Author Topic: 'สหภาพฯ กสท' ค้านหัวชนฝา โปรเจ็กต์ฉาว FTTx 300 ล้านบาท  (Read 603 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


นายสังวรณ์ พุ่มเทียน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)

สหภาพฯกสท ขวางโครงการ FTTx พื้นที่ภาคตะวันออกมูลค่า 300 ล้านบาท หลังส่งกลิ่นฉาวตั้งแต่ปั้นทีโออาร์ 'ประธานสหภาพฯ สังวรณ์' ระบุบอร์ดหรือกจญ.ควรออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ย้ำไม่ยอมให้เกิดเรื่องลับลมคมในแล้วทำให้องค์กรเสียหาย
       
       นายสังวรณ์ พุ่มเทียน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กรณีที่ฝ่ายบริหารของกสท กำลังทำโครงการจัดซื้อเคเบิลใยแก้ว (FTTx) ในพื้นที่ภาคตะวันออก มูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท โดยอยู่ในขั้นตอนการจัดทำทีโออาร์และมีความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นนั้น สหภาพฯต้องการให้นายกิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการใหญ่ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง รวมทั้งต้องการให้บอร์ดกสทร่วมตรวจสอบเพื่อให้เกิดความชัดเจนด้วย
       
       ทั้งนี้สหภาพฯกสท มองว่าประเด็นดังกล่าวมีมูลที่จะเกิดการทุจริตในโครงการจัดซื้อ FTTx มูลค่า 300 ล้านบาทจริง โดยในตอนนี้สหภาพฯ กำลังติดตามอย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะออกมาคัดค้านทันทีหากโครงการดังกล่าวมีการอนุมัติจากฝ่ายบริหาร เนื่องจากปัญหาเรื่องสัญญาโครงการเก่าFTTx 12 สัญญาก็ยังไม่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแต่อย่างใด รวมทั้งยังโดนสภาพัฒน์ฯ ตีกลับแผนมาขอข้อมูลเพิ่มเติมด้วยซ้ำ
       
       'อะไรที่มีลับลมคมใน สหภาพฯไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว โดยเฉพาะการที่ทำให้กสท เสียผลประโยชน์มากกว่าได้ประโยชน์ ซึ่งเราพร้อมที่จะออกมาเคลื่อนไหวทันที ขณะเดียวกันยังทราบมาว่ามีบอร์ดกสท บางคนก็ไม่เห็นด้วยกับโปรเจกต์ดังกล่าว'
       
       ทั้งนี้สหภาพฯกสท ได้ออกเอกสารข่าวด่วนในเดือนต.ค. 2556 ระบุว่าบอร์ดหรือกจญ. ใครควรจะเป็นคนออกมาชี้แจง หรือ ใครจะเป็นผู้หาข้อเท็จจริง ? อ้างถึง 'จากกระแสข่าวที่ว่า ลิ่ม จากวงไอทู คือ มือตบระดับแนวหน้า (นายหน้า) จากการนำโครงการต่างๆ ของ CAT ไปหาผลประโยชน์ เรียกรับกับบริษัทฯที่ทำธุรกรรมกับ CAT ผ่านการทำงานร่วมกันเป็นทีม ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูง อดีตผู้บริหารไทยคม (Mr. เมฆ......) ที่อ้างยันตร์ ' นาย ก.' แปะหน้าผาก ว่ากันถึงขนาดบริษัท เล็ก บริษัท ใหญ่ ที่จะทำมาหากินใน CAT ไม่มีใครผ่านเงื้อมมือ ลิ่ม ไปได้ '
       
       โดยจุดยืนสหภาพฯ เห็นว่าปัญหาการตั้งโต๊ะ เรียกรับผลประโยชน์ ซื้อของแพง คุณภาพต่ำ บอร์ดควรจะต้องกำกับดูแล ป้องกันการทุจริต รั่วไหล ที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ยิ่งถ้ามีโครงการใหญ่ กสทก็จะเป็นแหล่งทำมาหากินให้กับพวกเปรตที่มาฉกฉวยผลประโยชน์ขององค์กรและประเทศชาติที่มาตามยุค บอร์ดมาแล้วก็ไป กจญ.มาแล้วก็ไป แต่พนักงานกสท ทุกท่านต้องอยู่ช่วยกันปกป้องผลประโยชน์เพื่อไม่ให้เสียหายไปมากกว่านี้
       
