวอย่างให้ทุกคนในโลกช่วยกัน”
มิสสโลวัค รีพับลิก ตอบว่า “แค่คนๆ เดียวคงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ แต่ไม่สายที่คิดจะเริ่ม และทุกคนควรจะช่วยกัน การประกวดนี้เป็นตัวอย่างที่ช่วยกัน STOP THE WAR และสร้างสิ่งสวยงามให้กับโลกของเรา”
มิสฟิลิปปินส์ ตอบว่า “ในยุคของโลกโซเชียล เราก็ใช้โซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์ เช่นการประกวดครั้งนี้จะเป็นตัวอย่างในการรณรงค์ให้ยุติสงครามและความขัดแย้งได้ดี เช่นเดียวกับเหตุพายุในฟิลิปปินส์ สื่อช่วยได้มาก โดยเฉพาะสื่อในเมืองไทยและประเทศไทย ฉันรักประเทศไทยค่ะ”
แล้วเวลาแห่งความระทึกใจก็มาถึง เมื่อพิธีกรประกาศ รองอันดับ 4 ได้แก่ น.ส.เคลลี่ หลุยส์ แมคไกวร์ ประเทศออสเตรเลีย รองอันดับ 3 ได้แก่ น.ส.อลี ฟอร์บส์ ประเทศฟิลิปปินส์ รองอันดับ 2 ได้แก่ น.ส.เดนิซา ปรัสเซซิอาโควา ประเทศสโลวัค รีพับลิก เหลือเพียงสองสาวงามจาก เปอร์โตริโก และ โดมินิกัน รีพับลิก ท่ามกลางการลุ้นระทึก พิธีกรประกาศ มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2013 คนแรกของโลก ได้แก่ เจนลี ซาปาโร จากประเทศเปอร์โตริโก โดนใจคณะกรรมการทั้งความสวย ไหวพริบ และรองอันดับหนึ่ง ได้แก่ มิสแชนเทล มาร์ติเนซ ประเทศ โดมินิกัน รีพับลิก นั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีรางวัล ชุดประจำชาติยอดเยี่ยม ได้แก่ มิส ปันเจียะ (Miss Pan Jie) ประเทศจีน, รางวัลชุดว่ายน้ำยอดเยี่ยม (Best Swimsuit) ได้แก่ มิส คริสติน รานซาน จากประเทศลัตเวีย, รางวัลชุดราตรียอดเยี่ยม Best Evening Gown ได้แก่ มิส แชนเทล มาร์ติเนซ จากประเทศ โดมินิกัน รีพับลิก และรางวัล มิสป๊อบปูล่าโหวต ได้แก่ มิส ฮทาร์ ฮเท็ด ฮเท็ด ประเทศเมียนมาร์
สำหรับผู้ที่ได้รับตำแหน่ง Miss Grand International 2013 (มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2013) จะได้ครองมงกุฎเพชร และเงินรางวัลมูลค่ารวมทั้งสิ้น 30,000 USD และสิทธิในการครอบครองที่พักคอนโดมิเนียม ตลอดการปฏิบัติภารกิจ 1 ปี
สำหรับคอนเซปต์ของเวทีการประกวด มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล คือ Stop The War ยุติความขัดแย้ง ความรุนแรงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรงระดับชาติ หรือความรุนแรงในครอบครัว ความขัดแย้งภายในประเทศต่างๆ เราทุกคนไม่อยากเห็นความแตกแยก ความเจ็บปวดจากสงครามไม่ว่าจะรูปแบบใด เพราะสงครามเมื่อเกิดขึ้นที่ใด ย่อมมีแต่ความสูญเสียไม่มีวันจบสิ้น ซึ่งผู้ที่ได้รับตำแหน่งจะต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจร่วมรณรงค์และยุติความขัดแย้ง ความรุนแรง กับองค์กรต่างๆ ทั่วโลก อันเป็นภารกิจหลักตลอดเวลา 1 ปี
หลังจากได้รับตำแหน่งแล้ว “เจนลี ซาปาโร” เจ้าของมงกุฎมิสแกรนด์ อินเตอร์ฯ คนแรกของโลก ได้เปิดใจว่า…
“รู้สึกเป็นเกียรติแล้วก็ดีใจที่ได้รับรางวัล รู้สึกตื่นเต้น ปีนี้เป็นปีที่รู้สึกมีความภาคภูมิใจมาก ส่วนการที่จะยุติสงครามยุติความรุนแรงต้องส่งเสริมและสร้างความรู้ความเข้าใจให้เห็นใจซึ่งกันและกันทุกๆ อย่างจะเป็นไปในทางที่ดี สุดท้ายขอบคุณคนไทยที่คอยเชียร์คอยติดตาม”
ที่มา: manager.co.th
