นายวูล์ฟ แฮร์ริส ผู้อำนวยการฝ่ายขายทั่วโลก หน่วยธุรกิจเครือข่าย แอมดอกซ์ “แอมดอกซ์” เล็งขยายตลาดเอเชียแปซิฟิก หลังพบหลายโอเปอเรเตอร์มีแพลตฟอร์มล้าสมัย ไม่ทันกับการแข่งขัน เสนอโซลูชัน Amdocs MVNE เจาะกลุ่มโอเปอเรเตอร์และ MVNO จุดเด่นช่วยจัดการด้านบิลลิ่งและสร้างรายได้จากบริการที่จะเกิดขึ้นใหม่ รองรับเครือข่าย 3G และ LTE ที่มีความต้องการใช้งานดาต้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นายวูล์ฟ แฮร์ริส ผู้อำนวยการฝ่ายขายทั่วโลก หน่วยธุรกิจเครือข่ายแอมดอกซ์ กล่าวว่า แอมดอกซ์มองเห็นแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในเอเชียแปซิฟิกที่กำลังจะก้าวไปสู่เครือข่ายใหม่อย่าง 3G และ LTE ซึ่งการก้าวไปสู่เทคโลยีดังกล่าว ผู้ให้บริการโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Network Operator - MNO) ต้องทำการควบคุมบริการต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงความสามารถในการจัดการกับขั้นตอนในการให้บริการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยในเรื่องการดูแลลูกค้าที่ต้องรักษาคุณภาพในขณะที่ปริมาณลูกค้าเพิ่มจำนวนสูงขึ้น
นอกจากนี้ MNO บางรายยังต้องการขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจค้าส่ง และต้องทำการจัดการกับ ผู้ประกอบการในกลุ่มผู้ให้บริการเครือข่ายเสมือนจริงเคลื่อนที่ หรือ Mobile Virtual Network Operator (MVNO) ที่จะมารับช่วงต่อการให้บริการให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เช่นเดียวกับผู้ให้บริการ MVNO เหล่านั้นที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับตนเองด้วยเช่นกัน สิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นเรื่องที่ผู้ให้บริการโครงข่ายยุคใหม่ต้องหาวิธีเข้ามาจัดการ
“แอมดอกซ์ดูแลผู้ให้บริการโครงข่ายทั่วโลกกว่า 60 ประเทศ และมีระบบด้านการจัดการบิลที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีลูกค้า 250 ราย อาทิ เอทีแอนด์ที โวดาโฟน ที โมบาย เทลสตาร์ และมีโครงการกว่า 2,500 โครงการ พนักงานกว่า 20,000 คนทั่วโลก โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาประเทศในเอเชียแปซิฟิกมีการใช้งานดาต้าเติบโตอย่างรวดเร็วลูกค้ามีการใช้งานอย่างมหาศาล ในขณะที่ Voice และ SMS แบบเดิมๆ เริ่มมีรายได้ถดถอย ทำให้แอมดอกซ์มองเห็นโอกาสทางธุรกิจในภูมิภาคนี้ที่จะช่วยในการพัฒนาบริการใหม่ๆ เพื่อช่วยสร้างรายได้เพิ่ม”
นายวูล์ฟกล่าวว่า การเติบโตที่เพิ่มขึ้นของข้อมูลตลอดจนความซับซ้อนทางธุรกิจของผู้ให้บริการโครงข่ายดังกล่าวกลายเป็นความท้าทายที่เข้ามาใหม่ ประกอบกับทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดแต่มีความจำเป็นที่จะต้องคงขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่กำลังเติบโตและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นโซลูชันที่มีประสิทธิภาพ สามารถตอบโจทย์ทางการทำธุรกิจ และช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายและลดความเสี่ยงให้เหลือน้อยที่สุด จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
แอมดอกซ์พร้อมที่จะนำเสนอโซลูชันด้านระบบการบริการลูกค้า ระบบการจัดการด้านบิลลิ่ง ตลอดจนโซลูชั่น Amdocs MVNE แก่ผู้ให้บริการรายใหญ่ๆ ในกลุ่มประเทศแถบนี้ ที่จะช่วยให้ MNO สามารถ ขยายและสร้างช่องทางรายได้ใหม่ๆ ไปพร้อมกับการนำเสนอประสบการณ์ที่น่าประทับใจแก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้สำหรับผู้ให้บริการโครงข่ายที่มี MVNO หลายบริษัท ด้วยโซลูชันนี้สามารถบริหารจัดการ MVNO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการปรับขีดความสามารถแบบ multi-tenancy และให้บริการโฮสติ้ง MVNO จำนวนมากอย่างปลอดภัยบนเครือข่ายของตนเอง
