“สุเทพ วงโฮป” จวกมันสายไปแล้ว กรณีช่อง 9 กลับลำยอมให้ออนแอร์ “คนค้นฅน” ตอน “ศศิน เฉลิมลาภ 388 ก.ม.จากป่าสู่เมือง” มองเป็นแค่การแก้ผ้าเอาหน้ารอด เพราะคนดูจากยูทิวบ์จนอิ่มแล้ว ซัดไม่ทำหน้าที่สื่อ จากกรณีที่ โมเดิร์นไนน์ ทีวี ระงับการออกอากาศรายการ “คนค้นฅน” ตอน “ศศิน เฉลิมลาภ 388 ก.ม.จากป่าสู่เมือง” ซึ่งผลิตโดยบริษัท ทีวีบูรพา พร้อมให้เหตุผลว่าอยากจะให้มีการนำไปแก้ไขเนื้อหาก่อน กระทั่งกลายเป็นที่วิจารณ์อย่างหนักโดยเฉพาะในโลกของโซเชียลมีเดีย ก่อนจะกลับลำยอมให้ออกอากาศได้ในวันเสาร์ที่ 12 ตุลาคมนี้ โดยให้ทางผู้ผลิตกลับไปปรับปรุงเนื้อหาของรายการใหม่เพื่อให้มีความครอบคลุมก่อนจะนำกลับมาออกอากาศอีกครั้ง พร้อมยืนยันว่าไม่มีการเมืองมาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
ซึ่งกับประเด็นดังกล่าวได้สอบถามความคิดเห็นไปยัง “สุเทพ ถวัลย์วิวัฒนกุล” ศิลปินเพลงเพื่อชีวิตชื่อดังวง “โฮป แฟมิลี่” ในฐานะที่ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ไม่เห็นด้วยกับการสร้างเขื่อนแม่วงก์ เจ้าตัวก็ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาว่า ช่อง 9 ไม่ทำหน้าที่สื่อ พร้อมบอกมันสายเกินไปแล้วยอมให้ออกอากาศตอนนี้ เพราะทางรายการได้มีการอัปโหลดเทปนี้ผ่านยูทิวบ์จนคนได้ดูกันอิ่มไปแล้ว
“ผมมีความคิดเห็นว่าช่อง 9 เป็นสื่อจริงๆ แล้วหน้าที่ของสื่อคือต้องให้ข้อมูลข่าวสาร ซึ่งจริงๆ แล้วเขาก็ทำหน้าที่ของเขาตลอดมา ทั้งละคร มีทั้งข่าว มีทั้งอะไรสารพัดก็ออกอากาศได้ตามปกติของเขา แต่พอมาเรื่องนี้เขาไม่ได้ทำหน้าที่ของสื่ออย่างที่ควรจะเป็น มีการระงับไม่ให้ออกอากาศและอ้างเหตุผลต่างๆ นานา ซึ่งถ้าเราดูจากกิจกรรมที่กลุ่มพี่น้องที่ต่อต้านการสร้างเขื่อนที่เขาทำกัน เราก็จะเห็นว่ามันก็คงจะเกี่ยวข้องอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่าง ทำให้เขามีอาการแบบนี้ออกมา”
ส่วนกรณีที่อยู่ๆ ทางช่อง 9 เปลี่ยนใจยอมให้ออกอากาศในวันที่ 12 ต.ค.นี้ เจ้าตัวจวกมันสายไปแล้ว
“มันสายไปแล้ว เพราะว่าคนเขาก็ดูจากยูทิวบ์ที่รายการคนค้นฅนเขาอัปโหลดขึ้นไป ก็ดูกันจนอิ่มแล้ว ก็เป็นเพียงแค่การแก้ผ้าเอาหน้ารอดแค่นั้นเอง เพราะว่ามันไม่สมเหตุสมผล”
เชื่อเพราะพลังมวลชนที่ออกมาโจมตีและแสดงความไม่เห็นด้วย มีส่วนกดดันจนทำให้ช่อง 9 ยอมให้ออกอากาศ
