Author Topic: “หมูหินดอทคอม” ถูกแฮก - เรียกค่าไถ่ เสียหาย 50 ล้าน  (Read 778 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


แฟ้มภาพ "เบญจพร สุขไตรภพ" หรือ "หมูเกียร์" ผู้ก่อตั้ง Moohin.com


ผู้ใช้จะไม่สามารถชมคอนเทนต์ใดๆผ่าน Moohin.com ได้ โดยจะพบเพียงข้อความอาฆาตเหล่านี้บนเพจ


หน้าเพจของ "Moohin.in.th" โดเมนเนมใหม่ที่ถูกตั้งขึ้นมาใช้งานแทน Moohin.com ชั่วคราว


แหล่งรวมสถิติการใช้งานเว็บไซต์ไทยอย่าง Truehits แสดงผลว่าผู้ใช้งาน Moohin.com มีจำนวนเป็น 0 ในขณะนี้

ผู้ก่อตั้งหมูหินดอทคอม (Moohin.com) อดีตเว็บไซต์ท่องเที่ยวอันดับ 1 ของประเทศไทยพร้อมรบทางกฎหมายเต็มที่เพื่อให้ได้ชื่อโดเมนเนม Moohin.com คืนมาโดยเร็ว เบื้องต้นประเมินโอกาสได้ชื่อคืนคือ 50:50 แต่ยืนยันไม่มีการจ่ายเงินค่าไถ่แน่นอน คาดหากไม่ได้รับโดเมนเนมนี้กลับคืนจนทำให้ผู้ใช้เข้าเว็บผ่านชื่อ Moohin.com ไม่ได้ อาจจะทำให้ต้นสังกัดสูญเงินมากกว่า 50 ล้านบาทในช่วงเวลา 5 ปีนับจากนี้ มั่นใจ “นายประกอบ” อดีตคนรักมือโปรแกรมเมอร์ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุแฮกเว็บที่เกิดขึ้น
       
       น.ส.เบญจพร สุขไตรภพ ผู้ก่อตั้ง Moohin.com กล่าวถึงกรณีที่เว็บไซต์ Moohin.com อดีตเว็บไซต์ท่องเที่ยวยอดนิยมของไทยซึ่งถูกแฮกเกอร์เข้าไปแฮกจนไม่สามารถใช้งานได้ตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.ว่า สถานการณ์ล่าสุดในขณะนี้คือ มีการสร้าง URL “Moohin.in.th” ขึ้นมาใช้งานชั่วคราวแทน Moohin.com ที่ถูกแฮก โดยผู้แฮกมีการโอนย้ายโดเมนเนม Moohin.com ไปที่บริการซื้อขายและจดทะเบียนชื่อโดเมนเนมชื่อดังของสหรัฐฯ อย่าง โกแดดดี้ดอทคอม (godaddy.com) โดยไม่เปิดเผยชื่อผู้จดทะเบียนหรือชื่อโจรที่ดำเนินการย้ายไป จุดนี้ น.ส.เบญจพรระบุว่ากำลังดำเนินการทางกฎหมายเพื่อให้ตำรวจไทยประสานงานกับหน่วยงานกำกับดูแลการจดทะเบียนโดเมนเนมของโลกอย่างไอแคนน์ (ICANN) เพื่อกดดันให้ godaddy ส่งคืนโดเมนเนมกลับมา

       
       หมูหินดอทคอม หรือ Moohin.com เป็นเว็บไซต์รวมแหล่งท่องเที่ยวสัญชาติไทยที่ให้บริการมาสิบปีแล้ว โดยรายได้หลักของเว็บไซต์มาจากการลงโฆษณาในฐานะสื่อด้านการท่องเที่ยว จุดนี้เบญจพรระบุว่า เมื่อแรกเริ่มพัฒนาเว็บไซต์ หมูหินใช้บริการจดโดเมนเนมและเช่าโฮสต์ที่สหรัฐอเมริกาทั้งหมด หลังพัฒนาได้ 3 เดือนจึงลงทุนซื้อเซิร์ฟเวอร์ของตัวเองแล้วติดตั้งที่ประเทศไทย แต่ยังคงใช้บริการจดโดเมนเนมในสหรัฐอเมริกาชื่อไฮเปอร์มาร์ท (Hypermart) เช่นเดิม
       
       กระทั่งวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา ผู้ใช้ Moohin.com ไม่สามารถเปิดชมคอนเทนต์ของ Moohin.com ได้ตามปกติ โดยพบเฉพาะข้อความสีแดงแสดงความอาฆาตชัดเจน โดยทั้งหมดนี้เบญจพรระบุว่าได้ติดต่อกับไฮเปอร์มาร์ทและโกแดดดี้แล้ว พบว่านักแฮกลงมือเจาะระบบ Moohin.com ด้วยการแอบอ้างเป็นเบญจพรผ่านอีเมล
       