       'สหภาพฯกสท พิจารณาว่าปัญหาภายนอกและภายในที่เกิดขึ้น พนักงานกสททุกคนจะต้องมีส่วนร่วมดูแลองค์กร และสร้างความสามัคคีภายในองค์กรเพื่อร่วมกันแก้ปัญหาและสร้างรายได้เข้ามาทดแทนรายได้สัมปทานที่จะหมดไป เพื่อความมั่นคงในการทำงานของเพื่อนพนักงานทุกคน สหภาพฯกสทจะทำหน้าที่ยึดมั่นใจการปกป้อง คุ้มครอง แสวงหาร่วมพัฒนาและรับผิดชอบสังคม ตรวจสอบการทุจริตป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับกสท พร้อมทำหน้าที่ติดตาม ทวงคืนทรัพย์สินที่อยู่ภายใต้สัญญาสัมปทาน เพื่อความมั่นคงของประเทศชาติและประโยชน์ประชาชนตลอดไป'
       
       แหล่งข่าวในกสท กล่าวยืนยันว่าประเด็นฉาวความพยายามปั้นโครงการจัดซื้อ FTTx 300 ล้านบาท มีข้อสังเกตุอยู่ 3 ประเด็นคือ 1.โครงการดังกล่าวพยายามเลี่ยงการประมูล เพื่อล็อกให้บางบริษัท 2.อ้างว่าโครงการนี้เป็นการซื้อสำรอง เนื่องจากพื้นที่ภาคตะวันออกมีการติดตั้งโครงข่าย FTTx อยู่แล้ว แต่การซื้อเพื่อสำรองใช้ เป็นการผลาญงบประมาณ เนื่องจากไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อล่วงหน้า อุปกรณ์เทคโนโลยีนับวันมีแต่ราคาลดลง การซื้อมาเก็บไว้ ทำให้ระยะเวลารับประกันสั้นลง ก่อนการใช้งาน และ เทคโนโลยีที่ออกใหม่มักมีประสิทธิภาพสูงกว่า3. บริษัทที่ล็อกไว้ให้ ไม่มีประสบการณ์ด้านโครงข่าย FTTx หากกสทจะดันทุรังไม่เปิดประมูล หรือ ใช้วิธีพิเศษเพื่อให้ได้บริษัทนี้จริงๆ ก็น่าจะท้าทายอำนาจตรวจสอบของรัฐ
       
       แหล่งข่าวระบุว่าการปั้นโครงการจัดซื้อ FTTx มูลค่า300 ล้านบาทในพื้นที่ภาคตะวันออกนั้น เชื่อว่าเป็นความร่วมมือกันในกลุ่มก๊วนที่สหภาพฯตั้งข้อสังเกตุเท่านั้น โดยน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที ไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย เพราะตั้งแต่นายกิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ มาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ กสทกลายสภาพเป็นรัฐอิสระ อำนาจการกำกับดูแลและการส่งผ่านนโยบายจากกระทรวงไอซีที ดูเหมือนจะลอยอยู่ในอากาศธาตุ ต่างจากนายยงยุทธ วัฒนสินธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ทีโอทีเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งกรรมการบอร์ดสายกระทรวงไอซีที บางคนยังทนไม่ไหว ต้องลาออกจากการเป็นกรรมการบอร์ดกสท
       
       ว่ากันว่าอิทธิพลของกลุ่มก๊วนนี้มีสูงมาก แพร่ระบาดไปหลายรัฐวิสาหกิจ ยกตัวอย่างให้เห็นชัดๆที่การไฟฟ้าภูมิภาค ที่อวดอ้างยันตร์ 'ผู้นำ' แปะที่หน้าผาก แว่วว่ากำลังจะฟาดโครงการ IP Core กับ DWDM งบประมาณกว่า 900 ล้านบาท หลังฟาดงวงฟาดงาใส่ผู้บริหารที่ต้องล้มการประมูล เพราะตัวเองคิดว่าอวดอ้างบารมีผู้นำแล้วมีอำนาจเพียบทำอะไรก็ได้ แม้กระทั่งเอกสารของคู่เทียบไม่แนบเนียน แต่ผู้บริหารการไฟฟ้าฯ ไม่เล่นด้วย เพราะอยู่นอกคุกสบายดีอยู่แล้ว เลยต้องสั่งให้ล้มประมูล
       
       'ขนาดสามารถฯ ล็อกซเล่ย์ ที่ว่าแข็งๆ ตอนนี้ยังไม่แข็งเท่ารายนี้เลย แต่หากไม่เลิกพฤติกรรมอวดอำนาจ ปั้นโครงการทำรัฐเสียหาย อาจเจอแฉเร็วๆนี้ ลำพังโครงการที่ได้ไปก็มากมายแล้วทั้งกสท และการไฟฟ้าฯ แต่ได้ยินว่างานยังค้างเพียบ ทำไม่เสร็จอีกหลายโครงการด้วยซ้ำ'

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics