Author Topic: “แตงโม” รับอยากกอด “แต๊งค์” จริง พร้อมเคลียร์ข่าวยืมเงิน “กึ้ง” จน “จ๋า” โทร.วีน  (Read 614 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai




“แตงโม” ไม่สะท้านคนตั้งเพจ “คนอวดผัว” ขึ้นมาโจมตี บอกแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ของประเทศไทย แสบพอกัน เจ้าตัวเผยที่ลงรูปเพราะอยากให้คนที่แอนตีออกมาด่าเยอะๆ ตนจะได้บล็อกไปเลย ยิ่งด่ายิ่งทำให้ “โตโน่” กับตนรักกันมากขึ้น รับแชตไลน์บอก “แต๊งค์” ว่าอยากกอด และขอเป็นคนสุดท้ายจริง เพราะรู้สึกแบบนั้น พร้อมเคลียร์ข่าวยืมเงิน “กึ้ง” จน “จ๋า” โทร.วีนแตก
       
       หลังจากที่นางเอกสาว “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” ประกาศว่ากำลังคบหาดูใจนักร้องขวัญใจวัยรุ่น “โตโน่ ภาคิน วิลัยศักดิ์” ก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ออกมาเรื่อยๆ ยิ่งทวีความแรงเมื่อเจ้าตัวไปออกรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย แล้วได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตั้งแต่มีแฟนมาตนรักโตโน่มากที่สุด ถึงขั้นยอมตายแทนกันได้ ถ้าตอนนี้ไม่มีคนที่ชื่อโตโน่อยู่บนโลกใบนี้ตนคงนอนทุรนทุรายตรงพื้นนี้ ไม่ต่างอะไรกับการที่จะเสียพ่อไป ที่กล้าพูดขนาดนี้เพราะเราเป็นคนๆ เดียวกัน ซึ่งหลังจากที่รายการออกอากาศไปก็มีทั้งคนที่ชื่นชมในความรักของทั้งคู่ และหมั่นไส้หนักเข้าไปอีกถึงกับเปิดเพจ “คนอวดผัว” ขึ้นมาโจมตีแตงโมซะเละ กับเรื่องนี้เจ้าตัวเปิดใจเคลียร์ว่า….
       
       “กระแสในรายการดีมากเลยค่ะ คนก็เข้าใจและเปิดใจรับในเรื่องของเรามากขึ้น แล้วด้วยเวลามันสั้น 3-4 เดือนมันเป็นไปได้ยากที่คนเราจะมีความรู้สึกที่มันลึกซึ้ง เพราะฉะนั้นใครที่ได้ดูรายการก็จะเข้าใจมากขึ้นว่ามันเป็นเพราะอะไร แต่ถ้าใครจะมองว่ามันหวานเลี่ยนเกินไปกับคำว่าตายแทนกันได้ ก็มันได้แบบนั้นจริง คือโมมีความรู้สึกแบบนั้นตั้งแต่โมรู้ว่าเขามีความรู้สึกแบบนั้นให้เรานะคะ มันไม่ใช่ว่าพึ่งรู้สึกในรายการ”
       
       “แต่ก็ยอมรับค่ะ ว่ามันมีบางคนสร้างเพจว่าคนอวดผัวขึ้นมา ก็เป็น 5 เปอร์เซ็นต์ของประเทศไทยที่เราควบคุมไม่ได้ เพราะฉะนั้นอย่าเอามาใส่ใจเลยค่ะ ถ้าเราไปหมกมุ่นอยู่ 5 เปอร์เซ็นต์ แล้วอีก 95 เปอร์เซ็นต์มันไม่ยุติธรรมสำหรับเรา เพราะฉะนั้น 5 เปอร์เซ็นต์ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเพจหรือจะทำอะไรขึ้นมา ก็ต้องขอบคุณที่ทำสิ่งพวกนี้ขึ้นมาให้เราได้ฝ่าฝันอุปสรรคกันไป แล้วพ่อโมเองก็บอกว่าให้อดทน ยิ่งรักมันมีอุปสรรคมากเท่าไหร่มันยิ่งทำให้เราเข้มแข็ง ผ่านมันไปได้ เราก็จะภูมิใจ และเป็นผู้ที่เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคู่อื่นๆ ว่าถ้าเรารู้สึกดีๆ ด้วยกันจริงๆ เราต้องผ่านตรงนั้นกันไปให้ได้”
       
