“มะนาว” ทำใจคดีเอาผิดคนปล่อยภาพ-ข่าวเป็นเมียน้อย “บรรหาร” ไม่คืบ บอกอยากจับคนปล่อยให้ได้ เพราะอยากรู้ว่าเป็นใคร รับเข็ดไม่กล้ารับงานที่เกี่ยวข้องกับการเมืองอีกแล้ว เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวคดีที่ “มะนาว ศรศิลป์ มณีวรรณ” นักแสดงสังกัดช่อง 7 และอดีตมิสทีนไทยแลนด์ ปี 2008 แจ้งความเอาผิดมือดีที่โพสต์รูปของเจ้าตัว ถ่ายคู่กับ “นายบรรหาร ศิลปอาชา” อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมข้อความกล่าวหาว่ามะนาวเป็นภรรยาน้อยของนายบรรหารลงในโซเชียลมีเดีย จนตกเป็นข่าวฉาวกระฉ่อนไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดสอบถามความคืบหน้าไปยังมะนาว ในงานบวงสรวงละคร “ลูกผู้ชายพันธุ์ดี” ออกอากาศทางช่อง 7 เจ้าตัวก็บอกว่ายังจับต้นตอไม่ได้ ผู้ใหญ่ให้ทำใจ
“คือเรื่องฟ้องตอนนี้ตำรวจบอกว่ามันเกี่ยวกับเรื่องการเมืองนิดหนึ่ง ก็ไม่ได้อยากจะอะไรมาก แต่ว่าเขาหาต้นตอไม่ได้ แต่เราแจ้งความไปฟ้องร้องไปก็เพื่อที่อยากให้รู้ว่าใครก็ได้ที่เอารูปมาเผยแพร่ ว่าเอารูปบุคคลที่เป็นสาธารณะ ซึ่งเขาไม่ได้เป็นเรื่องจริงมาลงในสื่อแบบนี้ถือว่ามีความผิดนะ ซึ่งมันก็สะท้อนว่าไม่ว่าใครที่เอาไปปล่อย มันต้องมีความผิดแน่นอน ซึ่งเป็นตัวอย่างให้เห็นว่าอย่าปล่อยนะ มันไม่ดี”
“แต่ว่าคดีตอนนี้ก็ไม่ได้ขนาดว่าหยุดอยู่กับที่ เหมือนว่ายังมีทางผู้ใหญ่คอยสืบเรื่องอยู่ค่ะ ว่าเหมือนว่าชอบมีคนมาโพสต์ว่าคนนู้นคนนี้เป็นคนปล่อยก็ไม่ได้อยากอ่านคอมเมนต์อะไรทั้งสิ้นค่ะ ก็ปล่อยให้เป็นทางผู้ใหญ่จัดการไปค่ะ ให้เป็นเรื่องของตำรวจไปค่ะ แต่เท่าที่คุยกับผู้ใหญ่เขาก็จะบอกว่าให้ทำใจ เพราะว่าเรื่องพวกนี้ไม่มีต้นตอค่ะ แต่ก็โอเคก็ถือว่าเป็นกรณีตัวอย่างแล้วกันว่าเรื่องแบบนี้มันไม่ควรเกิดขึ้น เพราะว่ามันไม่ได้เป็นความจริง”
ลั่นอยากจับให้ได้เพราะอยากรู้ว่าเป็นใคร
“คือจริงๆ อยากให้จับให้ได้ เพราะว่าเราอยากรู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ก็ทำใจไว้แล้วค่ะ เหมือนว่าเราเป็นเครื่องมือทางการเมือง แต่อาจจะเป็นเหมือนส้มหล่นก็ได้ที่พอเห็นรูปเราในอินเทอร์เน็ตเลยเอารูปเรามาโพสต์ไว้ ซึ่งพอโดนโยงไปทางการเมืองก็รู้สึกว่าเราเป็นเด็กที่ไม่รู้เรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ทางไหนถูกทางไหนผิดซึ่งเราก็เป็นกลาง ก็อย่าเอาหนูไปเกี่ยวเลย ก็เลยทำให้หนูระวังตัวมากขึ้น หากเป็นการรับงานก็จะให้ทางผู้ใหญ่เป็นคนรับว่างานนี้มันเกี่ยวกับการเมืองไหม มันฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไหม เราก็ต้องคอยสกรีนงานค่ะ”
มั่นใจไม่มีภาพล็อตสองแน่นอน
“ไม่มีค่ะเพราะว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องจริง แล้วมันก็เป็นไปไม่ได้ค่ะ ไม่ได้กังวลอะไรค่ะ ถ้าเป็นการตัดต่อหรือว่าเอาไปโพสต์อีกเพราะว่าเราไม่ได้มีพฤติกรรมเช่นนั้นอยู่แล้ว”
ที่มา: manager.co.th
