แลร์รี่ เพจ (Larry Page) ซีอีโอกูเกิลประกาศแผนลงทุนล่าสุดในธุรกิจสุขภาพอาร์เธอร์ เลวินสัน (Arthur Levinson) มือดีผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาผู้กุมบังเหียน Calico บริษัทลูกรายใหม่ล่าสุดของกูเกิล ซีอีโอกูเกิลประกาศแผนลงทุนครั้งใหม่แหวกแนวกว่าเดิม ชูชื่อบริษัท "แคลิโค (Calico)" หรือชื่อเต็มว่า California Life Company เพื่อลุยพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาพเพื่อต้านทานโรคภัยไข้เจ็บและความชรา งานนี้ยักษ์ใหญ่เสิร์ชเอนจิ้นพร้อมลุยจริงจังด้วยการยกบริษัทให้อยู่ภายใต้การดูแลของมือดีผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาอย่าง"อาร์เธอร์ เลวินสัน (Arthur Levinson)" ซึ่งมีดีกรีเป็นประธานแอปเปิลคนปัจจุบันและเคยมีตำแหน่งเป็นผู้บริหารกูเกิลมาก่อน เบื้องต้นรายละเอียดการลงทุนยังไม่เป็นที่เปิดเผย ที่ผ่านมา แลร์รี่ เพจ (Larry Page) ซีอีโอกูเกิลประกาศแผนลงทุนในธุรกิจนวัตกรรมหลุดโลกอย่างรถยนต์ไร้คนขับ, แว่นตาอัจฉริยะที่ชาวออนไลน์จะสามารถท่องเน็ตได้ด้วยการวาดมือบนอากาศและเสียงพูด รวมถึงบอลลูนยักษ์ปล่อยสัญญาณไว-ไฟที่จะทำให้ผู้อาศัยในพื้นที่ห่างไกลสามารถออนไลน์ได้ในวงกว้าง ล่าสุดซีอีโอกูเกิลประกาศตั้งบริษัทใหม่ในชื่อ Calico เพื่อให้ชาวโลกมีนวัตกรรมด้านสุขภาพที่ช่วยให้แข็งแรงและฟิตอยู่เสมอ
อีกสิ่งที่ทำให้โครงการนี้ได้รับความสนใจมากคือการดึงผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชีววิทยาอย่างอาร์เธอร์ เลวินสัน มาเป็นซีอีโอของบริษัท Calico โดยก่อนหน้านี้ เลวินสันเคยมีดีกรีเป็นซีอีโอบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านวิทยาศาตร์เพื่อคุณภาพชีวิตอย่างจีเนนเทค (Genentech) และเคยเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารกูเกิลที่ควบตำแหน่งกรรมการบริหารแอปเปิล โดยเลวินสันขึ้นนั่งตำแหน่งประธานแอปเปิลหรือ Chairman ให้แอปเปิลตั้งแต่ปี 2011 ถึงปัจจุบัน
รายงานระบุว่า Calico จะตั้งสำนักงานที่เขตเบย์แอเรีย (Bay Area) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสำนักงานใหญ่กูเกิลที่ย่านเมาเทนวิว (Mountain View) ทั้งหมดนี้ไม่มีการเปิดเผยมูลค่าการลงทุนในบริษัท Calico ใดๆ
เบื้องต้น ซีอีโอกูเกิลอธิบายวิสัยทัศน์ของการลงทุนในบริษัท Calico ไว้อย่างยิ่งใหญ่ว่าปัญหาสุขภาพและความชรานั้นส่งผลกระทบต่อทุกคน ตั้งแต่ความสามารถในการเคลื่อนไหวที่ช้าลงไปจนถึงความคล่องตัวที่ลดลง ปัญหาที่เกิดขึ้นตามอายุที่มากขึ้นกลายเป็นโรคที่คุกคามชีวิตซึ่งส่งผลต่อเนื่องทั้งทางกายภาพและอารมณ์ มีผลกระทบกับชีวิตส่วนบุคคลและชีวิตครอบครัวในที่สุด ทั้งหมดนี้ทำให้ Calico เกิดขึ้นเพื่อพัฒนานวัตกรรมที่จะสามารถแก้ปัญหานี้ได้
โจซ สตีเฟนส์ (Josh Stevens) ซีอีโอบริษัทสตาร์ทอัปเกิดใหม่ด้านสุขภาพนามว่าคียส์ (Keas) มองว่าการเข้าสู่อุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ของกูเกิลจะเป็นผลดีต่อตลาด เนื่องจากสิ่งที่กูเกิลประกาศเรื่องราวของ Calico ในวันนี้จะทำให้โลกหันมาเห็นความสำคัญของปัญหาสุขภาพเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะปัญหาของโรคที่ยังไม่สามารถรักษาได้อย่างโรคมะเร็งและอัลไซเมอร์ ซึ่งทั้งหมดนี้จะนำไปสู่กระบวนการระวังและรักษาที่ดีกว่าปัจจุบัน
หนึ่งในความเป็นไปได้ที่สตีเฟนส์มอง คือบริษัทลูกของกูเกิลกำลังก้าวเข้าไปสู่อุตสาหกรรมยาต้านความชรา ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สาวกผู้เชื่อมั่นในกูเกิลต้องจับตามอง
แถลงการณ์ของกูเกิลยังระบุถึงคำให้สัมภาษณ์ของซีอีโอแอปเปิลอย่างทิม คุก (Tim Cook) ซึ่งระบุว่าเลวินสันมีดีกรีความบ้าบิ่นเอาจริงเอาจังที่เหมาะสมกับการดูแลบริษัทด้านสุขภาพของกูเกิล โดยยอมรับว่าจะรอชมผลลัพท์จากการพัฒนาของทีม Calico ต่อไป
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กูเกิลพยายามตอบโจทย์ผู้รักสุขภาพทั่วโลก เนื่องจากก่อนหน้านี้ กูเกิลเคยเปิดตัวบริการกูเกิลเฮลท์ (Google Health) แต่ถูกยกเลิกไปในปีที่แล้ว (2012) โดยบริการดังกล่าวมีแนวคิดเปิดกว้างให้ผู้บริโภคทุกคนสามารถเก็บรักษาข้อมูลสุขภาพของตัวเองไว้บนโลกออนไลน์ เพื่อให้การย้ายโรงพยาบาลหรือการเปลี่ยนทีมแพทย์ที่ดำเนินการรักษาสามารถทำได้สะดวกและถูกต้อง อย่างไรก็ตาม บริการดังกล่าวกลับไม่แพร่หลายเนื่องจากบริการนี้ไม่ได้รับการประชาสัมพันธ์ที่เพียงพอ รวมถึงความสามารถด้านความปลอดภัยที่ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่เลือกที่จะไม่กรอกข้อมูลสุขภาพของตัวเองลงไปบนโลกออนไลน์
ทั้งหมดนี้คาดว่า กูเกิลจะบริหาร Calico อย่างระมัดระวังบนบทเรียนที่ได้รับจากบริการด้านสุขภาพที่เคยทำมา
ที่มา: manager.co.th