       “อีเมลนั้นเป็นเมลแบรนด์ “ยาฮู” ที่ไม่ได้ถูกใช้งานนานแล้ว แฮกเกอร์ใช้อีเมลนี้ในการติดต่อกับไฮเปอร์มาร์ท ซึ่งสามารถลวงไฮเปอร์มาร์ทได้สำเร็จเพราะนักแฮกทราบรหัสผ่านในการจัดการโดเมนเนม ทำให้ไฮเปอร์มาร์ทย้ายโดเมนเนมไปที่โกแดดดี้ ทั้งหมดนี้เราได้เข้าแจ้งความเพื่อให้ได้เอกสารราชการที่มีการยืนยันความเป็นเจ้าของ Moohin.com อย่างถูกต้อง ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการแปลเอกสารเป็นภาษาอังกฤษเพื่อส่งมอบให้ ICANN ต่อไป”
       
       เบญจพรระบุว่า Moohin.com เป็นเว็บไซต์ที่มีรายได้จากการโฆษณา 99% ขณะที่ 1% เป็นรายได้จากพันธมิตรธุรกิจ เช่น บริการจองที่พัก-แพกเกจทัวร์ของ Agoda หรือ Google โดยปัจจุบัน Moohin.com มีพนักงานเต็มเวลา 13 คน เช่นแอดมินผู้ดูแลระบบ กราฟิกดีไซน์ และฝ่ายขาย และพนักงานอิสระหรือฟรีแลนซ์จำนวนกว่า 10 คน
       
       เบญจพรยอมรับว่าหลังจากมีรายได้เติบโตทุกปีไม่เคยตก แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมารายได้โฆษณาของ Moohin.com ลดลงหลังจากการเสียตำแหน่งแชมป์เว็บไซต์ท่องเที่ยวอันดับ 1 ของไทยให้เว็บไซต์ “อีดีทีไกด์ (EDTGuide.com)” แต่เบญจพรยืนยันว่า Moohin.com ยังสามารถจำหน่ายโฆษณาให้แบรนด์ใหญ่หรือบิ๊กเนมได้เนื่องจาก Moohin.com มีสถิติการคลิกโฆษณาหรือ CTR ที่ 1-2% มากกว่าเว็บไซต์อื่นที่มีไม่ถึง 1%
       
       ในมุมจำนวนผู้ใช้ เบญจพรระบุว่าวันนี้จำนวนผู้ชมหรือ UIP ของ Moohin.com ลดลงเหลือ 1.7-1.8 หมื่นคนต่อวัน จากที่เคยมี 8-9 หมื่นคนต่อวัน
       
       ประเด็นการฉ้อโกงที่ปรากฏในข้อความซึ่งแฮกเกอร์ทิ้งไว้บน Moohin.com เบญจพรคาดว่าอาจเป็นเพราะ Moohin.com มีการทำ SEO หรือการตั้งค่าเว็บไซต์ให้ Moohin.com สามารถปรากฏในหน้าผลการค้นหาอันดับต้นๆ บน Google นอกจากนี้ยังมีการจับตามองเรื่องอัตราโฆษณาอยู่ในระดับแพงไม่ธรรมดา ซึ่งเบญจพรย้ำชัดเจนว่ายังนึกไม่ออกว่าการฉ้อโกงที่ข้อความระบุนั้นหมายถึงอะไร
       
       เบื้องต้น เบญจพรเชื่อว่า ผู้เจาะระบบโดเมนเนม Moohin.com อาจเป็นคนไทย เนื่องจากภาษาอังกฤษที่แสดงบนเว็บไซต์ไม่เหมือนสำนวนชาวต่างชาติที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก โดยข้อความที่แสดงบน Moohin.com ในขณะนี้ระบุุว่าโดเมนเนมนี้ไม่ได้มีไว้ขาย และเว็บไซต์ Moohin.com ถูกงดให้บริการ เนื่องจากมี “เครือข่ายโฆษณาที่ฉ้อโกงอย่างรุนแรง” โดยทิ้งท้ายข้อความให้ทีมงาน Moohin.com คิดว่าทุกคนรู้ตัวอยู่แล้วว่าแอบทำอะไรไม่ดีซ่อนไว้ ซึ่งถึงเวลาที่ต้องชดใช้แล้ว
       
       เบญจพรระบุว่า ความหวังในการกู้คืนชื่อ Moohin.com นั้นมี 50:50 ซึ่งหากไม่ได้รับชื่อโดเมนเนมคืนก็จะไม่กระทบต่อแผนการจำหน่ายเว็บไซต์ Moohin.com โดยให้ข้อมูลว่ากลุ่มบริษัทซีดีจี (CDG) ต้องการซื้อ Moohin.com เพื่อดึงตัวเบญจพรไปร่วมทีมการตลาด ดังนั้นการซื้อหุ้น Moohin.com จะเป็นการซื้อโดยบางส่วนเพื่อให้เบญจพรได้ทำงานให้ CDG ขณะเดียวกันก็ยังสามารถบริหาร Moohin ได้ต่อไปในส่วนของแบรนด์
       
