Author Topic: ใครจะฆ่า ไอโฟน 4  (Read 1185 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

ใครจะฆ่า ไอโฟน 4
« on: June 12, 2010, 03:27:34 PM »

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai



     - แจ็กผู้ฆ่ายักษ์ "ไอโฟน" จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่
       - ไฮไลต์โปรดักส์ ซัมซุง-โนเกีย-กูเกิล-เอชทีซี จะบี้หัวใจสาวกไอโฟนได้ไหม
       - ยิ่งทายาทเจเนอเรชั่นใหม่ "iPhone4" ปรากฏกายขึ้นแบบหักปากกาเซียน
       - วินาทีแห่งการแย่งชิงบัลลังก์กำลังก่อตัวเป็นพายุลูกใหม่
       
       อารมณ์ของสาวกไอโฟนทั่วโลกคงกำลังใจจดใจจ่อกับวันที่จะได้เป็นเจ้าของ "ไอโฟน 4" (iPhone4) หลังจากเพิ่งจะหายตื่นเต้นกับการได้ยลโฉมไอโฟน 4 จากการเปิดตัวของสตีฟ จ็อบส์ เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2553 ที่ผ่านมา
       
       การรอคอยสิ้นสุดลงและเป็นการสิ้นสุดข่าวลือต่างๆ นานาที่จะเกิดขึ้นกับไอโฟน 4 ที่สำคัญมันกลายเป็นโปรดักส์รุ่นใหม่ของแอปเปิลที่หักปากกาเซียนหลายๆ คนทั่วโลกที่ต่างคาดการณ์ไปต่างๆ นานา ก่อนที่ไอโฟน 4 จะปรากฏตัวบนเวทีงานประชุมนักพัฒนาประจำปี Worldwide Developers Conference (WWDC) พร้อมๆ กับ สตีฟ จ็อบส์ ซีอีโอคนเก่งของแอปเปิลที่มักจะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้เกิดขึ้นบนโลกใบนี้
       
       และเมื่อไอโฟน 4 เจเนอเรชั่นใหม่ได้กำเนิดขึ้น คำถามฮอตๆ ที่ตามมาก็คือ ใครจะฆ่า "ไอโฟน 4" นี้ได้ หลังจากที่ช่วงหลายปีที่ไอโฟนถือกำเนิดขึ้น ค่ายผู้ผลิตอื่นๆ พยายามที่จะสรรหาและพัฒนาโปรดักส์ของตนเองให้ขึ้นมาบี้ไอโฟนให้ได้ แต่ทุกรายก็ต้องหลีกทางให้เสมอมา
       
       แต่ในปีนี้น่าจะเป็นปีที่สุดเร้าใจกับการขับเคี่ยวของแจ็กผู้กำลังจะฆ่ายักษ์ไอโฟนให้ได้ เนื่องจากโปรดักส์ไฮไลต์ของแต่ละค่ายไม่ว่าจะเป็นซัมซุง โนเกีย กูเกิลโฟน หรือแม้แต่เอชทีซี ต่างมีเป้าหมายสำคัญที่จะโค่นไอโฟนให้ตกบัลลังก์ให้จงได้
       
       อย่างไรก็ตาม โจทย์สำคัญของแต่ละค่ายที่จะพลิกตำราสู้ไอโฟนนั้น การทำโปรดักส์ให้ดีเลิศกว่าไอโฟนยังไม่เพียงพอ แต่ต้องสร้างโปรดักส์ชิ้นนั้นให้เป็น "ไลฟ์สไตล์โปรดักส์" ดังเช่นไอโฟนที่ครองใจคนทั่วโลกด้วยประเด็นหลังนี้เป็นหลัก
       
       ยิ่งการมาของไอโฟน 4 แล้ว การนำไปเปรียบเทียบย่อมเกิดขึ้นกับทุกโปรดักส์ที่วางตัวมาแข่งขัน ยิ่งแอปเปิลพัฒนาไอโฟน 4 ให้ทวีความโดดเด่นขึ้นไปด้วยการเพิ่มคุณสมบัติใหม่มากกว่า 100 จุด น่าจะทำให้ทุกค่ายเหนื่อยที่จะชนะใจผู้ใช้ที่ชื่นชอบไอโฟนได้
       
       ไอโฟน 4 ใช้แก้วเป็นวัสดุทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จุดเด่นคือตัวเครื่องที่บางเพียง 9.3 มม. ทำสถิติสมาร์ทโฟนที่บางที่สุดในโลกขณะนี้ ใช้เทคโนโลยีจอภาพใหม่ชื่อ Retina Display ที่สามารถแสดงผลได้ดีขึ้น 4 เท่า ให้ความละเอียด 326 ppi หน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว ความละเอียด 960x640 พิกเซล โดยจ็อบส์ระบุว่านักพัฒนาจะไม่ต้องแก้ไขแอปพลิเคชั่นไอโฟนดั้งเดิม เนื่องจากการแสดงผลแอปพลิเคชั่นในไอโฟนใหม่จะชัดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ
       
