“บอย” แจงกะเทยโพสต์แฉผ่านเฟซบุ๊กว่าเพื่อนได้กินตนแล้วคงจินตนาการไปเอง บอกที่ผ่านมาเจอแบบนี้บ่อย แต่ไม่ซีเรียสเพราะไม่ใช่เรื่องจริง ปัดย่องทำหน้าที่เกาหลี พร้อมโต้นัดดินเนอร์สาวแล้วเบี้ยว งานยุ่งแทบทุกวันจนไม่มีเวลาได้พัก กว่าจะหาเวลาพักผ่อนไปเที่ยวกับเขาได้บ้างพระเอกหนุ่ม “บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” ก็ดันมีข่าวเม้าท์ว่าที่แอบย่องไปเที่ยวเกาหลีเพราะต้องการจะไปเหลาหน้าใหม่ เมื่อผู้สื่อข่าวเจอหนุ่มบอยที่งาน แถลงข่าว “ซีพี เซอร์ไพรส์ แอพพลิเคชั่น” เปิดตัวแคมเปญใหม่ “ใบเสร็จเหินฟ้า ลุ้นเที่ยวญี่ปุ่นฟรีทุกวัน” ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เจ้าตัวก็แจงว่าทริปดังกล่าวตนไปเที่ยวอย่างเดียว
“เที่ยวเกาหลีก็สนุกดีครับ ตอนแรกมีงานที่ต่างประเทศแต่พอดีว่างานเลื่อนไป เลยมีคิวว่างขึ้นมา เลยชวนเพื่อนไปเที่ยวกันครับ ไปกันเป็นแก๊งค์ผู้ชายล้วน 8 คน ไปทั้งหมด 4 วันครับ ไปก็ไม่ได้ไปฉีดครับ ก็ไปเที่ยวอย่างเดียวเลย เพราะว่าเพื่อนๆ ชวนกันไป ก็ยอมรับว่าที่จริงทุกวันนี้ผมก็เข้าร้านทำหน้าบ้างเหมือนกันนะโดยปกติ เรียกว่ามันก็เหมือนเครื่องมือทำมาหากินด้วย ส่วนใหญ่จะไปยิงเลเซอร์ มาร์คหน้าบ้าง แต่ถ้าไปทำศัลยกรรมก็ไม่ได้ทำครับ โบท็อกซ์ก็เคยคิดจะทำเหมือนกัน เคยถามหมอที่ทำหน้า เขาบอกว่าอย่างผมอย่าเพิ่งเลย เพราะกลัวทำแล้วจะมีปัญหา อย่างเล่นละครจะแสดงสีหน้าไม่ได้ แต่ก็เคยคิดจะทำนะ เพราะผมชอบขมวดคิ้ว หน้าผากย่นนิดหนึ่ง ผมก็ปรึกษาว่าถ้าทำจะดีขึ้นไหม เขาบอกว่าอย่าทำเลย เดี๋ยวทำแล้วมีปัญหาเรื่องการทำงาน”
โต้นัดดินเนอร์สาวแล้วเบี้ยว บอกที่ผ่านมาทำงานทุกวันไม่มีวันหยุดแล้วก็ไม่มีใครให้สาวไหนให้นัดทานข้าวด้วย
“สาวนี้คือผมไม่แน่ใจว่าผมรู้จักรึเปล่า แต่ถ้าผมนัดแล้วไม่เคยผิดนัดนะ ไม่รู้สิ ถ้าเกิดว่านัดเขาแล้วก็คงต้องไป อยากมีนะนัดกินข้าวกับสาวแต่ตอนนี้ไม่มีเลย เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องจริง ที่ผ่านมาผมยุ่งมากทำงานทุกวันทั้งเดือน คงไม่มีเวลานัดใครไปกินข้าว แต่ค่อนข้างมั่นใจว่า ถ้านัดใครไปกินแล้ว คงไม่ผิดนัด อยากรู้นะว่าใครมาปล่อยข่าวนี้ ต้องการอะไร”
