ผลงานของคู่ดูโอแนวฮิปฮอปจากสหรัฐฯ ได้ชิงรางวัล YouTube Music Awards ครั้งที่ 1 ถึง 4 สาขา รวมถึงมิวสิควิดีโอแห่งปี ที่มีศิลปินดัง ๆ เข้าชิงรางวัลหลายรายรวมถึงหนุ่ม "ไซ" และสาว ๆ Girls' Generation จากเกาหลีใต้ แม็คเคิลมอร์ & ไรอิน ลิวอิส ที่เป็นการทำงานร่วมกันของแร็พเปอร์ผิวขาว เบน แฮกเกอร์ตี และโปรดิวเซอร์ชื่อดัง ไรอัน ลิวอิส เข้าชิงรางวัลใหญ่วิดีโอแห่งปี ของ YouTube Music Awards ครั้งแรก รวมถึงรางวัลในสาขาต่าง ๆ รวมเป็น 4 สาขา จึงนับว่าพวกเขาคือศิลปินที่ได้ชิงรางวัลมากที่สุด ในการแจกรางวัลครั้งนี้
โดยสองหนุ่มได้ชิงรางวัลจากทั้งคลิปเพลงสุดฮิต Thrift Shop ที่มียอดผู้คลิ๊กเข้าไปชมถึง 500 ล้านครั้ง ในสาขาปรากฏการณ์แห่งปี และยังชิงรางวัลวิดีโอแห่งปีจากผลงานเพลง Same Love ที่มีเนื้อหาเรียกร้องสิทธิทางกฎหมายให้กับคนรักเพศ
แฮกเกอร์ตี เคยกล่าวว่าเขาเขียนเพลง Same Love ขึ้นด้วยมุมมองส่วนตัว ที่เห็นว่าวงการฮิปฮอปมักจะแสดงความเกลียดชัง และดูถูกดูแคลนคนรักเพศเดียวกันอยู่เสมอ ซึ่งเขากล่าวว่าถือเป็นความรับผิดชอบในฐานะศิลปินแนวฮิปฮอปคนหนึ่ง ที่ต้องแสดงออกถึงความเปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรมฮิปฮอป ซึ่งที่แล้วมาทำหน้าที่เป็นกระจกสะท้อนความเป็นไปของโลกมาตลอด
สำหรับมิวสิควิดีโอเพลง Same Love ที่กำกับโดย ไรอัน ลิสอิส และ จอน จอน ออกุสตาโว เริ่มเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ YouTube ตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. 2012 และทำยอดคนคลิ๊กเข้ามาชมได้ถึง 350,000 ครั้งภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง และถึงวันนี้มียอดผู้เข้าชมถึง 90 ล้านครั้งแล้ว โดย MV ของเพลงเสนอภาพชีวิตผ่านช่วงเวลาหลายทศวรรษของคู่รักเพศเดียวกัน ที่เริ่มต้นด้วยการตกหลุมรักกัน ไม่แตกต่างจากคนทั่วไป แม้ส่วนใหญ่ต้องเผชิญกับปัญหาการไม่ยอมรับของสังคม แต่หลายคู่ก็สามารถพากันไปถึงประตูวิวาห์ และอยู่เคียงคู่กันไปถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิตได้
ผลงานของ แม็คเคิลมอร์ & ไรอิน ลิวอิส คือหนึ่งในผู้ชิงรางวัล "วิดีโอแห่งปี" ของการมอบรางวัล YouTube Music Awards ครั้งแรก ที่มีศิลปินชื่อดังจากทั่วโลกชิงรางวัลกันมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นศิลปินที่มีคลิปซึ่งโดดเด่นอยู่ในเว็บไซต์ Youtube และมีคนคลิ๊กเข้าไปชมกันมากมาย รวมถึงหนุ่มเกาหลีใต้ ไซ ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ด้วยคลิปมิวสิควิดีโอเพลง Gangnam Style เมื่อปีก่อน ที่ได้ชิงรางวัลวิดีโอแห่งปีจากผลงานล่าสุด Gentleman รวมถึงรางวัลอื่น ๆ อีก 2 สาขา
ไซ ไม่ใช่ศิลปินจากเกาหลีใต้รายเดียวที่ได้ลุ้นรางวัลของ Youtube เพราะสาว ๆ Girls' Generation ก็ส่งมิวสิควิดีโอเพลง I Got a Boy ชิงรางวัลกับศิลปินชื่อดังระดับโลกมากมาย อาทิ เดมี โลวาโต้, จัสติน บีเบอร์, เลดี้ กาก้า, ไมลี ไซรัส, One Direction และ เซลีนา โกเมซ
แต่ดูเหมือนว่าม้ามืดตัวจริงจะเป็นของ Epic Rap Battles of History ที่เป็นการทำงานร่วมกันของสองหนุ่ม ปีเตอร์ ชูคอฟ และ ลอยด์ อัลควิซต์ ในการอัดคลิปสวมบทบาทเป็นคนดัง หรือบุคคลในประวัติศาสตร์เพื่อร้องเพลงแร็พดวลกันลงใน Youtube ที่ชิงรางวัลวิดีโอแห่งปี จากคลิปสุดฮิตของพวกเขา Barack Obama vs Mitt Romney ที่เป็นการแบทเทิลกันระหว่างสองผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ
ถึงตอนนี้ยังไม่มีคำยืนยันว่าเหล่าศิลปินที่มีชื่อชิงรางวัลส่วนใหญ่ จะมาร่วมงานที่จะจัดกันในวันที่ 3 พ.ย. ที่จะถึงนี้หรือไม่ แต่ผู้จัดงานเปิดเผยว่าในงานวันนั้นจะมีศิลปินดังอย่าง เอ็มมิเน็ม, เลดี้ กาก้า , Arcade Fire มาร่วมงานแน่นอน รวมถึง M.I.A., Tyler, the Creator, Earl Sweatshirt, Avicii และ Walk off the Earth ที่จะมาเป็นแขกในงาน YouTube Music Awards ครั้งแรก
Video of the Year Epic Rap Battles of History - "Barack Obama vs Mitt Romney"
Demi Lovato - "Heart Attack"
Girls' Generation - "I Got a Boy"
Justin Bieber (feat. Nicki Minaj) - "Beauty and a Beat"
Lady GaGa - "Applause"
Macklemore & Ryan Lewis (feat. Mary Lambert) - "Same Love"
Miley Cyrus - "We Can't Stop"
One Direction - "Best Song Ever"
PSY - "Gentleman"
Selena Gomez - "Come & Get It"
Artist of the Year Eminem
Epic Rap Battles
Justin Bieber
Katy Perry
Macklemore & Ryan Lewis
Nicki Minaj
One Direction
PSY
Rihanna
Taylor Swift
Response of the Year Boyce Avenue (feat. Fifth Harmony) - "Mirrors"
Jayesslee - "Gangnam Style"
Lindsey Stirling and Pentatonix - "Radioactive"
The Piano Guys - "Titanium / Pavane"
Walk Off the Earth (feat. KRNFX) - "I Knew You Were Trouble"
YouTube Phenomenon "Diamonds"
"Gangnam Style"
"Harlem Shake"
"I Knew You Were Trouble"
"Thrift Shop"
YouTube Breakthrough Kendrick Lamar
Macklemore & Ryan Lewis
Naughty Boy
Passenger
Rudimental
Innovation of the Year Anamanaguchi - "Endless Fantasy"
Atoms for Peace - "Ingenue"
Bat for Lashes - "Lilies"
DeStorm Power - "See Me Standing"
Toro y Moi - "Say That"
ที่มา: manager.co.th