ภาพหลุด สาวที่เดินจูงมือทักษิณ งานเข้าจนได้สำหรับนักร้องลูกทุ่งสาว “ใบเตย อาร์สยาม” หรือ “สุธีวัน ทวีสิน” ที่ไม่นานมานี้เจ้าตัวเพิ่งยอมรับเต็มปากเต็มคำว่า เคยรับจ้างร้องเพลง และทานข้าวกับอดีตนายกฯนักโทษหนีคดี “ทักษิณ ชินวัตร” ถึงฮ่องกงและสิงคโปร์ด้วยค่าตัวครั้งละ 5 แสน แถมยังได้กระเป๋าแบรนด์เนมหรู พร้อมสิทธิพิเศษส่วนลดบ้านใหม่ ราคา 20 ล้าน จนล่าสุดในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพของอดีตนายกฯ กำลังเดินจูงมือหญิงสาวคนหนึ่งด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสอย่างมีความสุขให้ว่อน พร้อมกับพากันระบุว่าหญิงสาวในภาพที่ว่านั้นก็คือใบเตย งานนี้ร้อนจนนักร้องสาวรีบออกมาปฏิเสธภาพดังกล่าวว่าไม่ใช่ตน ในรายการ “ปากโป้ง” ทางช่อง 8 ซึ่งนอกจากนักร้องสาวจะเปิดใจในรายการแล้ว ก็ยังออกมาชี้แจงกับสื่อมวลชนท้ายรายการอีกด้วยว่า...
“ภาพที่เห็นในโซเชียลไม่ใช่หนูค่ะ ไม่ใช่แน่นอนยืนยัน ก็รู้สึกตกใจมากเพราะตอนแรกที่ตื่นมาเห็นข่าวก็เห็นภาพซึ่งเห็นภาพไม่เท่าไหร่ เพราะรู้แล้วว่าภาพไม่ใช่เราแน่นอนอยู่แล้ว แล้วก็ไม่ได้มองว่าภาพเบลอหรืออะไร แต่การที่เราไปถ่ายรูปเดินจูงมือหรือภาพอะไรก็แล้วแต่ที่อยู่กับท่านใบเตยไม่เคยมีอยู่แล้ว แล้วก็ไม่เคยได้ถ่ายและได้กระทำตรงนี้เลย หนูมั่นใจเลยค่ะ 100 เปอร์เซ็นต์”
แจงในชีวิตไม่เคยใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว
“ถ้ามองภาพรวมไม่ได้ดูอะไรเลย ไม่ได้ดูถึงความเป็นตัวตนของเราทุกคนก็อาจมองว่าเป็นเรา ซึ่งลึกๆ แล้วคนที่รู้จักใบเตยจริงๆ จะรู้ว่าใบเตยไม่เคยใส่เสื้อแขนยาว ในชีวิตไม่เคยมีเสื้อแขนยาวสีขาวเลย และในชีวิตไม่เคยใส่กางเกงขายาวที่เคยเป็นผ้าสีดำขนาดนั้นเลย ไม่เคยมีกระเป๋าในลักษณะนั้น และก็ไม่ได้ตัวสูงขนาดนั้น และก็เป็นคนผิวคล้ำ”
รับตั้งแต่มีข่าวครั้งก่อนทำให้โดนเอี่ยวการเมือง...“หลักๆ เป็นเรื่องของทางการเมือง จริงๆ ส่วนตัวที่ผ่านมาก็ไม่มีเลย แต่อาจเป็นช่วงฤดูของการเมืองเราก็โดนโยงเข้าไปเกี่ยวค่อนข้างเยอะ อาจเป็นเพราะจากเหตุการณ์ครั้งก่อนนิดนึง เพราะไม่อย่างนั้นรูปถ่ายคงไม่พูดถึงเราก็คิดว่าคงมีส่วน”
บอกผู้ใหญ่ทางค่ายรับรู้และเข้าใจ
“ก็ขอบคุณเฮียฮ้อ (สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์) แล้วก็พี่ๆ ทุกฝ่ายที่เข้าใจและก็รู้ว่าอันไหนจริงไม่จริงอันไหนคือสิ่งที่มาจากน้ำมือเรา อันไหนที่เราทำ อันไหนที่เราทำผิด เรื่องนี้ทุกอย่างทางค่ายรับรู้หมด ก็เชื่อมั่น ทำให้วันนี้ใบเตยได้ออกมาพูดคนเดียวว่าเพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่เป็นความจริงโดยเฉพาะรูปภาพ แต่ก็มีพูดคุยบ้างค่ะ แต่ก็ไม่ได้คุยกันซึ่งๆ หน้า อย่างตัวเจ้าของค่ายก็ได้ถามไถ่ว่าจริงหรือเปล่าใช่ใบเตยไหมใบเตยก็ตอบเหมือนที่ตอบกับทุกคนเลยค่ะว่าไม่ใช่”