โซลูชัน Amdocs MVNE สามารถแยก MVNO แต่ละรายออกจากกันได้อย่างเด็ดขาด มีความยืดหยุ่นสูง และไม่ว่า MVNO เหล่านั้นจะให้บริการบนเครือข่ายที่ต่างกันอย่าง CDMA, GSM, UMTS, WiMAX, IMS หรือโปรโตรคอลของเครือข่ายอื่นๆ โซลูชันของแอมดอกซ์ก็สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังสนับสนุนทุกวิธีการชำระเงิน ทั้งแบบเติมเงิน/แบบรายเดือน ระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ บัตรกำนัล รวมไปถึงการโอนเงิน ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถมีทางเลือกที่หลากหลาย
นอกจากนี้ แอมดอกซ์ยังเป็นบริษัทที่นักวิเคราะห์ยกย่องให้เป็นผู้นำในเรื่องของการเก็บเงิน และเป็นบริษัทเดียวในการให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การเชื่อมโยงโครงข่ายซีอาร์เอ็ม BSS บริการเพิ่มมูลค่า การบริหารจัดการ ดังนั้นจุดเด่นต่างๆ เหล่านี้แอมดอกซ์ก็พร้อมที่จะนำมาเสนอในภูมิภาคนี้เช่นกัน
ที่ผ่านมาแอมดอกซ์ (Amdocs) ได้ซื้อกิจการทั้ง CRAMER, BRIDGEWATER และ Actix รวมไปถึงในปี 2012 ที่ผ่านมาแอมดอกซ์ได้ลงทุนด้านการวิจัยและการพัฒนาไป 242.1 ล้านเหรียญดอลลาร์ (ประมาณ 7,505 ล้านบาท) โดยเพิ่มขึ้น 9.1% จากปี 2011 นอกจากนี้ ด้วยประสบการณ์ทำงานกับโอเปอเรเตอร์ทั่วโลก ทำให้แอมดอกซ์มีความเชี่ยวชาญจึงสามารถมองเห็นแนวโน้มของธุรกิจเหล่านี้ว่าจะเป็นไปในแนวทางใด ความท้าทายคืออะไร เพื่อสามารถนำเสนอโซลูชันที่เหมาะสมให้กับผู้ให้บริการโครงข่ายให้กลายเป็นผู้นำในตลาด
นายวูล์ฟกล่าวว่า จากการสำรวจตลาดแอมดอกซ์พบว่าผู้ให้บริการโครงข่ายในเอเชียแปซิฟิกหลายรายยังมีแพลตฟอร์มที่ล้าสมัยและไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลง แอมดอกซ์จึงพร้อมที่จะนำเสนอระบบสนับสนุนธุรกิจ BSS (Business Support System) ที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนธุรกิจครบวงจรด้านปฎิบัติการ ให้บริการที่ปรึกษา ระบบบริหารจัดการที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมไปถึงช่วยทำการศึกษาเชิงลึกว่าบริการโครงข่ายเหล่านั้นเป็นอย่างไร และช่วยให้ลูกค้าเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร เพื่อทำให้มีประสิทธภาพมากขึ้น
“แอมดอกซ์จะช่วยทำให้ลูกค้าในเอเชียแปซิฟิกที่เป็นตลาดกำลังเติบโตให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ ไม่ว่าจะเป็น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย อินเดีย จีน เวียดนาม กัมพูชา นิวซีแลนด์ และสำหรับประเทศไทยที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกับผู้ให้บริการหลายรายและได้รับความสนใจ โดยปัจจุบันมีทรูเป็นลูกค้าเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการสนใจและเข้ามาตั้งออฟฟิศในไทยนั้นเนื่องจากเห็นว่าแอมดอกซ์จะเข้ามาให้การสนับสนุนการใช้ดาต้าเป็นจำนวนมาก นำเสนอบริการเสริมที่สามารถสร้างการปรับเปลี่ยนการคิดคำนวณต่างๆ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้กับโอเปอเรเตอร์แต่ละรายได้”
สำหรับผลประกอบการของแอมดอกซ์ในปี 2012 มีรายได้ประมาณ 3.2 พันล้านเหรียญ ซึ่งในปี 2013 คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตมากกว่าเดิม โดยแอมด็อกซ์แบ่งการดูแลเป็น อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ยุโรป แอฟริกาตะวันออก รัสเซีย และเอเชียแปซิฟิก ไม่รวมอินเดียและจีน ปัจจุบันรายได้หลักของอยู่ในอเมริกาเหนือ แต่แอมดอกซ์มองว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้ารายได้ดังกล่าวจะเริ่มมาจากอเมริกาใต้และเอเชียแปซิฟิก
Company Related Link :
Amdocs
ที่มา: manager.co.th