“ผมคิดว่าคงเป็นประมาณนั้นครับ เพราะกระแสทางโซเชียลเน็ตเวิร์กเขาก็ให้คำวิพากษ์วิจารณ์และก็คอมเมนต์ช่อง 9 ไปในทางที่ไม่ค่อยดีนัก อันนั้นก็อาจจะเป็นพลังสำคัญที่ทำให้เขาแก้ปัญหาด้วยการแก้ตัวแล้วนำมาออกอากาศก็เป็นไปได้มากครับ และอีกเหตุผลหนึ่งที่อยากจะตอบและอยากจะเสริมก็คือจริงๆ แล้ว ชื่อรายการเขาชื่อคนค้นฅน ทีนี้รายการเขาคอนเซ็ปต์เขาก็เป็นไปตามชื่อรายการอยู่แล้ว เขาอาจจะค้นคุณศศิน (ศศิน เฉลิมลาภ) ว่าเขาทำไมถึงมาเดิน 388 กิโลฯ เพื่อต่อต้านการสร้างเขื่อนก็เป็นการคนค้นฅนไงครับ ก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน ไม่เห็นจะไปเกี่ยวกับอะไรอย่างอื่นที่จะต้องจำเป็น จำเป็นต้องมีข้อมูลอีกด้านหนึ่งมาหักล้างกันอะไรทำนองนี้ ซึ่งเหตุผลมันฟังไม่ขึ้น เพราะชื่อรายการมันก็บอกอยู่แล้วคนค้นตน”
“จริงๆ แล้วเราชอบนะ เราติดตามดูรายการมาตลอด ยิ่งเวลามีเรื่องปู่เย็นตอนที่เขาทำเรื่องนี้น่าชื่นชมมาก ก็เป็นกำลังใจให้นะครับ แต่เราก็ไม่ได้มองแค่รายการที่มีคุณภาพเท่านั้น เราก็มองไปถึงสปอนเซอร์ที่เขาได้ด้วย คือสปอนเซอร์ที่เขาได้คือ ปตท.คือตรงนี้ที่เขาได้สปอนเซอร์เป็น ปตท.เขาจะมีความมั่นคงต่อรายการของเราเองได้มากน้อยแค่ไหนในอนาคต ก็ถือว่าผมให้กำลังใจก็แล้วกัน ว่ารายการเขาจะมีจุดยืนที่มั่นคงในแบบของเขา โดยที่ไม่คำนึงถึงสปอนเซอร์ที่เขาได้รับนะ ก็ขอให้กำลังใจตรงนั้นก็แล้วกันครับ”
พร้อมเผยถึงเหตุผลที่ร่วมต่อต้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์ ว่า…
“จริงๆ แล้วจะบอกว่าเราอยู่ข้างประชาชน คือเราอยู่ข้างที่เราคิดว่าถูกต้องมากกว่า เราเห็นด้วยกับการต่อต้านการสร้างเขื่อนเพราะว่ามันมีเยอะเกินไปแล้ว แล้วจำนวนเขื่อนที่มีเยอะแล้วก็ไม่เห็นจะมาแก้ปัญหานำท่วมอะไรได้ ก็เลยคิดว่าเขื่อนที่จะสร้างน่าจะเป็นเรื่องของผลประโยชน์มากกว่า ยิ่งสร้างเขาก็ยิ่งคอร์รัปชันได้มาก ยิ่งได้ผลประโยชน์มาก เขาก็มองตรงนั้นมากกว่า เราก็อยู่ในสิ่งที่เราคิดว่าต่อต้านการสร้างเขื่อนเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วเราเลือกอยู่ครับ แล้วเราก็เลือกอยู่ข้างธรรมชาติ ถ้าพูดกันจริงๆ นะ เราไม่มีสีไม่มีค่ายไม่มีอะไรทั้งสิ้น เราอยู่เคียงข้างธรรมชาติ พูดแทนป่าพูดแทนต้นไม้สัตว์ป่า ซึ่งทุกวันนี้มันก็เหลือน้อยเต็มทีแล้ว แล้วจริงๆ ยิ่งทำลายร้างเข้าไปอีกมันก็อาจจะมีอะไรตามมาอีกเยอะแยะครับ”
ที่มา: manager.co.th