“มะเดี่ยว” เผยไม่ได้รับผลกระทบ หลังวิจารณ์ “ฟ้าจรดทราย” จนโดนแฟนคลับถล่มด่า ลั่นยังใช้ชีวิตปกติสุขดี และยังชมละครเรื่องดังกล่าวอยู่ แจงวิจารณ์ตามประสาผู้ชมทั่วไปที่ออกมาจากใจ แต่ยอมรับวันนั้นมือบอนไปหน่อยเลยโพสต์ บอกโดนแฟนละครด่าก่อนเลยด่ากลับ ออกมาโพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นส่วนตัว หลังจากได้รับชมละคร “ฟ้าจรดทราย” จนกลายเป็นประเด็นใหญ่โต สำหรับผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง “มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล” ที่ออกมาวิจารณ์ว่าละครฟ้าจรดทรายเป็นละครด้วยข้อความว่า “ละครฟ้าจรดทราย Setting เป็นอาหรับ แต่ Art Direction เป็นงาน Roman หมด ไม่มีอะไรเป็น Muslim Art เลย ทั้งบ้านช่องห้องหอ คฤหาสน์ นี่ล่ะบันเทิงไทย”, “คุณชายนี่ถึงขั้นมีกระเป๋าโดโมะนี่ ดิชั้นเสื่อมศรัทธา”, “ถอดหายใจเฮือกๆ เบะปากใส่เพราะคำว่ายึดติด เฮ้อ” , “เบะปากใส่พวกทำงานห่วยๆ ด้วย”, “ละครเ...ยไร มุสลิมมา “พระพุทธเจ้าข้า” ดีเทลพวกนี้มันคือการใส่ใจ ไม่ใช่ยึดติด สิ่งเหล่านี้แยกมืออาชีพออกจากคนทำงานรับเงินไปวันๆ” ซึ่งข้อความดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับแฟนๆ ละคร จนเข้าระบายต่อว่าต่อขานกับผู้กำกับชื่อดัง งานนี้มะเดี่ยวเผยกับผู้สื่อข่าวถึงเรื่องราวดังกล่าวว่าในส่วนของตนเป็นการวิจารณ์ตามประสาผู้ชมคนหนึ่ง
“ไม่มีอะไร ยังใช้ชีวิตปกติดี ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เรื่องกระแสก็เป็นการพูดคุยกันทางอินเตอร์เน็ต ชีวิตจริงไม่มีผลอะไร มันเป็นการพูดวิพากษ์วิจารณ์กันธรรมดา กับพี่หลุยส์ (สยาม สังวริบุตร)ไม่ได้คุยครับ ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว เลยไม่รู้จะไปคุยอะไรกับเขา เราวิจารณ์ตามปกติในฐานะผู้ชมที่สามารถวิจารณ์หนัง วิจารณ์ละคร วิจารณ์เพลง ก็วิจารณ์ไปตามเรื่องตามแรง แต่มันก็เป็นธรรมดาที่คนจะเอาข้อความของผมไปต่อเป็นเรื่องเป็นราว อย่างครั้งก่อนคนก็คร็อปข้อความในอินสตาแกรมผมแล้วไปโพสต์ต่อ เขียนอะไรในเฟซบุ๊กคนก็คร็อปไปโพสต์ ผมเฉยๆไปแล้ว เป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นในโลกไซเบอร์ เราไปห้ามใครไม่ได้ก็เลยทำใจ เราไปด่าใครว่าใคร คนไม่พอใจก็มาด่าเราว่าเรา เราก็ฟังไม่ได้ลุกขึ้นมาตบกับเรา”
“ถึงจะวิจารณ์อย่างนั้นแต่ทุกวันนี้ก็ยังดูอยู่ครับ ผมดูละครทุกเรื่อง วันไหนดูละครแล้วมือบอนก็พิมพ์ด่ากันไป วันนั้นที่เกิดเรื่องก็มือบอนนิดนึง การดูหนังดูละครต้องดูหลายๆ คนถึงจะสนุก ถ้าดูคนเดียวจะมือบอน ต้องชวนพี่น้องมาดูเพราะดูไปก็เม้าท์ไป ถ้าไม่มีคนคุยด้วยก็หาคนเม้าท์ในเฟซบุ๊ก ส่วนตัวผมก็ผ่านการถูกวิจารณ์มาเยอะ เป็นธรรมดามาก ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นคนที่ทำงานด้วยกัน หรือว่าไม่ได้ทำงานด้วยกัน แต่มันก็คือการวิจารณ์ที่เอามาจากใจ ไม่ได้ผ่านการปรุงแต่งใดๆทั้งสิ้น”
“วิจารณ์ไปแล้ว แฟนละครของเขาก็มาด่าเราในเฟซบุ๊ก เบะปากใส่เราก่อน เราก็เบะปากใส่เขาบ้าง ในเมื่อฉันอยู่ในที่ของฉัน คุณกล้าเข้ามาว่าเราในที่ของเรา เราก็กล้าด่าคุณ จะว่าแลกเปลี่ยนทัศนะกันก็ได้ เขาด่ามา เราก็ด่ากลับ มันก็ไม่แปลกอะไร มีปากก็ด่ากัน ถ้าคุณเอาข้อความที่เราโพสต์ไปด่าในที่ของคุณก็ตามสบาย เหมือนเราอยู่บ้านของเรา คนชอบก็ชอบ เราก็ดูในเรื่องของคนทำงาน ก็อยากฝากให้ทุกคนติดตามละครด้วย
ลั่นไม่เกี่ยวรุ่นใหญ่รุ่นเล็กแล้วจะวิจารณ์กันไม่ได้ บอกดูที่ตัวผลงานเป็นหลัก
“ไม่เกี่ยวกับรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ เด็กมหาวิทยาลัยดูหนังผม เขาไม่ชอบ เขาก็ด่า ปกติมันเป็นความคิดของใครของมัน ในตัวตนเราก็นับถือในความอาวุโส แต่เรื่องผลงาน คือคุณแคร์ไหมเวลาคุณดูผลงานผม ว่าผมอายุเท่าไหร่ ไม่มีใครแคร์ ทุกคนดูที่ผลงาน วัดกันที่ผลงาน ไม่เกี่ยวกับอายุ หน้าตา”
ที่มา: manager.co.th