ราคูเท็น ตลาดดอทคอม เตรียมเปลี่ยนแพลตฟอร์มให้เป็นสากลมากขึ้น หวังนำร้านค้าไทยขยายไปโกอินเตอร์มากขึ้น พร้อมตั้งเป้าการเติบโตปีหน้า 58% เพิ่มขึ้นจากปีนี้ซึ่งอยู่ที่ 42.30% เผยความสำเร็จเกิดจากการจัดกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ชี้ผู้ใช้นิยมดูเว็บผ่านมือถือมากขึ้นเรื่อยๆ และมียอดสั่งซื้อผ่านช่องทางนี้เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ส่วนกลยุทธ์ปีหน้าเตรียมบุกถึงตัวลูกค้าผ่านทางอุปกรณ์ส่วนตัว รับมืออีคอมเมิร์ซจากจีนที่จะเข้ามาทำตลาดแน่นอน นายภาวุธ พงษ์วิทยุภานุ ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการราคูเท็น ตลาดดอทคอม กล่าวว่า ในปีหน้าตลาดดอทคอมเตรียมปรับโฉมใหม่ด้วยการเปลี่ยนแพลตฟอร์มให้เป็นสากลมากขึ้น และจะนำสมาชิกร้านค้าเข้าสู่ตลาดโลกด้วยช่องทางดังกล่าวนี้ โดยจะใช้ชื่อ Rakuten.co.th ส่วน TARAD.com จะเป็นแค่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเฉยๆ และมีรายได้จากการเช่าร้านค้าเท่านั้นไม่มีกิจกรรมส่งเสริมการตลาด โดยการปรับตัวดังกล่าวจะทำให้ ราคูเทน ตลาดดอทคอมสามารถเติบโตได้ 58% ในปีหน้า เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 42.30% และมียอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 116.97%
การเข้าสู่แพลตฟอร์มใหม่ดังกล่าวลูกค้าของราคูเท็น ตลาดดอทคอม เดิมจะสามารถสร้างโอกาสในการขยายสินค้าออกไปสู่สายตาชาวโลกมากขึ้น โดยสมาชิกจะเข้าสู่ระบบที่เหมือนกันทั่วโลกเป็นแพลตฟอร์มเดียวกับราคูเทน อย่าง มาเลเซีย ญี่ปุ่น ซึ่งจะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ร้านค้าและผู้ซื้อสินค้าที่จะสามารถเข้าถึงได้จากทุกๆ ที่บนโลก สามารถค้าขายได้ง่ายและเป็นสากลมากขึ้น โดยคาดว่าแพลตฟอร์มใหม่นี้จะสามารถใช้ได้ภายในไตรมาสที่ 1 ของปี 2557
“การเติบโตในปีที่ผ่านมาเป็นผลมาจากการทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการแจกแต้มและมอบคูปอง นอกจากนี้ยังได้ทำการเพิ่มการลงทุนในระบบการบริหารจัดการด้านอีเมลอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งที่ผ่านมาหลังจากที่ส่งอีเมลไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายพบว่าก่อให้เกิดการสั่งซื้อผ่านอีเมลมากขึ้น ถือได้ว่าเป็นช่องทางใหม่ที่น่าสนใจ ปัจจุบัน ราคูเท็น ตลาดดอทคอมมีสมาชิกทั้งสิ้นประมาณ 2.5 ล้านคน โดยในปีที่ผ่านมามีจำนวนสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นถึง 5 แสนราย”
ส่วนทางด้านการซื้อขายผ่านมือถือนั้นในปีที่ผ่านมาพบว่ามียอดขายสูงขึ้นถึง 158.84% โดยมียอดขายผ่านมือถือ 25% ที่เหลือเป็นยอดขายผ่านพีซี ส่วนผู้เข้าชมเว็บไซต์ตลาดดอทคอมนั้นปัจจุบันมีผู้เข้าชมผ่านพีซี 61% และชมผ่านมือถือ 39% โดยสินค้าที่ขายดีที่สุดผ่านมือถือคือเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย สินค้าไอที นาฬิกาและเครื่องประดับ ตามลำดับ ซึ่งตลาดดอทคอมได้จัดโปรโมชันผ่านช่องทางนี้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน
นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการปรับปรุงเว็บไซต์ให้สามารถใช้งานได้ง่าย มีโฆษณาที่น่าสนใจ และการมีสินค้าราคาพิเศษนำเสนออยู่ตลอดเวลาก็ช่วยให้ลูกค้าสนใจเข้ามามากขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ยังได้เพิ่มช่องทางให้เจ้าของร้านค้าได้เข้ามาอบรมให้ผู้ประกอบการเข้ามาเรียน ซึ่งพบว่าผู้เข้าอบรมส่วนใหญ่จะประสบความสำเร็จและมียอดขายดีขึ้น 85% ทั้งนี้จากการดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาที่ผ่านมาทำให้คนเข้าเว็บเพิ่มขึ้น 50% มีจำนวนร้านค้าเพิ่มขึ้น 46%
นายภาวุธกล่าวต่อว่า สำหรับกลยุทธ์ต่อไปนั้น ราคูเทน ตลาดดอทคอม จะมุ่งเน้นการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายผ่านทางอุปกรณ์ส่วนบุคคล และจะเพิ่มศักยภาพในการดึงลูกค้ากลับมามากขึ้น รวมไปถึงการทำไลน์มาร์เกตติ้งให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยตั้งเป้าคนเข้าเว็บเพิ่มขึ้น 82% และจำนวนร้านค้าเพิ่มขึ้นอีก 27%
“ปีหน้าน่าจะมีผู้เล่นในช่องทางอีคอมเมิร์ซมากขึ้น โดยจะเข้ามาใน 2 รูปแบบ คือ การเข้ามาเพื่อหาผู้ประกอบการในไทย และการเข้ามาเพื่อดึงให้คนเข้าไปซื้อของ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นอย่างหลัง อย่างเช่นตอนนี้คนในมาเลเซียเริ่มเข้าไปซื้อของในจีนผ่านทางอีคอมเมิร์ซมากขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการจีนเริ่มบุกช่องทางนี้มากขึ้น และคาดว่าจะได้รับความสนใจในเมืองไทยเร็วๆ นี้”
Company Relate Link :
Rakuten
ที่มา: manager.co.th