       ไอโฟน 4 ยังมาพร้อมซีพียูตัวใหม่ซึ่งติดตั้งในไอแพด นั่นคือ Apple A4 ประหยัดพลังงานจนทำให้เครื่องสามารถเล่นเพลงได้ต่อเนื่อง 40 ชั่วโมง หรือเล่นวิดีโอต่อเนื่องได้นาน 10 ชั่วโมง เล่นอินเทอร์เน็ตต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง ระยะเวลาสแตนด์บายเครื่อง 300 ชั่วโมง
       
       จ็อบส์ระบุว่าไอโฟน 4 มีหน่วยความจำ 16GB และ 32GB ในสนนราคา 199 และ 299 เหรียญ ซึ่งราคาดังกล่าวยังมีการผูกสัญญา 2 ปีกับทาง AT&T ส่วนประเทศอื่นๆ ยังต้องรอแต่ละโอเปอเรเตอร์ประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
       
       คุณสมบัติใหม่ที่น่าสนใจในไอโฟน 4 คือ ไมโครโฟน 2 ตัว หรือ Dual Mic ซึ่งสามารถตัดเสียงรบกวนได้ดี รองรับเครือข่ายไร้สาย 802.11n มีเทคโนโลยี GPS สำหรับการเดินทางพร้อมเข็มทิศดิจิตอล สามารถปรับแนวแสดงผลภาพทั้งแนวตั้งและแนวนอนได้อัตโนมัติ เพราะ Accelerometer รวมกับ Gyroscope ที่ทำให้สามารถรับการสั่งงานได้ถึง 6 ทิศทาง มีกล้อง 5 ล้านพิกเซล รับแสงได้ดีกว่าดิจิตอลซูม 5x พร้อมแฟลช LED และรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูง 720p (HD) ที่ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที
       
       แอปเปิลยังมีการเปิดตัวแอปพลิเคชั่นใหม่ในชื่อ iMovie for iPhone โดยเป็นการเปิดทางให้สาวกแอปเปิลสามารถตัดต่อวิดีโอได้บนไอโฟน แต่แอปพลิเคชั่นนี้ไม่ฟรีแต่จำหน่ายในราคา 4.99 ดอลลาร์สหรัฐ
       
       สำหรับการใช้งานวิดีโอคอลล์ในไอโฟน 4 นั้นจะต้องทำผ่านฟีเจอร์ FaceTime ซึ่งผู้ใช้จะสามารถคุยโทรศัพท์แบบเห็นภาพได้ผ่านเครือข่ายไว-ไฟในเบื้องต้น จุดนี้ทำให้แอปเปิลการันตีว่ากล้องด้านหน้าที่ติดตั้งในไอโฟนรุ่นใหม่ไม่ได้หมายถึงการติดกล้องธรรมดา แต่หมายถึง 18 เดือนที่แอปเปิลต้องลงมือพัฒนาซอฟต์แวร์ FaceTime ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบปฏิบัติการ iPhone OS รุ่นใหม่ที่แอปเปิลเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา
       
       "FaceTime เป็นซอฟต์แวร์มาตรฐานเปิดที่แอปเปิลตั้งใจให้เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรม" จ็อบส์กล่าว
       
       นอกจากนี้ระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ของแอปเปิล หรือ iPhone OS รุ่นใหม่ที่ว่านี้คือ iPhone OS 4 จ็อบส์ระบุว่าจะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น iOS4 นับแต่นี้เป็นต้นไป คุณสมบัติเด่นคือการสร้าง Folder เพื่อให้ผู้ใช้จัดการแอปพลิเคชั่นบนไอโฟน ไอแพด และไอพอดทัชได้ดีขึ้น รองรับโปรแกรม Exchange 2010 จากไมโครซอฟท์ ผู้ใช้สามารถจัดการเครื่องจากระยะไกลและการส่งแอปพลิเคชั่นโดยใช้เครือข่ายไร้สายได้ กำหนดการเปิดให้ผู้ใช้ iPhone 3G และ 3GS รวมถึง iPod touch เจเนอเรชั่น 2 และ 3 ดาวน์โหลดไปใช้งานได้ฟรีคือวันที่ 21 มิถุนายนนี้ คาดว่า iOS4 จะถูกใช้งานบนอุปกรณ์จำนวนมากกว่า 100 ล้านชุด
       
       และเมื่อมีการเปิดตัวรุ่นใหม่ ไอโฟน 3GS 8GB จะถูกผลิตออกมาด้วยเพื่อให้สอดคล้องกับกลไกตลาด ซึ่งจะปรับราคาลงเหลือ 99 เหรียญ พร้อมสัญญาใช้บริการกับโอเปอเรเตอร์นาน 2 ปี โดยไอโฟน 4 จะมี 2 สี คือสีขาวและดำ กำหนดการเปิดตัวครั้งแรกถูกวางไว้ใน 5 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี อังกฤษ และญี่ปุ่น ในวันที่ 24 มิถุนายนนี้ หลังจากนั้น 1 เดือนจะเพิ่มเป็น 18 ประเทศ และเป็น 40 ประเทศในเดือนกันยายน ซึ่งเชื่อว่าประเทศไทยจะอยู่ในกลุ่มนี้
       

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)