“ไม่ใช่แค่รูปนี้ แต่ว่าเราไม่เคยถ่ายรูป เดินจูงมือยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ ไม่เคยมีอะไรที่ใกล้ชิดสนิทสนมขนาดนั้นเลย แต่ถ้าเป็นใบเตยจริงๆ ใบเตยก็จะยอมรับอยู่แล้ว แต่ยืนยันได้เลยว่าไม่มีแน่นอน ก็เข้าใจกับทุกๆ คนกับทุกฝ่ายนะคะ แต่เรื่องมันก็นานาจิตตัง แต่ก็อยากให้แยกแยะความเป็นเด็กผู้หญิงคนนึงที่มีหน้าที่เป็นศิลปินของวงการบันเทิง กับการเมืองแล้วก็การกระทำของเราทุกอย่างว่าความจริงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย แค่เราได้มีโอกาสทำงานกับคนที่มีชื่อเสียงระดับประเทศเท่านั้น”
เมื่อถูกถามว่าเรื่องนี้ครอบครัวว่ายังไงบ้าง “ใบเตย” ถึงกับโฮแตก พร้อมบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สะเทือนใจ ไม่คิดว่าพ่อจะร้องไห้...“ก็เหมือนเดิมค่ะยังรักและเข้าใจเหมือนเดิมก็จะผ่านทุกอย่างไปด้วยกัน แต่ก็ยังไม่ได้คุยเรื่องนี้เลยค่ะแต่ก็เห็นคุณแม่มาเมนต์ไอจีอยู่ว่าแม่เชื่อว่าลูกของแม่พูดอะไรจริงทั้งหมด และรูปนั้นก็ไม่ใช่ลูกของแม่ (เห็นพ่อร้องไห้ด้วย?) ก็สะเทือนทุกฝ่ายนะคะไม่คิดว่าคุณพ่อจะร้องไห้นะค่ะไม่ดีนะทำให้คุณพ่อคุณแม่น้ำตาไหลท่านก็คงเข้าใจใบเตยมากๆ (ร้องไห้)”
วอน ทุกฝ่ายเห็นใจและมองแบบมีวิจารณญาณ
“ก็อยากจะบอกว่าใบเตยไม่ถือโทษที่ใครมองว่าใช่หรือไม่ใช่แต่อยากให้มีวิจารณญาณในการดูทุกสิ่งทุกอย่างเท่านั้นเอง ยังยืนยันตามเดิมว่าไม่ใช่ใบเตยอย่างแน่นอนค่ะ อยากขอร้องทุกฝ่ายโดยเฉพาะหลายๆ ฝ่ายที่อาจจะเป็นคนส่งภาพหรือไม่หวังดีต่างๆกับสาวลูกทุ่งคนนี้ ความจริงแล้วไม่ได้โกรธและเข้าใจว่าคือสิ่งแวดล้อมที่แบ่งเป็นสองด้านเสมอกับชีวิตมนุษย์คนนึงแต่ว่าทั้งนี้อยากให้สงสารหนูบ้างอะไรก็เป็นเราตลอดซึ่งมันไม่ยุติธรรมกับสาวลูกทุ่งที่ทำหน้าที่มอบความสุขความเสียงเพลงให้กับแฟนเพลงเลยอยากให้เข้าใจค่ะ”
ไม่กลัวหากมีรูปหลุดเกิดขึ้นอีก...“ไม่กลัวเลยค่ะเพราะใบเตยคิดว่ารูปแรกรูปที่เผยแพร่อกมาไม่ใช่เราแล้วเพราะฉะนั้นเรื่องมันผ่านมานานแล้วถ้ามันจะมีอะไรอย่างนี้คงเป็นไรที่เนิ่นนานมาแล้วแต่ความจริงไม่มีไม่เคยเป็นเราและไม่ใช่เราจริงๆ ค่ะ (เสียใจไหม?) เสียใจค่ะ (ร้องไห้)”
“ความจริงเรื่องความรักเรื่องครอบครัวไม่เคยกลัว เพราะเรารู้สึกว่าเขาคือคนที่รู้จักเราดีที่สุดแต่จะกลัวในเรื่องของประชาชนที่รักสาวแน่นอกคนนี้เคยชื่นชมรู้สึกดีกับเราตลอดมาวันนี้ที่ต้องทำให้เขารู้สึกไม่ดีซีเรียสต้องนี้มากกว่า”
บอกตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่ได้เล่าให้ “ดีเจแมน” แฟนหนุ่มฟังเลย เผยฝ่ายชายเข้าใจและรู้ว่าตนไม่เคยนุ่งยาว...“ไม่ได้บอกค่ะ ความจริงทุกครั้งก็ไม่ได้อธิบายเพราะว่าตัวพี่แมนเขาจะเข้าใจและเห็นความเป็นเราได้มากที่สุด เพราะเขาเชื่อ และรู้อยู่แล้วว่าใบเตยไม่เคยใส่ยาว”
“ชีวิตก็อาจจะวุ่นวายนิดนึงกับพี่แมน เพราะว่าเกรงใจเขาด้วยที่เราต้องมามีข่าวที่ไม่มีดีนอกจากตัวเราตัวเขาก็มักโดนสื่อถามไถ่ตลอดก็ไม่อยากให้ชีวิตเขาวุ่นวายเพราะใบเตยเข้าใจอยากให้จบที่เราคนเดียวไม่อยากให้เกี่ยวข้องกับใครใบเตยไม่อยากให้ทุกคนมาเป็นทุกข์แบบใบเตย”
“ก็เคยคิดมาตลอดค่ะว่าบางครั้งก็อยากเลิก หลายครั้งที่มีปัญหาที่มันรุนแรงมากๆซึ่งเรารู้ว่าเป็นเขาก็คงซีเรียสระดับหนึ่งเพราะตัวพี่แมนเขาก็ไม่เคยมีแฟนที่มีปัญหามีอะไรเข้ามาในชีวิตแบบเราแต่ว่าต้องขอบคุณทางครอบครัวพี่แมนและตัวพี่แมนเองที่เข้าใจและอยู่เคียงข้างมาตลอด”
ที่มา: manager.co.th
