“น็อต” น้ำตาซึมถูก “จอย” บอกเลิก แจงสัมพันธ์ไปกันไม่รอด เพราะเป้าหมายในชีวิตที่แตกต่างกัน โดยตนอยากจะมีชีวิตครอบครัว ส่วนจอยอยากจะอยู่คนเดียวใช้ชีวิตบั้นปลายกับธรรมะ ลั่นความสัมพันธ์ยังเป็นเพื่อนพูดคุยกันได้ บอกเคยรักฝ่ายหญิงยังไงวันนี้ก็ยังรักอยู่เหมือนเดิม ตามจีบสาว “จอย รินลณี ศรีเพ็ญ” มาหลายปี แต่หนุ่ม “น็อต วรฤทธิ์ เฟื่่องอารมย์” ก็ยังไม่คิดท้อเดินหน้าขอพิสูจน์ความจริงใจเผื่อสาวจอยจะเปลี่ยนใจจากที่อยากใช้ชีวิตอยู่คนเดียวพึ่งธรรมะ มาใช้ชีวิตคู่ร่วมกับตน ล่าสุดสาวจอยก็ออกมายืนยันสถานะว่าจบความสัมพันธ์กับหนุ่มน็อตไปเรียบร้อยแล้ว โดยบอกว่าตนชัดเจนไม่ได้คิดอะไรกับฝ่ายชายมาตั้งแต่แรก และย้ำเสมอว่าไม่ต้องรอ และทันทีที่สอบถามเรื่องราวดังกล่าวกับหนุ่มน็อต ก็ทำเอาเจ้าตัวแอบน้ำตาร่วง ขอปลีกตัวจากวงสัมภาษณ์เพื่อไปตั้งหลักก่อนจะกลับมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนต่อ
“เหมือนเดิมไหม มันก็เหมือนเดิมในสิ่งที่จอยยืนยันมาตลอด ก็คงเหมือนเดิม ผมเองซะอีกที่ยอมถอนตัว ก็คงถึงเวลา เราก็พยายามพิสูจน์ตัวเองมานาน สุดท้ายแล้วถ้ามัน... (นิ่งน้ำตาซึมและพูดเสียงในลำคอว่า ไม่ไหวแล้ว และเดินออกไปจากวงสัมภาษณ์เพื่อตั้งหลักใหม่) ก็คุยกันนะครับ แต่ด้วยความที่เป้าหมายเราไม่ตรงกัน อย่างจอยเองเขาสายธรรมะ เขาอยากใช้ชีวิตแบบที่สุดท้ายแล้วมองว่าจะอยู่ในวัด แต่ผมเป็นคนอยากมีครอบครัว”
“ก็โอเคในเมื่อเป้าหมายไม่ตรงกัน เราก็ยุติตรงนี้ดีกว่า ดีกว่าอนาคตมันจะเกิดเหตุการณ์อะไร สมมติอนาคตผมเกิดลังเล มันก็จะทำให้เสียความรู้สึกเปล่าๆ วันนี้เราคุยกันแบบเพื่อน ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราก็คุยแบบเพื่อนอยู่แล้ว ตอนนี้ความสัมพันธ์แบบเพื่อนเราก็เป็นกันอยู่นะ แต่ความคิดว่า จะพัฒนาต่อไปข้างหน้าถ้ามันเป็นไปไม่ได้แล้ว เราพยายามเต็มที่แล้ว ก็หยุดมันตรงนี้ดีกว่า แล้วก็รู้สึกดีกันไปดีกว่า ก็จบกันด้วยดี”
