เอ็กแซ็กท์เคลียร์ที่แคนเซิลละคร “โตโน่” เพราะคิวไม่ได้ พร้อมแจงที่ให้พักงานยาวถึงต้นปีเพื่อฝึกฝนฝีมือ ยันไม่เกี่ยวอีกฝ่ายขอหยุดงานเพื่อพักผ่อนพร้อมแฟนสาว “แตงโม” ที่ก็ขอช่อง7 พักเหมือนกัน รับค่ายเรียกคุย พร้อมเตือนทำอะไรให้มีสติ ทำบุญเยอะๆ มีข่าวว่าเอ็กแซ็กท์พักงานละครของพระเอกหนุ่ม “โตโน่ ภาคิน คําวิลัยศักดิ์” ยาวไปถึงปีหน้า เป็นการคาดโทษหลังพระเอกหนุ่มปฎิเสธไม่ยอมเล่นละครเรื่อง “จ้าวพายุ” ท่ามกลางกระแสข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่าโตโน่ติดแฟนจนไม่ทำงาน สบโอกาสเจอตัว “ป้อน นิพนธ์ ผิวเณร” ผู้อํานวยการฝ่ายผลิต บริษัท เอ็กแซ็กท์ และยังเป็นผู้กำกับ รวมถึงสกรีนงานละครให้นักแสดงในค่ายเอ็กแซ็กท์พ่วงด้วย งานนี้บอสเอ็กแซ็กท์แจงว่าที่อีกฝ่ายไม่รับเล่นละครเป็นเพราะคิวไม่ได้ และที่ให้พักยาวถึงต้นปีหน้าเพื่อให้เตรียมพร้อมฝึกความสามารถที่จะรับเล่นละครเรื่องถัดไป
“บอกเลยว่าโตโน่เขางานเยอะจริงๆ ก็มากางตารางงงานเขาดูแล้วว่า 7 วันเขาแน่นมาก ก็ไม่รู้ว่าจะเอายังไงกับชีวิตเขาดี ก็บอกว่าถ้าฝืนให้คุณเล่นไปมันไม่มีอะไรดีในทุกๆ เรื่องที่คุณจะทำ อะไรที่มันต้องทำคือ ซิทคอมคุณหยุดไม่ได้ เพลงคุณหยุดไม่ได้ ฉะนั้นก็คงต้องหยุดที่ละคร ถ้าเวลาคุณยังไม่พร้อม ก็ไม่ต้องเพราะถ้าเขาฝืนเล่นไปเขาก็จะเสียเอง เขาก็ต้องมีเวลาส่วนตัวของเขา ระหว่างทางนี้ให้เขาใช้เวลาที่มีอยู่ในการพัฒนาตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการแสดง การร้องเพลง ฟิตร่างกาย คนเรามันอยู่ที่การแบ่งเวลา ก็ไม่ควรจะไปกดดันตัวเองให้เครียด เวลาทำงาน เวลาครอบครัว เวลาส่วนตัวมันต้องบริหารให้ถูกต้อง อะไรเล็กอะไรใหญ่คุณต้องรู้เอง สิ่งที่คุณยังขาดคุณต้องปรับปรุง”
“เราไม่ได้ให้เขาพัก เรียกว่าให้เขาไปใช้เวลาในการฝึกฝนและพัฒนาตัวเอง ตอนนี้เขาไปเพาะบ่มสะสม สิ่งที่ขาดก็ให้เติม ไม่ใช่ให้เราเป็นตัวเองตลอดเวลา เราเป็นนักแสดงเราต้องเล่นได้ทุกบท ในปีหน้ามันหนักบอกเลย ตอนนี้ก็ให้เขาพักยาวถึงสิ้นปี เขาไม่ได้เข้ามาขอพักนะ แต่เราเล็งเห็นแล้วว่าจัดเขาไว้แบบนี้ดีกว่า”
และยันไม่เกี่ยวฝ่ายชายขอพักงานเอง ถึงต้นปีหน้าเพื่อพักผ่อนพร้อมแฟนสาว “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” ที่ขอเวลาพักงานจาก7 สี และเตรียมตัวกลับมารีบงานให้ปีหน้าเหมือนกัน
