กสท.รับรองมาตรฐานเครื่องทีวีดิจิตอล 54 รุ่น 4 ยี่ห้อ คือ “พานาโซนิค โซนี่ แอลจี และซัมซุง” ระบุผู้ประกอบการต้องเข้ามาขอการนำเข้าจากต่างประเทศหรือการผลิตในประเทศอีกครั้ง
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช. ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ด กสท.เมื่อวันที่ 26 ส.ค. มีมติรับรองมาตรฐานเครื่องรับสัญญาณโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล (เครื่องทีวีดิจิตอล) 5 บริษัท ได้แก่บริษัท 1. พานาโซนิค เอวีซี เน็ตเวิร์คส์ (ประเทศไทย) จำกัด 2. บริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด 3. บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด 4. บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ 5.บริษัท ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ จำกัด รวมจำนวน 54 รุ่น ซึ่งทั้งหมดเป็นแบบเครื่องทีวีที่มีเครื่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลอยู่ในตัว (ตามมาตรฐาน DVB-T2) ทั้งนี้ ขั้นตอนต่อไปผู้ประกอบการทั้ง 5 รายจะต้องเข้ามาขออนุญาตเพื่อนำเข้าเครื่องทีวีดิจิตอลกรณีนำเข้าเครื่องจากต่างประเทศ หรือขออนุญาตทำการผลิตหากมีฐานการผลิตอยู่ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแก่ กสทช.อีกครั้งเพื่อนำไปสู่การกำหนดวางจำหน่ายภายในประเทศต่อไป ซึ่งคาดว่ากระบวนการขอนุญาตดังกล่าวจะใช้เวลาพิจารณาราว 3 วัน
ทั้งนี้ เมื่อมีการจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว ผู้ประกอบการทุกรายที่ได้รับอนุญาตจะต้องติดสติกเกอร์ “น้องดูดี” ที่หมายเลขเครื่องอย่างถูกต้องที่ตัวผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นที่วางจำหน่าย เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนว่าทีวีเครื่องนั้นสามารถใช้รับชมทีวีดิจิตอลได้
“ปัจจุบัน กสทช.ได้มีการทดลองออกอากาศทีวีดิจิตอลให้สามารถรับชมได้บริเวณพื้นที่กรุงเทพฯ และเชียงใหม่เท่านั้น”
บอร์ด กสท.ยังมีมติปรับแก้หนังสือเชิญชวนการลงทุน (IM) ประกาศ กสทช.เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกให้คลื่นความถี่ในกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ สำหรับการประมูลทีวีดิจิตอลช่องธุรกิจ 24 ช่อง ก่อนประกาศอย่างเป็นทางการตามสื่อต่างๆ ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ใน 2 ประเด็น ได้แก่ 1. การชี้แจงเรื่องราคาค่าเช่าโครงข่ายให้บริการสำหรับทีวีดิจิตอลอย่างน้อย 30 วันก่อนเปิดประมูล และ 2. จะมีการแจ้งลำดับกลุ่มที่มีการประมูลรวมทั้งวันที่มีการประมูลอย่างน้อย 15 วันก่อนมีการประมูล
พ.อ.นทีกล่าวว่า ที่ประชุมยังมีมติพิจารณาบทลงโทษช่องรายการแก๊งการ์ตูน ของบริษัทโรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด เนื่องจากมีการร้องเรียนรายการที่ออกอากาศบนโครงข่ายทีวีดาวเทียม เนื่องจากพบว่าช่องดังกล่าวมีเนื้อหาละเมิดศีลธรรมอันดีทั้งที่เป็นช่องรายการเด็ก ในลักษณะที่มีการข่มขู่ให้ตัวละครฝ่ายหญิงมีการถอดเสื้อออก รวมไปถึงมีท่าทางมีเพศสัมพันธ์อีกด้วย โดยขั้นตอนต่อไปบอร์ด กสท.ได้สั่งการให้สำนักงานกลับไปคิดบทลงโทษในกรณีดังกล่าวแล้ว
“กรณีนี้ถือว่าขัดต่อมาตรา 37 พ.ร.บ.ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ที่ว่าด้วยการห้ามออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาขัดต่อศีลธรรมอันดี และลามกอนาจาร”
Company Related Link :
กสทช.
ที่มา: manager.co.th