       “แต่ก็มีคำหยาบว่าเพจอันนั้นนะคะ ก็มีอีส้นเตี้ยอะไรแบบนี้ มีเยอะค่ะ อีสลัดก็มี แต่โมอ่านแล้วโมก็คิดว่าน้องเขาเป็นทุกข์ น้องเขาจิตใจร้อนรุ่ม เขาไม่เป็นสุขไม่สงบสุข เพราะฉะนั้นเราก็อย่าไปต่อล้อต่อเถียงกับเขา เราพยายามอยู่ของเราเฉยๆ บางทีเราโพสต์รูปให้เขาด่าก็เป็นส่วนหนึ่งที่ให้น้องระบาย อยากด่าโมโดยตรงมาเลยค่ะ ไม่ต้องไปทำเพจไม่ต้องไปเสียเวลานั่งพิมพ์ใหม่ แทนที่จะเอาเวลาไปนั่งทำการบ้าน โอเคมาที่หน้าโมนะ อยากเขียนอยากระบายอะไรก็เอาออกมา มันก็เป็นการช่วยน้องเขาอีกส่วนหนึ่ง พอหมดเวลาโมจะนอนแล้วโมก็ลบทิ้ง”
       
       ยันไม่เคยโมโหแม้โดนด่าในอินสตาแกรม
       “โมไม่เคยโมโหนะ ทุกคนจะรู้ว่าโมจะตลกที่โมออกมาคือง่ายๆ เลย คือโมล่อออกมาเพื่อจะได้บล็อกทีเดียว โมไม่เคยโมโหเลยค่ะ ทุกอย่างมันมาด้วยความตลก แต่เวลาเราอ่านเรารู้สึกกับมัน โมไม่ได้มีน้ำเสียงออกมาด้วยไง คนก็จะตีความไปเรื่อยๆ คิดว่าโมร้ายไปฉะกับเขาจริงๆ มันไม่ใช่หรอก โมแค่ล่อ ใครอยากว่าออกมาเลยนะ ก็ออกมาหมดนับได้เลยไม่เกิน 10 คนนอกนั้นชมหมด”
       
       “ก็มีรูปล่อว่าอันนี้ให้ด่าไม่ได้ให้ชมก็มี ไม่ใช่ว่าไม่อยากเจอกระแส แต่โมไม่อยากให้มารกมากกว่า โลกของเรากับโลกของเขามันคนละความคิดกันเลย ไม่ว่าโมจะบวชชีก็ตาม เขาก็จะไม่เห็นโมเป็นคนดีเพราะว่าอคติ หรือจะเพราะด้วยความเด็กของเขา เพราะส่วนใหญ่ก็จะเป็นเด็ก ซึ่งพอมันเป็นแบบนี้แล้ว มันเหมือนกับคนเราคุยกันคนละภาษายังไงมันก็ไม่รู้เรื่อง”
       
