“คิมเบอร์ลี่” เผยถึงห่าง “เจ็ท” แต่ยังติดต่อกันทุกวัน บอกตอนนี้รู้สึกดีกว่าตอนคบกันเพราะไม่ต้องทะเลาะกัน บอกถ้าไม่ได้คืนดีกลับไปคบกันเหมือนเดิมก็คงแล้วแต่พรหมลิขิต ยังคงครุมเครือสำหรับความสัมพันธ์ของนางเอกสาว “คิมเบอร์ลี่ แอน เทียนศิริ” กับหนุ่ม “เจ็ท ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิ์เวช” ที่ก่อนหน้านี้ออกมาเผยว่าห่างกันแล้ว แต่ยังไม่ใช้คำว่าเลิก ซึ่งพอมีโอกาสได้เจอสาว “คิมเบอร์ลี่” ในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดจากเนสวิต้าสูตรเฉพาะของเนสท์เล่ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เลยขออัพเดทเรื่องราวความสัมพันธ์กับหนุ่มเจ็ท เจ้าตัวเผยยังคงสถานะห่างกัน แต่รู้สึกดีกว่าตอนคบกัน
“ตอนนี้ก็ยังเรื่อยๆ อยู่ค่ะ ถอยกันคนละก้าวค่ะ แต่ก็ยังคุยยังติดต่อกันทุกวัน ก็ถามสารทุกข์สุขดิบกินข้าวหรือยัง คือเราไม่ได้ทะเลาะกัน แต่ก็ไม่ได้คุยกันเยอะเหมือนเดิมแบบเมื่อก่อนค่ะ ถามว่ามีการง้อหรือเปล่าอันนี้ไม่ทราบค่ะเพราะเรื่องเพิ่งเกิดเร็วๆ นี้เอง แต่คงไม่ค่ะ แล้วก็ต่างๆ คนต่างทำงาน แล้วคิมเองก็ต้องเรียนด้วยค่ะใกล้จะสอบด้วย เอาเรื่องงานกับเรื่องเรียนก่อน”
“ถามว่ารู้สึกดีกว่าตอนที่คบหรือเปล่า ก็มันก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์ค่ะ อาจจะมีนิดหนึ่ง แต่ว่าก็เป็นแบบนี้ เราไม่ได้ทะเลาะกันก็เลยสบายใจตรงนี้ค่ะ ที่คิมไม่ค่อยเฮิร์ท เพราะว่าเราก็แค่ถอยออกมาเฉยๆ เราก็ตั้งใจทำงานของเราค่ะ ตอนนี้ตั้งใจทำงานกับเรียนอย่างเดียว ถ้าบอกว่าคนงงกับสาเหตุก็คิมก็งงเหมือนกันค่ะ เราคุยกันทั้งคู่ค่ะแล้วก็ตกลงโอเคจบ มันเป็นเรื่องของเวลาที่มันไม่ค่อยได้มี แล้วก็ต่างคนต่างความคิดมันก็เปลี่ยน ถ้าใช่มันก็ใช่ ถ้าเดินต่อไปด้วยกันมันไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ไม่เกี่ยวกับเรื่องข่าวเก่าๆ กับพี่หมากแน่นอนค่ะ”
เผยถ้าไม่สามารถกลับมาคบกันได้เหมือนเดิมก็คงแล้วแต่พรหมลิขิต
“ก็ขึ้นอยู่กับพรหมลิขิตค่ะ เราเชื่อตรงนั้นมากกว่าค่ะ เพราะว่าเวลามันจะรักษาอะไรได้อีกเยอะ ผู้ใหญ่ไม่มีใครเป็นกาวใจให้ไหมค่ะ มันเป็นเรื่องของคนสองคนค่ะ ซึ่งจะกลับไปคืนดีกันไหมมันขึ้นอยู่กับอนาคตค่ะไม่รู้อะไรสักอย่างเลยค่ะตอนนี้”
ยันห่าง “เจ็ท” ไม่เกี่ยวกับ “หมาก ปริญ สุภารัตน์”
“พี่หมากตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นก็ จริงๆ ไม่อยากให้พี่หมากเข้ามาเกี่ยวข้องเลย เพราะมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพี่หมาก พี่หมากก็อยู่ส่วนของเขา แล้วมันเป็นเรื่องของคนสองคน ซึ่งพอมีข่าวเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันค่ะ จะคุยกันเป็นกรุ๊ปมากกว่า แต่ไม่ได้คุยเรื่องส่วนตัวอะไรก็ทักทายปกติแต่ว่าไม่เกี่ยวอะไรกับมือที่สาม ไม่อยากให้เอาพี่หมากเข้ามาเกี่ยวข้องดีกว่าค่ะ”
“ส่วนที่บอกว่าพี่หมากเขาเครียดกับข่าวที่เกิดขึ้น ก็มันเป็นเรื่องของคนสองคนค่ะ พี่หมากเขาคงไม่ได้เครียดขนาดนั้นหรอก พี่หมากเขาก็อยู่ส่วนของพี่หมาก แต่ถามว่าเห็นใจพี่เขาไหมโดนมาเกี่ยวก็…(หยุดคิดพร้อมหัวเราะ) เราไปห้ามความคิดใครไม่ได้ค่ะ”
ที่มา: manager.co.th