Author Topic: ปิดตำนานช่องเพลง “แชนแนล (วี)” ลาจอสิ้นสิงหาฯ นี้  (Read 746 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


 หลังออกอากาศมานานร่วม 17 ปี ล่าสุดก็เป็นอันแน่นอนแล้วว่าช่องดนตรีอย่าง “แชนแนล (วี) ไทยแลนด์” ได้เตรียมที่จะปิดฉากลาจอทีวีนับตั้งแต่สิ้นเดือนสิงหาคม พ.ศ.2556 นี้เป็นต้นไป
       
          โดยรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้จากการรายงานของกรุงเทพธุรกิจว่าทางบริษัท แชนแนล (วี) มิวสิค (ประเทศไทย) จำกัด ได้ออกมาเปิดเผยว่าผู้ถือหุ้นของบริษัท ตกลงใจร่วมกันเมื่อวันที่ 23 ส.ค.2556 ว่าจะยุติการดำเนินธุรกิจของบริษัทโดยมีผลในทันที
       
          ขณะที่ช่องรายการดนตรีที่บริษัทเป็นผู้ผลิตอยู่ คือช่องแชนแนล (วี) ไทยแลนด์ (Channel [V] Thailand) ซึ่งออกอากาศทางช่อง โดย ทรู วิชั่นส์ ผ่านดาวเทียม(ระบบดิจิตอล) ช่อง 84 และผ่านระบบเคเบิลใยแก้ว (ระบบอนาล็อก) ช่อง 31 นั้นจะยังคงออกอากาสไปจนถึงสิ้นเดือน ส.ค.นี้
       
          แชนแนลวีไทยแลนด์เริ่มออกอากาศครั้งแรกในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2539 ที่ UTV ช่อง 48 โดยเกิดจากการร่วมหุ้นระหว่าง สตาร์ กรุ๊ป และ Broadcasting Network Thailand (BNT) จากนั้นในปี พ.ศ.2550 แชนแนลวีไทยแลนด์ ได้ประกาศเข้าร่วมหุ้นกับ สตาร์ ทีวี (ร้อยละ49), ทรู วิชั่นส์ (ร้อยละ26) และ จีเอ็มเอ็ม มีเดีย (ร้อยละ25)
       
          สำหรับเนื้อหาของรายการส่วนใหญ่จะเป็นการนำเสอมิวสิกวิดีโอทั้งของไทยและต่างประเทศ รวมถึงรายการเพลงในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งที่ผ่านมาช่องดนตรีช่องนี้ได้มีคนบันเทิงร่วมงานรวมทั้งสร้าง “วีเจ” ให้กลายเป็นที่รู้จักหลายต่อหลายคน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นแรกๆ ในอดีต อย่าง นาเดีย นิมิตรวานิช, พอลล่า เทเลอร์, ลูกเกด เมทินี, เอิร์ธ ศัลย์, หาญส์ หิมะทองคำ, วีเจตะแง้ว, ชาย ชาตโยดม ฯ รวมถึงที่กำลังทำหน้าที่อยู่ในปัจจุบันทั้ง จ๋า ณัฐฐาวีรนุช ทองมี, วุ้นเส้น วิริฒิพา, พิตต้า ณ พัทลุง ฯ
       
          ทั้งนี้หลังจากมีข่าวการยุติการทำธุรกิจออกมา ในเฟซบุ๊กทางการของแชนแนลวี เองที่ https://www.facebook.com/channelvthailand ก็ได้มีบางส่วนเริ่มเข้าไปตั้งกระทู้ถามถึงเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ขณะที่ในส่วนของเว็บไซต์อย่าง http://www.channelvthailand.com นั้น พบว่ายังไม่มีการพูดถึง หรือมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่อย่างใด

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)