ส่วนประเด็นมีกะเทยไปโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คว่าเพื่อนได้กิน “บอย ปกรณ์” แล้ว แถมยังบรรยายสรรพคุณอีกว่าไม่แซบ พระเอกหนุ่มบอกเจอข่าวแนวนี้บ่อยแต่ไม่จริง
“คือพูดจริงๆ เลยนะครับว่า ผมมีเฟซบุ๊ค แต่ผมเล่นเฟซบุ๊คไม่เป็นเลยครับ ไม่มีครับ ผมเคยโดนข่าวเรื่องกินกะเทยมาหลายรอบแล้วครับ ก็เฉยๆ ครับ ไม่ได้ซีเรียส ถ้าเขาบรรยายแสดงว่าเขาต้องเป็นคนที่มโนเก่งมากๆ ครับ คือเรื่องพวกนี้ไม่มีเลย ผมไม่เคยครับ ผมเป็นผู้ชายปกติครับ ก็มองว่าเป็นสีสัน ถ้ามันไม่จริงก็ตอบไปว่ามันไม่จริง ใครจะคิดยังไงเรื่องพวกนี้มันห้ามไม่ได้ อาจด้วยเพราะลุกส์ของเราด้วย เดี๋ยวนี้โลกไซเบอร์ โลกอินเตอร์เน็ตมันค่อนข้างเร็ว แล้วก็ใครพิมพ์อะไรก็ได้”
“ผมเจอมาเยอะ กับเรื่องพวกนี้ ก็เคยงงว่าเอามาจากไหน เพราะฉะนั้นผมก็เลยเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกอะไร ที่เขาพูดกัน ถ้าเกิดว่าไม่มีใครเห็นก็จบไป แต่ถ้าใครเห็นออกมาก็กลายเป็นข่าว พอเป็นข่าวผมก็ตอบปฏิเสธไป ก็แค่นั้นเอง มันก็ทำอะไรไม่ได้ จะให้ไปฟ้องร้องหรืออะไรก็ไม่ใช่เรื่องเท่าไหร่ ที่ผ่านมามีแบบนี้เข้ามาเยอะมาก เยอะแบบไม่รู้จะเยอะยังไง มีคนส่งมาให้ผมเยอะ อย่างบางทีพี่ช่างแต่งหน้าก็มาแซวว่า รู้นะ เขาก็เอามาให้ดู ผมก็งงๆ”
“เรื่องพวกนี้ผมไม่เคยรู้สึกอะไร หรือเอาเก็บมาเป็นอารมณ์เลย แต่บางเรื่องที่มันมีผลกระทบต่อความรู้สึกอื่นๆ ที่มีต่อผม เช่นเรื่องที่ผมเคยโดนว่าผมปฏิเสธงานหนึ่ง เพื่อไปรับอีกงานหนึ่ง ที่มันได้เงินเยอะกว่า อันนี้ผมค่อนข้างซีเรียสว่าเอามาจากไหน เรื่องพวกนี้มันไม่ใช่เรื่องจริง มันมีผลต่อการทำงานของผมนะ อันนี้มันก็มีปัญหา ถ้าอันนี้คือดาราไทยผู้ชายทุกคนเจอข่าวแบบนี้หมด ก็เฉยๆ คือวันหนึ่งผมก็ต้องมีแฟน แต่งงานมีครอบครัว ทุกอย่างจะเป็นคำตอบให้ทุกคนเอง ผมก็เลยเฉยๆ ไม่ได้ซีเรียส แต่ก็ระวังในระดับหนึ่งอยู่แล้ว บางทีในบางเรื่องเราก็ระวังไม่ได้ อย่างเช่นเราต้องร่วมงานกับเขา แค่ตัวเราเองไม่ทำอะไรที่ไม่เหมาะสมแล้วกัน เราทำตามหน้าที่ของเราไป”
ที่มา: manager.co.th