Author Topic: “ยิ่งลักษณ์” ดันไทยสู่ Smartly DIGITAL ปี 2020  (Read 1241 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


“นายกฯ ยิ่งลักษณ์” เดินหน้าผลักดันประเทศไทยมุ่งสู่ Smartly Digital ภายในปี 2563 ชู 4 แนวทางความสำเร็จ ด้าน รมว.ไอซีทีระบุการเป็นเจ้าภาพจัด Connect Asia-Pacific Summit 2013 ครั้งแรกในไทยได้ประโยชน์หลายด้าน
       
       น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียและแปซิฟิกของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (Connect Asia-Pacific Summit 2013) ซึ่งประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพครั้งแรกว่า การประชุมครั้งนี้จะเป็นเวทีให้ผู้นำประเทศ ผู้นำรัฐบาล รัฐมนตรี และผู้นำอุตสาหกรรมไอทีจากภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ และความเห็นเกี่ยวกับความท้าทายของโลกดิจิตอล รวมถึงโอกาสที่จะเกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ ตลอดจนกำหนดทิศทางด้านการลงทุนในโครงข่ายพื้นฐานด้านโทรคมนาคมและไอซีที แอปพลิเคชันและบริการที่สร้างสรรค์
       
       โดยเป้าหมายหลักของประเทศไทย และประเทศในภูมิภาคเอเชีย และแปซิฟิกคือการก้าวเปลี่ยนผ่านไปสู่วิสัยทัศน์ Asia Pacific 2020 : Smartly Digital หรือทิศทางในการพัฒนาอุตสาหกรรมไอทีในอนาคตของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกในปี 2563 ซึ่งเป็นการกำหนดทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยี และการสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่ได้ตกลงร่วมกัน
       
       ทั้งนี้ การก้าวไปสู่ Smartly Digital มี 4 แนวทางในการดำเนินการที่สำคัญ ได้แก่ 1. การเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งควรจะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานเช่นเดียวกับสาธารณูปโภคอื่น โดยขณะนี้ประเทศไทยทำงานอย่างหนักเพื่อพยายามที่จะบรรลุเป้าหมายนี้ด้วยระบบ Wi-Fi เช่น โครงการ Free Wi-Fi ในพื้นที่ทั่วประเทศ และเครือข่ายการสื่อสารความเร็วสูง เป็นต้น 2. การส่งเสริมด้านซอฟต์แวร์ในด้านข้อมูลสารสนเทศ โดยรวมถึงกฎระเบียบ และการส่งเสริมขีดความสามารถของบุคคล และต้องให้ความสำคัญต่อประเทศที่มีการเชื่อมโยงน้อยที่สุด และประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด
       
       3. การเพิ่มความร่วมมือระหว่างผู้มีส่วนได้เสีย ขยายความร่วมมือระหว่างรัฐบาล กับผู้มีส่วนได้เสียระหว่างภาคเอกชนต่างๆ ความท้าทาย และการเปลี่ยนแปลงไปสู่โลกดิจิตอลใหม่นั้นส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนในสังคม ซึ่งทุกส่วนควรร่วมมือกันแก้ไขปัญหา โดยผู้มีส่วนได้เสียรวมถึงอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ การท่องเที่ยว การเกษตร การผลิต ธุรกิจ SMEs ภาควิชาการ และประชาสังคมด้วย และ 4. การเติบโตของเศรษฐกิจแบบมีส่วนร่วมและการพัฒนา การเชื่อมเทคโนโลยีสารสนเทศถือเป็นกุญแจไปสู่การเติบโตของเศรษฐกิจแบบมีส่วนร่วมและการพัฒนา ประชาชนทุกคนจะต้องมีส่วนร่วม และได้รับประโยชน์จากการเติบโต
       
       นอกจากนี้ยังมีผลสำรวจของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) พบว่าที่ผ่านมามีประชากรเข้าสู่โลกออนไลน์เพิ่มขึ้นกว่า 250 ล้านคนจากประชากรทั่วโลก 7,000 ล้านคน และภายในสิ้นปีนี้ 40% ของประชากรโลกจะใช้งานอินเทอร์เน็ต The Broadband Commission for Digital Development อีกทั้งปัจจุบันมีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกว่า 9,000 ล้านเครื่อง และในปี 2025 จะมีเพิ่มถึง 1 ล้านล้านเครื่อง และคาดว่าการใช้งาน 4G จะเพิ่มขึ้น 10 เท่าจากปี 2012-2017 และยังมีการประเมินว่าผู้หญิงเข้าสู่โลกออนโลน์เพิ่มขึ้นกว่า 600 ล้านคน ทำให้มูลค่า GDP ทั่วโลกเพิ่มขึ้นกว่า 13-18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
       
       น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ขณะเดียวกันสิ่งที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้คือเรื่องช่องว่างของการเข้าถึงเทคโนโลยี สำหรับประเทศที่พัฒนาแล้วมีการเข้าถึงเทคโนโลยีสูงถึง 80% ส่วนประเทศที่กำลังพัฒนานั้นมีการเข้าถึงเทคโนโลยีเพียง 28% เท่านั้น อีกทั้งสิ่งที่น่าเป็นห่วงไม่น้อยไปกว่ากัน คือเรื่องการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด ไม่ว่าจะเป็นการโจรกรรม หรือแม้กระทั่งการก่อการร้าย ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก
       
       ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า การจัดประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียและแปซิฟิกของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ หรือ Connect Asia-Pacific Summit ในครั้งนี้เป็นการหารือถึงทิศทางการพัฒนาทางสังคม ทางเศรษฐกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและเทคโนโลยีดิจิตอลร่วมกันในภูมิภาค เช่น ด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์ โครงข่าย 3G, 4G และเทคโนโลยีดิจิตอลร่วมกันเพื่อพัฒนาในภูมิภาค โดยประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากการที่ภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาประชุมหารือ
       
       พร้อมทั้งยังเกิดความร่วมมือทั้งด้านนโยบาย และวิสัยทัศน์เพื่อนำไปพัฒนาประเทศและต่อยอดธุรกิจไอซีทีในประเทศไทย รวมทั้งเชื่อมโยงธุรกิจระหว่างประเทศในภูมิภาค โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเข้ามามีส่วนช่วยในเรื่องภัยพิบัติ ที่ทำให้ระบบการสื่อสาร การแจ้งเตือนภัยทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพดีขึ้น ตลอดจนสามารถใช้ระบบเตือนภัยด้วยเทคโนโลยีร่วมกันในภูมิภาคอีกด้วย
       
       Company Related Link :
       Connect Asia-Pacific Summit 2013

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
1514 Views
Last post January 16, 2012, 01:14:27 PM
by Nick
0 Replies
1287 Views
Last post January 17, 2012, 02:36:19 PM
by Nick
0 Replies
1566 Views
Last post July 02, 2012, 01:15:59 PM
by Nick
0 Replies
1208 Views
Last post May 14, 2013, 06:14:17 PM
by Nick
0 Replies
1088 Views
Last post March 13, 2014, 07:46:23 PM
by Nick
0 Replies
1158 Views
Last post February 24, 2015, 12:19:01 PM
by Nick
0 Replies
1259 Views
Last post September 08, 2015, 12:47:27 PM
by Nick
0 Replies
992 Views
Last post October 16, 2019, 12:43:01 PM
by JaideeNa
0 Replies
1259 Views
Last post October 17, 2019, 12:17:09 PM
by JaideeNa
0 Replies
1123 Views
Last post October 19, 2019, 10:03:13 AM
by JaideeNa