“ยอมรับว่าเสียใจ ผมพูดเสมอว่า โอกาสที่เราจะเจอคนดีๆ ในชีวิตมันค่อนข้างยาก เมื่อเจอแล้วเราก็อยากดูแลเอาไว้ แต่ในเมื่อวันนี้มันเป็นไปไม่ได้แล้ว เราก็ต้องยอมรับความจริงและเข้าใจกับมันให้มากที่สุด ที่ผ่านมาเราเองก็พยายามพิสูจน์ตัวเองมาตลอด แต่ผมก็ไม่ได้ดีร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก ก็มีเลวบ้าง ก็อยู่ที่ว่าคนสองคนมันจะคลิกกันหรือไม่ สุดท้ายถ้ามันไม่คลิกกัน มันก็ต้องแยกกัน มันก็เหมือนจิ๊กซอว์ที่ต่อกันไม่ติด”
“ต้องเอาเพลงคุณอามาพูด รักเราเหมือนเส้นขนาน ลากยังไงก็ไม่มีทางเจอกันอยู่แล้ว เพราะจุดจบเราก็ไม่ได้มองที่จุดเดียวกัน เพราะฉะนั้นมันไม่เจอกันอยู่แล้ว จอยเองเขาก็พูดเสมอว่า น็อตอย่ามาเสียเวลาเลย ผมถามเขาทุกปี ว่าปีนี้เปลี่ยนใจรึยัง จนถึงปีสุดท้ายก็คือปีนี้ ยังไม่เปลี่ยนใจ ฉะนั้นเขาก็บอกว่าอย่าเสียเวลาเลย จริงๆ เรามีความรู้สึกดีต่อกันนะ แต่ว่าเป้าหมายเราไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง น็อตอย่าปิดกั้นตัวเองเลย เผื่อน็อตจะเจอคนที่เหมาะสมกับน็อต”
“จริงๆ มันก็คิดอยู่ทุกครั้ง คนก็จะถาม ว่ามันอะไรยังไง ถามว่าคิดไหมก็คิด แต่มันยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนเท่านั้นเอง พอวันที่เขาเริ่มพูด เราก็เลยถามเขาอีกครั้ง ว่าเป้าหมายคุณยังเหมือนเดิมรึเปล่า ยังตั้งเป้าแบบนั้นเหมือนเดิมรึเปล่า ที่ผ่านมามันเปลี่ยนอะไรได้บ้างไหม คำตอบที่ได้ก็คือเขายังมีเป้าหมายในชีวิตเขาเหมือนเดิม เขาอยากดูแลครอบครัวเขา อยากอยู่กับครอบครัวเขาไม่เคยคิดจะมีใครเข้ามาอยู่ด้วย”
“เราเลยคิดว่าถ้าอย่างนั้น วันนี้มันถึงเวลาที่ต้องหยุดแล้ว มันคงเดินต่อไปไม่ได้มันเป็นการพูดกันด้วยดี เราโตกันแล้ว จะ 40 กันทั้งคู่แล้ว มันไม่ใช่ปั๊บปี้เลิฟแล้ว เราคุยกันด้วยเหตุผลมาตลอด ผมเองยังรักเขาเหมือนเดิม รักมาตลอดกระทั่งวันนี้ วันนี้ก็ยังเป็นเพื่อนที่รักกันนะครับ อย่างที่บอก เขาก็เป็นคนดี เป็นเพื่อนที่ดีได้อย่างที่ผ่านมา เรายังพูดคุยกันเหมือนเดิม ถ้ามีเรื่องก็คุยกัน ถ้าไม่มีเรื่องอะไรเราก็ไม่อยากโทร.ไปรบกวนเขาตอนนี้ ตอนนี้ก็ไม่ได้ปิดโอกาส แต่มันคงไม่ได้เร็วๆ นี้หรอกครับ มันต้องใช้เวลากว่าที่จะรู้จักคนๆ นึง มันใช้เวลานานนะ คงไม่ปุบปับ ก็ปล่อยชีวิตไปก่อน อยากทำอะไรที่ตัวเองทำ จริงๆ เราก็ไม่ค่อยได้เจอกัน จอยเขาก็ทำงานหนัก ต้องสร้างเนื้อสร้างตัว ตอนนี้ก็ทำธุรกิจไป”
ที่มา: manager.co.th
