Author Topic: “สายัณห์” อยู่ได้อีกไม่ถึงเดือน แพทย์บอกให้ญาติทำใจ  (Read 658 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai




แพทย์แถลงอาการ “สายัณห์” ทรุดลง ซึมมาก ไม่ยอมรับประทานอาหารและน้ำ มีน้ำในช่องท้องเพิ่มมากขึ้น เผยสายัณห์อยู่ได้อีกไม่ถึงเดือน ส่วนจะอยู่ถึงคอนเสิร์ตที่จะมีขึ้นวันที่ 14 ก.ย. นี้หรือไม่ยังต้องลุ้นอยู่ บอกให้ญาติทำใจ
       
       เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา(6 ก.ย.) คณะแพทย์โรงพยาบาลธนบุรี ได้เปิดแถลงข่าวอาการป่วยของ “เป้า สายัณห์ สัญญา” ขึ้นอีกครั้ง นำโดย นพ.ประสิทธิ์ เจียรกุล ผอ.โรงพยาบาลธนบุรี พร้อมด้วย นพ.วชิรบุณย์ ศาสตระรุจิรอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์ เผยว่าวันนี้นักร้องลูกทุ่งชื่อดังมีอาการซึมมากขึ้น ไม่ยอมรับประทานอาหารและน้ำ มีน้ำในช่องท้องเพิ่มมากขึ้น บอกให้ญาติทำใจ สายัณห์คงอยู่ได้อีกไม่ถึงเดือน
       
       นพ. ประสิทธิ์ : “วันนี้ผลเลือดต่างๆ ก็คือการแข็งตัวของเลือดไม่ค่อยดี การแข็งตัวของเลือดช้าขึ้น ก็แสดงว่าการทำงานของตับไม่ดี และก็เรียกไม่รู้เรื่อง ซึมมาก และเท่าที่ดูเหลืองจะเพิ่มมากขึ้น มีไข้ต่ำ 37.8 ความดันดี หายใจดี ค่าออกซิเจนความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดปกติ อาการเหนื่อยยังมีบ้าง แต่ค่อนข้างจะซึมมากกว่า”
       
       นพ. วชิรบุณย์ : “แต่อาการโดยทั่วไป เท่าที่ตรวจพบ อาการซึมมากขึ้น ผู้ป่วยก็มีน้ำในช่องท้องเพิ่มมากขึ้น การบวมยังเป็นอยู่ บวกกับผลการเจาะเลือดการทำงานของตับก็ยังเสียอยู่ ร่วมกับการทำงานของไต ค่าวัดการทำงานของไตก็เสียเพิ่มมากขึ้น มีแต่ความเข้มข้นของเลือดที่เพิ่มขึ้น ที่เราได้เติมเลือดเข้าไป แต่โดยทั่วไปก็จะรู้สึกและพูดแค่ว่าหิว เข้าห้องน้ำ ปวด แต่ว่าไม่เรียกโต้ตอบชวนคุยก็ไม่คุย ค่อนข้างซึมนะครับ”
       
       นพ.ประสิทธิ์ : “คนไข้ก็ยังมีอาการปวดท้อง ก็ฉีดยาแก้ปวดให้เวลาประมาณตี 3 (ใช้มอร์ฟีนไหม?) ยังใช้ยาธรรมดาอยู่ พวกนี้ยังรักษาตามอาการคือการให้ยาแก้ปวด แล้วตอนเช้าก็ไม่ปวดแล้ว อาการถือว่าทรุดลงครับ ทั้งผลเลือด ทั้งอาการของคนไข้มันไปด้วยกัน เพราะบางทีอาการดีผลเลือดไม่ดี แต่อันนี้มันผลเลือดไม่ดี อาการก็ไม่ดี”
       
       นพ. วชิรบุณย์ : “ส่วนการแข็งของเลือดคือมันเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานของตับ การวัดค่าทำงานของตับวัดได้จากค่าหลายตัวด้วยกัน ในเรื่องของความเหลืองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ในเรื่องของการแข็งตัวของเลือดก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่การทำงานแล้ววัดหลายๆ ด้านด้วยกัน ก็เป็นอีกด้านหนึ่งที่เราวัดเรา ซึ่งเราก็กังวลว่าจะมีโรคแทรกซ้อนตามมาคือเลือดออกง่ายกว่าคนปกติได้ง่ายกว่า ซึ่งถ้าค่าการแข็งตัวของเลือดผิดปกติไปมาก เราก็ต้องติดตามมากเป็นพิเศษ แต่นั้นก็คือส่วนหนึ่งของการทำงานของตับที่เสื่อมลง”
       
       “ถามว่าเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดช้าลงหรือเปล่า อันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับที่ว่าจะเกิดจุดที่ทำให้เลือดออกหรือเปล่า บางจุดที่เป็นต้นว่าจะมีแผลหรือเปล่า มีเลือดออกในช่องท้องหรือเปล่า ก็อาจจะออกง่ายหรืออาจจะง่ายหว่าคนปกติ ซึ่งในคนปกติเวลาเลือดออกในกระแสโลหิตจะมีการหยุดยั้ง เลือดหยุดตัวเองได้ง่ายในระดับหนึ่ง แต่กับผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องการแข็งตัวของเลือด เลือดที่ออกคงจะหยุดยากกว่า”
       
       “วันนี้เท่าที่ทราบยังไม่ทานครับ ทานได้น้อยมากเลย เพราะว่าเมื่อวานตอนเย็นทานได้ครึ่งแก้วอาหารเสริม แล้วน้ำก็ไม่ทาน อาหารทั่วไปไม่รับประทาน ส่วนอาการซึมก็อาจจะเป็นเพราะว่ามีของเสียอยู่ในร่างกาย ก็เลยอาจจะทำให้มีอาการซึมได้ แต่ก็ยังขับถ่ายได้อยู่ แต่ว่าก็อาจจะมีถึงการปัสสาวะไม่ออกเพราะการทำงานของไตเสื่อมลงเรื่อยๆ แต่ตอนนี้ยังขับถ่ายได้เป็นปกติอยู่ครับ”
       