“แหม….ก็ให้เวลาเขาไปบริหารชีวิตเขา ไม่ใช่ให้เรามานั่งจ้ำจี้จ้ำไช บอกเลยปีหน้าหนักเพราะเรามีละครรอแล้ว 5 เรื่อง เราก็ให้เขาไปเตรียมตัวเพื่อจะได้มารับงาน แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับการเตรียมตัว ความพร้อมของแต่ละคร ไม่ใช่ว่าใครจะได้ก็ได้ เราแคสติ้งนักแสดงนะ เราต้องการสิ่งที่ดีที่สุด คือการพร้อมในการแสดงจากตัวพวกเขา ไม่อย่างนั้นคนดูจะไม่เชื่อ มันก็จะมีเรื่องมีราวว่าไม่อยากเล่นแต่โดนสั่งให้เล่น เราไปกำหนดใครให้มาเล่นไม่ได้”
“ฉะนั้นเมื่อถึงเวลาแคสถ้าคุณอยากเล่นคุณต้องเตรียมพร้อมตัวเองให้เล่นได้ทุกบทบาท แต่ก็มีเรื่องที่เตรียมไว้ในใจให้เขาแล้วนะ แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความพร้อมของเขา เราเคารพในชีวิตส่วนตัวนะ ของแบบนี้อยู่ที่เขาต้องเห็นเอง ในมุมที่เราเจอมาก่อนในมุมที่เราเป็นผู้ใหญ่เราจะไม่เข้าไปยุ่ง แต่จะบอกเสมอว่าต้องมีสติ ทำยังไงให้เรามีสติ”
“ผมคิดว่าคนเราแล้วแต่จังหวะชีวิตนะ ได้หรือไม่ได้ หล่นหรือขึ้น มันเป็นไปตามกราฟชีวิตและบุญกรรมที่ทำมา ถ้าเรามองให้เห็นความเป็นจริง ถ้าเขาทำได้เราก็จะยินดีกับเขา แต่ถ้าเขาทำไม่ได้ก็แปลว่าเขาได้เท่านั้น การตัดสินในใจชีวิตส่วนตัวเราไม่เข้าไปยุ่ง แต่ถ้ามันมากระทบงานเมื่อไหร่เรายุ่งแน่ เราต้องดูแลเขาว่ามันไม่ได้นะ เราจะไม่ยอมเลย ระหว่างทางคุณจะยังไงก็แล้วแต่มันเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่งานคุณต้องดี ผมยังไม่ได้ยินเรื่องราวว่าเขาเสียงานเสียการอะไรนะ ถ้าได้ยินก็ต้องเรียกมาคุยกันหน่อย แต่ยอมรับว่ามีการเรียกตักเตือนเขานี่เรื่องจริง ก็บอกเขาว่ามีอะไรให้มีสติ ทำอะไรต้องระลึกรู้สติ ทำบุญให้มากๆ ก็อยากให้เขาทำดีเข้าไว้ แล้วความดีจะย้อนกลับมาหาเราเอง”
ส่วนกระแสแฟนคลับรักและแอนตี้นั้นเจ้าตัวเผยได้เตือนศิลปินของตนให้ใช้ชีวิตการเป็นคนเบื้องหน้าอย่างมีสติ อย่าหลงไปกับคำเยินยอสรรเสริญแฟนคลับ
“แฟนคลับมันก็ส่วนนึง ถ้าเขาลดลงกำลังใจคุณก็ลดลง ทุกอย่างที่บอกมันอยู่ที่โตโน่ต้องตั้งสติ แต่อย่างไรก็แล้วแต่ที่สำคัญที่สุดคือเสียงทุกเสียงที่เข้ามาหาคุณ คุณต้องปรับปรุงและแก้ไข แต่มันก็คงไม่มีผลอะไรกับคุณโดยตรงหรอก เพราะแฟนคลับในโซเชียลมันก็แค่ส่วนนึง แต่มันจะบ่อนทำลายกำลังใจของคุณ ฉะนั้นคุณต้องบริหารใจคุณให้ดีๆ”
“เราบอกทุกคนเสมอว่าระวังคุณจะหลง เพราะแฟนคลับเขารักคุณมาก ตดของคุณเขายังว่าหอม เขามาคอยตามคอยอะไรคุณ มันอันตรายมากถ้าคุณไม่มีสติว่าเขารักเราโดยไม่มีข้อแม้ นั่นคือการฉลาดจะรู้ว่าเขารักเราโดยไม่มีข้อแม้ แต่ถ้ามีสติจะรู้ว่าอีกสิ่งที่ต้องการคืออะไร ไม่ใช่ไปยึดติดกับแฟนคลับ ถ้าวันนึงที่แฟนคลับของคุณหมดลงคุณจะทำยังไง”
ที่มา: manager.co.th