       ส่วนกระแสข่าวที่บอกว่า “จ๋า ณัฐฐาวีรนุช ทองมี” ออกมาพูดว่าเจ้าตัวยืมเงินหวานใจ “กึ้ง เฉลิมชัย มหากิจศิริ” ไปแล้วฝ่ายชายไม่ยอมบอกตนนั้น แตงโมแย้งว่า…
       “อันนี้ไม่ทราบเรื่องเลยนะคะ แล้วโมก็ไม่ได้ยืมค่ะ ยืนยันว่าไม่ได้ยืมค่ะ แต่ที่พี่จ๋าออกมาแบบนี้ก็อาจจะเป็นการที่เราจะเคยทำธุรกิจร่วมกัน แล้วพี่กึ้งอาจจะไม่ได้บอกเกี่ยวกับธุรกิจนั้น เพราะเรายังไม่ได้ทำก็เลิกรากันไป ว่าสุดท้ายแล้วเราก็เลิกทำกันไป ทุกคนลงเงินค่ะ ลงเงินเหมือนกันหมด (จะเคลียร์กับจ๋าไหม?) เขาก็โทร.มานะคะ แต่ว่าก็เคลียร์หลายเรื่อง ถ้าถามว่าเขาคุยดีไหม ก็ต้องไปถามเขาดู”
       
       “ถามว่าจะเคลียร์กับพี่จ๋าไหม ก็พี่เขาก็โทร.มานะคะ เคลียร์หลายเรื่อง แต่คุยดีไหมก็ลองไปถามเขาดูค่ะ เคลียร์แล้วก็คือว่าโมไม่ยุ่งนะคะ โมรู้สึกว่ามันคาราคาซังเหลือเกินกับเรื่องพี่กึ้ง ไม่จบสักที โมหนีก็แล้ว เขาโทร.มาเขาก็พูดด้วยความโมโห ฝ่ายชายนะไม่ได้โมโหโม เหมือนเป็นการระบายและปรึกษาเรายาวเลยค่ะ ปรึกษาในฐานะที่โมและพี่กึ้งรู้จักกันมาก่อน ว่าบางเรื่องบางมุมพี่กึ้งอาจจะยังไม่ได้เปิดกับพี่จ๋าขนาดนั้น โมก็พยายามบอกพี่จ๋าว่า ถ้าพี่จ๋าอยากจะคบกับเขาไปนานๆ ก็ต้องเข้าใจในตัวตนเขาว่าเป็นยังไง เพราะว่าโมจะรู้เห็นมาเยอะค่ะ เพราะว่าเราก็สนิทกันในระดับหนึ่งในฐานะพี่น้อง”
       
       ไม่รู้ “จ๋า” หึงหรือเปล่า
       “ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าหึงหรือเปล่า แต่ว่าโมก็อาจจะเป็นคนหนึ่งที่พี่กึ้งปรึกษาเรื่องพี่จ๋าเยอะนะคะ แต่กับพี่จ๋าจะเข้าใจโมหรือเปล่าก็ต้องไปถามเขา ว่าเขาจะเข้าใจโมหรือเปล่า โมก็ไม่รู้ว่าจริงๆ เขาเข้าใจโมหรือเปล่า เขาถึงออกมาพูดแบบนี้ โมบริสุทธิ์ใจแน่นอน ไม่อย่างนั้นโมคงลงเอยกับเขาไปแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะ แต่ไม่ได้เป็นไปในลักษณะนั้น แต่ถึงเขาจะมาเป็นลักษณะนั้นโมก็ไม่โอเคค่ะ แต่โมไม่เคยยืมเงินค่ะ อาจจะเป็นเพราะว่าเราเคยทำธุรกิจร่วมกัน พี่กึ้งอาจจะไม่ได้บอกถึงธุรกิจนั้นเพราะทุกคนลงเงินทุกคนลงเงินเหมือนกันหมด แต่โมไม่ได้ยืมค่ะ”
       