       ส่วนอาการท้องบวมของ “สายัณห์” ถ้าตึงมากก็ต้องเจาะเอาน้ำออก
       นพ.ประสิทธิ์ : “ก็ถ้าไม่ตึงมากก็ไม่เจาะ แต่ถ้าตึงมากก็ต้องเจาะว่าจริงๆ เรารักษาด้วยการประคับประคอง คือการรักษาไม่ให้ปวด ไม่ให้อึดอัด ทุรนทุราย ต้องดูว่าตัวช่องท้องมันขยายได้แค่ไหน การเจาะก็มีความเสี่ยงว่าอาจจะเอาติดเชื้อเข้าไปในช่องท้องด้วย มีโอกาส แล้วหรือไม่ก็ไปเจาะผิดไปโดนเส้นเลือดก็ได้ แต่ว่าส่วนใหญ่จะไม่โดนเส้นเลือดหรอก”
       
       นพ. วชิรบุณย์ : “คือน้ำในช่องท้องต้องดูอาการโดยรวมของผู้ป่วยด้วย ที่อาจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อาจจะทำให้หายใจลำบากขึ้น ตอนนั้นก็คงพิจารณากันอีกที แต่ก็ต้องมีข้อบ่งชี้และอาการบอกในรายที่เลือดแข็งตัวผิดปกติ แต่ตอนนี้ทางผู้ป่วยเองยังไม่ถึงจุดนั้น แต่เนื้อเยื่อเราไม่เจาะแล้วครับ เจาะจากผลโรงพยาบาลก็ได้แค่นั้นก็พอแล้ว เพราะว่าทำเสร็จมันก็ไม่ได้ช่วยในการรักษา”
       
       เมื่อถามว่าเคสแบบนี้อยู่ได้นานเท่าไหร่? นพ. ประสิทธิ์ ก็เผยตรงๆ ว่าไม่ถึงเดือน
       “บอกเฉพาะเจาะจงไม่ได้ แต่ว่าไม่ช้า (ไม่ช้านี่ไม่ช้ายังไง?) ก็คงไม่เป็นเดือนครับ ไม่ช้าคือว่ามีโอกาสไม่ถึงเดือน จะบอกว่าพรุ่งนี้หรือมะรืนเราก็บอกไม่ได้ บอกได้เพียงระยะเวลา คือจากผลเลือดจะมีโอกาสเลวลงไปเรื่อยๆ ปัจจัยที่ทำให้เสื่อมลงก็การทำงานของตับและไต และของเสียที่ตกค้างอยู่ในร่างการ ตับก็ทำงานผิดปกติ ไตก็ทำงานผิดปกติ แล้วอาจจะมีการคั่งของของเสีย (เจ้าตัวจะอยู่ถึง 14 ก.ย.ไหมเพราะเป็นวันคอนเสิร์ต?) ก็กำลังลุ้นๆ อยู่นะครับ”
       
       “กับญาติเราก็ได้พูดคุยกันตั้งแต่เมื่อสองวันที่แล้วแล้ว เพราะว่าเราก็ต้องให้ครอบครัวเขาทำใจเรื่อยๆ ทำใจไว้ แล้วก็พูดกับภรรยาว่าจะย้ายเข้าไอซียูไหม หายใจเหนื่อยจะให้ใส่ท่อไหม ถ้าหายใจเหนื่อยจะให้หยุดปั้มไหม และเมื่อสองวันก่อนก็บอกว่าต้องการให้หยุดไม่ต้องให้ทำอะไร พอเมื่อวานเข้าไปปฐมพยาบาล เขาบอกว่าเขาขอคิดดูใหม่ แต่ยังไม่ได้เสนอว่าจะทำอะไรต่อ กำลังใจญาติเท่าที่ดูเขาก็ยังดูมีกำลังใจดีนะ ยังรับสถานการณ์ได้ดี”
       
       อาการแบบนี้หมอเครียดไหม?
       “คืออาการแบบนี้เราก็มีคนไข้อยู่แบบนี้แหละ พอเป็นแบบนี้แล้วมันถึงขั้นที่สมมติว่าเราให้เคมีบำบัดมันไม่ดีขึ้น มาถึงตอนนี้เราก็ต้องรักษาด้วยการประคับประคองไปเหมือนกัน”
       
       เผยในกรณีที่ผู้ป่วยอยากกลับบ้านเพื่อไปใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว ทางโรงพยาบาลก็ให้สิทธิ์ญาติในการตัดสินใจ
       “ก็แล้วแต่ญาติๆ ว่าเขาจะเอาแบบไหน ถ้าอยู่บ้านมีความสุขกว่า ก็ครอบครัวเขาอาจจะย้ายไปอยู่บ้าน ก็ไม่ได้ห้าม แต่อยู่ที่นี่ก็เหมือนอยู่ที่บ้าน เพียงแต่ว่าที่นี่เรามีสารอาหารให้”
       
       อาการแบบนี้เราสามารถยื้อต่อได้ไหม?
       “ก็ในเรื่องของไต เราก็สามารถล้างไตฟอกเลือดได้ แต่ในเรื่องของตับมันก็มีฟอกตับ แต่มันต้องใช้ค่าใช้จ่ายที่สูงมาก แล้วก็ไม่ได้ผล ไม่ได้รักษาให้หาย ถ้าร่างกายตับมันเสียไปในอย่างอื่นไม่ใช่มะเร็งพวกนี้ช่วยได้”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)