Author Topic: โนเกีย โซลูชั่นส์ พร้อมรุกตลาด LTE ไทย หวั่นปัญหาความถี่ทำเครือข่ายไม่คืบ  (Read 488 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


โนเกีย โซลูชั่นส์ พร้อมรุกตลาด LTE ในไทย แนะรัฐควรจัดประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz ก่อนเพื่อให้โอเปอเรอเตอร์มีเวลาวางโครงข่ายก่อนใช้งานจริง ชี้ทั่วโลกเริ่มหันมาใช้ LTE กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะญี่ปุ่นที่มี LTE กว่า 180,000 ไซต์ และบางประเทศกำลังพัฒนาไปสู่ LTE Advance ที่มีประสิทธิภาพดีกว่า
       
       นายฮาราลด์ ไพรซ์ หัวหน้ากลุ่มธุรกิจเอเชียเหนือ โนเกีย โซลูชั่นส์ แอนด์ เน็ตเวิร์คส หรือ เอ็นเอสเอ็น กล่าวว่า หลังจากที่โนเกียซื้อหุ้นกลับมาจากซีเมนส์ ทำให้ปัจจุบันโนเกียถือหุ้น 90% ของหุ้นทั้งหมดในบริษัท โดยแผนงานนับจากนี้จะมุ่งโฟกัสที่โมบายบรอดแบนด์ เนื่องจากมองเห็นว่าปัจจุบันความต้องการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วโลกสูงขึ้นกว่าเดิม รวมถึงประเทศไทยที่มีอัตราการเติบโตของโซเชียลมีเดียและการใช้งานสมาร์ทโฟนสูงขึ้นมาก จึงเป็นโอกาสดีที่เอ็นเอสเอ็นจะเข้ามารุกตลาดอย่างเต็มตัว
       
       ทั้งนี้ในไตรมาส 2 การดำเนินธุรกิจของเอ็นเอสเอ็นค่อนข้างเข้มแข็งไม่ว่าจะเป็นรายได้ กระแสเงินสดและอื่นๆ แสดงให้เห็นว่าทั้งทางด้านกลยุทธ์ที่วางไว้ตลอดจนการเพิ่มขีดความสามารถให้กับบริษัทเป็นผลสำเร็จ โดยปัจจุบันในประเทศไทยมีผู้ใช้งานเฟสบุ๊ก ในปี2013 อยู่ที่ 18 ล้านคน โตขึ้น 28% จากปี 2012 ที่ 14.5 ล้านคน มีผู้ใช้งานทวิตเตอร์ 2 ล้านราย โตขึ้น 54% การใช้งานอินสตาแกรมโตเพิ่มขึ้น 163% อยู่ที่ 603,288 คน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นตัวขับเคลื่อนให้ไทยสอดคล้องกับการก้าวขึ้นสู่เครือข่าย LTE เป็นอันมาก
       
       'วิสัยทัศน์ของเราต้องการเป็นผู้นำLTE ซึ่งมีความพร้อมอยู่แล้ว ประกอบกับมีประกาศของกสทช.ว่าจะมีการเปิดประมูลภายในกันยายนปีหน้า โดยปัจจุบันกำลังทำการทดสอบกับโอเปอเรเตอร์ในไทยอยู่ แต่ก็อยากฝากถึงรัฐบาลไทยว่าควรจะเดินหน้าประมูลความถี่ที่มีอยู่ก่อนเพื่อให้โอเปอเรเตอร์ที่มีความพร้อมดำเนินการติดตั้ง LTEไปล่วงหน้า เพื่อให้การขับเคลื่อน LTEเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่ต้องรอไปถึงปีหน้า'
       
       นายฮาราลด์ กล่าวว่า สำหรับลูกค้าที่ยังคงใช้งานเครือข่าย 2G อยู่นั้น หลังจากที่ LTE เข้ามาจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อเคลื่อนย้ายไปสู่เครือข่ายใหม่อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับในทุกปีผู้บริโภคจะมีการเปลี่ยนแปลงโทรศัพท์มือถือใหม่ประมาณ 20 % ซึ่งส่วนใหญ่ในจำนวนนี้จะก้าวไปสู่โทรศัพท์มือถือที่รองรับกับเทคโนโลยีใหม่ๆ แต่ทั้งนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าการใช้งาน LTE ครอบคลุมทั้งประเทศเมื่อไร เพราะยังคงมีเรื่องระบบสัมปทาน ที่จะต้องรอการคืนคลื่นความถี่ที่ต้องใช้เวลาให้หมดสัมปทานก่อน
       
       ทั้งนี้คาดว่าในปี 2020 ผู้บริโภคจะใช้โมบายอินเทอร์เน็ต 1GB ต่อวันจากปัจจุบัน 300 MB ต่อเดือน โดยขณะมีโอเปอเรเตอร์กว่า 213รายแล้วที่กำลังดำเนินการเรื่อง LTE ส่วนประเทศที่เปิดใช้ LTEอย่างแพร่หลาย อาทิ ญี่ปุ่นมี LTE 180,000 ไซต์ เกาหลีมี LTE80,000 ไซต์ และสหรัฐอเมริกามี LTE 74,000 ไซต์ ในขณะที่จีนจะเป็นตลาดคอนซูเมอร์ที่ใหญ่ที่สุดสำหรับ LTE ในอนาคต เช่นเดียวกัน
       
       'ปัจจุบันผู้นำในการให้บริการ LTE กว่า 92 รายใช้อุปกรณ์ของเอ็นเอสเอ็น และ 7 ใน 8 โปรเจ็กต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลือกใช้เอ็นเอสเอ็นเช่นกัน ซึ่งที่ผ่านมาในเกาหลีหลังจากโอเปอเรเตอร์เปิดให้บริการLTE แล้ว พบว่ามีรายได้มากกว่าเดิมประมาณ 20% แต่ทั้งนี้ต้องตั้งราคาพอๆ กับ 3G ผู้บริโภคจึงจะหันมาใช้เนื่องจากความเร็วที่ได้รับจากการใช้บริการ และจะทำการซื้อแพกเกจเพิ่มเติมเนื่องจากพอใจในประสิทธิภาพ'
       
       Company Relate Link :
       NSN

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)