       บอกเบื่อกับข่าวที่ไม่จบสักที
       “โมเบื่อมากกว่า เบื่อในปัญหาของเขาสองคนแล้วมากระทบโม เพราะว่าโมช่วยเขาตลอดเลย ทำไมถึงไม่มองเห็นตรงนี้บ้าง เขาทะเลาะกันโมก็จูนให้เขาดีกัน (เห็นว่าจ๋าขอไม่ให้ยุ่งกับกึ้ง?) เขาไม่เคยขอนะคะ เพราะโมบอกเองว่าโมไม่ยุ่งมานานแล้ว ไม่ต้องเป็นแล้วพี่น้อง โมไปบอกพี่กึ้งแล้วไม่ต้องเป็นแล้วเพื่อนพี่น้อง เพราะถ้ามันยังเป็นแบบนี้หนูช่วยพี่แล้วพี่ทำให้หนูมีผลกระทบขนาดนี้ก็ไม่ต้องแล้วกัน โมก็พูดตามสิ่งที่มันเกิด ซึ่งโมไม่รู้ว่ามันพาดพิงใครหรือเปล่า กับพี่กึ้งไม่เอาแล้วค่ะ แต่กับพี่จ๋าคุยได้ โมสงสารพี่จ๋ามากกว่า เพราะว่าจากที่เขามาปรึกษาโม โมเห็นอกเห็นใจผู้หญิงด้วยกัน แล้วโมก็พยายามทำให้เขา คือโมเป็นคนกลาง ถึงโมจะรู้ว่าพี่กึ้งเป็นยังไง โมก็ต้องทำให้เขาดีกัน เพราะว่าถ้าทำให้เลิกกันมันบาป”
       
       ข่าวฉาวรุมหลายดอก ล่าสุดก็มีข้อความไลน์ที่ “แตงโม” คุยกับอดีตคนรักเก่าอย่าง “แต๊งค์ พงศกร มหาเปารยะ” ก่อนเปิดตัวคบกับ “โตโน่” ชนิดหวานหยดว่า อยากกลับไปมีความสุขกับเธออีก อยากกอด และขอเป็นคนสุดท้าย งานนี้นางเอกสาวก็ยอมรับว่า…
       “มันเป็นของโมค่ะ แต่ดูแล้วก็น่าจะรู้ว่าใครเป็นคนแคปเจอร์ คือมันเรื่องที่นานแล้วนะคะ อดีตทุกคนก็มีอดีตและตอนนี้เราอยู่กับปัจจุบัน แล้วที่ได้เห็นกันได้อ่านกันมันก็คือความรู้สึกจากใจเราจริงๆ เลยค่ะ ณ เวลานั้น แล้วโมก็ยังไม่เจอพี่โน่ ยังไม่รู้จักคนชื่อโตโน่เลย ตอนนั้นโมยังคุยกับคนอื่นอยู่เลย โมก็รู้สึกแบบนั้น ยืนยันว่าทุกครั้งที่โมมีความรักโมไม่อยากให้มีความเป็นไปหรอก แต่ในเมื่อมันผ่านไปแล้วโมอยู่ในปัจจุบันดีกว่า วันนี้เราอยู่กับการกระทำเรา ทำให้เห็นสิ่งสำคัญคือการกระทำของเราในปัจจุบันค่ะ”
       
       “แต่ว่าโมไม่สนใจนะคะ ว่าใครจะเป็นคนส่ง ถึงแม้ในอนาคตจะมีอะไรออกมา จะมีภาพหลุดออกมา มีไลน์แบบนี้ออกมา ถ้ามาจากโมจริงๆ โมก็จะออกมายอมรับ มันเป็นเพราะว่า ณ เวลาหนึ่งที่โมมีปัญหาจริงๆ โมคิดถึงทุกคน น้องๆ โมก็พิมพ์ไป โมก็ยอมรับว่ามันเป็นความรู้สึกที่แท้จริง ใครจะรู้ว่าเวลาในไลน์กับเวลาที่บอกไปมันเป็นเวลาไหน เวลามันห่างกันเท่าไหร่ (คนมองว่าเป็นแฟนคลับโตโน่ที่ทำ?)โมว่าไม่ใช่ทั้งแฟนคลับพี่โน่และแฟนคลับโม น่าจะเป็นคนที่หมั่นไส้ อย่าไปหาเลย หาก็หาไม่เจอ แต่ไม่หาคนปล่อยค่ะ มาเถอะ ไม่ฟ้องร้องด้วย ยิ่งมายิ่งรักกัน ยิ่งมายิ่งขอบคุณเลยค่ะ ยิ่งทำให้เรารักกันจริงๆ”
       