       นอกจากนี้ หากไม่สามารถกู้คืนชื่อ Moohin.com คืนมา ก็เชื่อว่าการสร้าง Moohin.in.th จะสามารถทดแทนได้เนื่องจากคอนเทนต์ทั้งหมดของ Moohin.com นั้นยังปลอดภัยดี และสามารถประสานให้ Truehits และ Google ให้ความสำคัญต่อลิงก์เว็บไซต์ Moohin.in.th แทน Moohin.com ซึ่งเชื่อว่า Moohin.in.th จะสามารถติดอันดับผลการเสิร์ชอันดับต้น และเป็นที่รู้จักในเวลาไม่นาน
       
       เบญจพรให้ข้อมูลว่า การเกิดขึ้นของ Moohin.com ในช่วงเวลา 9 ปีที่จดทะเบียนเป็นบริษัทนั้นสามารถทำเงินได้มากกว่า 40 ล้านบาท โดยโฆษณาทั้งหมดผ่านการปิดการขายจากมือเบญจพรทุกชิ้นแม้จะมีพนักงานไปเปิดการขายไว้ จุดนี้ทำให้การประเมินค่าเสียหายถูกแบ่งเป็น 2 กรณี คือกรณีรายได้จากการขายโฆษณาที่อาจได้รับผลกระทบจากที่เคยทำได้เฉลี่ยปีละ 10 ล้านบาท ซึ่งแผนที่เบญจพรวางไว้สำหรับ Moohin.com ในช่วง 5 ปีนับจากนี้จะสูญค่าไป เบ็ดเสร็จแล้วคิดเป็นเงินมากกว่า 50 ล้านบาท
       
       อีกกรณีคือการพลาดโอกาสในการขายเว็บไซต์ Moohin.com จุดนี้เบญจพรระบุว่าเคยได้รับข้อเสนอขอซื้อเว็บไซต์จากบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นมูลค่า 25-30 ล้านบาท แต่ตัดสินใจไม่ขายเนื่องจากเชื่อว่าบริษัทสามารถทำรายได้มากกว่านั้น
       
       อย่างไรก็ตาม ข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายในต้นสังกัด Moohin นั้นมีหลายประเด็น เนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมา Moohin.com เคยตกเป็นข่าวว่ากำลังเตรียมจำหน่ายเว็บไซต์ แต่กลับไม่มีการซื้อขายกิจการใดๆ โดยในครั้งนั้นเบญจพรให้สัมภาษณ์สำนักข่าว Thumbsup ว่าต้องการขายเว็บไซต์ Moohin.com เนื่องจากต้องการย้ายถิ่นฐานไปต่างประเทศ ซึ่งอาจทำให้การดูแลงานในประเทศไทยทำได้ไม่สะดวก
       
       แม้ Moohin.com จะถูกจดทะเบียนในชื่อบริษัท “อินโนเวชันโซน (Innovation Zone)” ภายใต้ชื่อเบญจพร สุขไตรภพ แต่ประเด็นเรื่องความเป็นเจ้าของเว็บไซต์ Moohin.com เคยถูกนำมาพูดถึงบนโลกออนไลน์ โดยเบญจพรเคยยืนยันว่าเป็นผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Moohin.com และไม่ได้เกี่ยวข้องกับนายประกอบ ปั้นมณี หรือ “นายสบาย” คนดังในวงการอินเทอร์เน็ตไทย เพราะการขายเว็บไซต์ Sabuy.com เมื่อช่วง 10 ปีที่แล้ว เพียงแต่นายประกอบเป็นอดีตสามี จึงได้มาช่วยดูแลด้าน “เนื้อหา” ในช่วงแรกจนระยะหลังได้หย่าร้างกันจึงแยกตัวออกไป
       
       เรื่องนี้เบญจพรยืนยันอีกครั้งว่านายประกอบนั้นเป็นอดีตสามีที่เขียนโปรแกรม Moohin.com ให้ตามที่เบญจพรวางแผนไว้ โดยเชื่อว่านายประกอบไม่เกี่ยวข้องกับกรณี Moohin.com ถูกแฮกในครั้งนี้
       
       ก่อนหน้านี้ Moohin.com เคยมีข่าวเชิงลบในแง่ปัญหาครอบครัว โดยมีบุคคลนิรนามโพสต์ข้อความกล่าวร้ายถึงนายประกอบ ปั้นมณีด้วยชื่อ “หมูหิน” พร้อมกับภรรยาน้อยที่ไม่มีการระบุชื่อว่าเป็นใคร ซึ่งสะท้อนว่า Moohin.com นั้นมีความเสี่ยงถูกโจมตีเพราะหลายสาเหตุ

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)