       “ต่อให้ต่อไปนี้มีอะไรหลุดออกมาเป็นสิบๆ อย่างก็ไม่สำคัญค่ะ ความสำคัญของเราสองคนจากนี้พี่โน่บอกเองค่ะว่าอย่าเอาเรื่องพวกนี้มาทำให้เราต้องบั่นทอนกันเอง พี่โน่ขออย่างเดียวว่าอย่าทำร้ายกันเอง ถ้าเรามั่นคงกันแบบนี้ใครก็ทำอะไรเราไม่ได้ พี่โน่เขาเข้าใจ บ้านโมเองก็ไม่เคยถามเรื่องอดีตของพี่โน่ ซึ่งโมคิดว่ามันก็ต้องมีเหมือนกัน แต่ว่าอาจจะไม่โดนขุดคุ้ยเหมือนโม ตัวพี่โน่เองก็ไม่สนใจในเรื่องอดีตของโม เราอยู่กันแค่ปัจจุบันและอนาคต”
       
       ฟุ้งทำรูปแฮปปี้เบิร์ธเดย์ “โตโน่” ในวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา
       “ทำรูป 9 รูป มันไม่ได้ยากหรอกค่ะ เพราะว่ามันมีแอปพลิเคชันทำได้ค่ะ ซึ่งพอพี่โน่เขาเห็น เขาก็ขอบคุณนะคะ เหมือนเป็นวันดีๆ ของเราอีกวันหนึ่ง แต่ยังไม่ได้ให้ของขวัญอะไรเลยนะ ยังติดอยู่เลย ยังติดจดหมายอยู่ฉบับหนึ่ง การ์ดอวยพรค่ะ เราก็บอกว่าเดี๋ยวหนูติดไว้ก่อนยังไม่มีเวลาเรียบเรียงเพราะว่ามันคงจะยาวมาก เดี๋ยวติดไว้ก่อน (หรือจะเป็นคำสั้นๆ คำเดียวก็พอ?) อันนั้นคงฟังบ่อยแล้ว (หัวเราะ) บอกรักทุกวันหรือเปล่าก็ไม่รู้สิ”
       
       เคลียร์เรื่องความรักแล้ว เลยถือโอกาสถามเรื่องที่เจ้าตัวทำสีผมมาใหม่ เพราะดูแปลกตาไปจากเดิม
       “ที่ทำเพราะว่าเก็บกดค่ะ ไม่ได้ทำสีผมมาประมาณ 3 ปีแล้วค่ะ ครั้งล่าสุดที่ทำตอนนั้นเป็นสีเทาเลย จากนั้นก็เล่นละครมาตลอด มันก็เริ่มเบื่อหน้าตัวเองเบื่อผมตัวเอง อยากจะทำอะไรใหม่ๆ พออายุมากขึ้นเราก็อยากทำอะไรใหม่ๆ ไม่เกี่ยวกับพี่โน่นะ ตอนทำเสร็จออกมาโมชอบจริงๆ นะ มีความฝันว่าอยากมีผมสีชมพู แต่ที่ทำออกมาได้ก็กึ่งชมพูออกส้มๆ ก็โอเคค่ะ เอาน่าชีวิตสักครั้งหนึ่งได้ทำอะไรบ้าๆ เพราะว่าจะเปิดกล้องเรื่องใหม่ตั้ง 3 เดือนเพราะว่าโมขอพักเขาไว้ 3 เดือนค่ะ ทางช่องก็โอเคค่ะ “
       
       “ซึ่งพี่โน่เห็นแล้วก็บอกว่าชอบๆๆ ก็บอกว่าสวยดีนะ ไม่ได้น่ากลัว เขาบอกเออสวย เขาไม่อยากจะเชื่อว่าคนเราถ้ามีผมสีชมพูได้เนี่ยมันจะไม่ตลก แต่ว่าเวลาล้างหน้ามันจะแย่เลยนะมันจะเหมือนคนป่วย”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)