เอชพี (HP) ปรับตัวรับ “ไอทียุคใหม่” ผุด 4 แกนหลักลุยตลาดคลาวด์ บิ๊กดาต้า โมบิลิตี และซีเคียวริตี มั่นใจยังรักษาอัตราการเติบโตในระดับ 2 ดิจิตได้เช่นเดิม มองตลาดคลาวด์เป็นม้ามืดช่วยดันไอทีเติบโต
นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ และผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจเอนเตอร์ไพรส์ กรุ๊ป บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ด้วยเทรนด์ของพฤติกรรมผู้บริโภคในช่วงหลังจะมีการผสมผสานระหว่างคอนซูเมอร์ กับเอนเตอร์ไพรส์ ดังจะเห็นได้จากบุคลากรมีการนำอุปกรณ์ส่วนตัวมาใช้ทำงาน หรือนำอุปกรณ์ที่ทำงานไปนอกสถานที่ ทำให้ทางเอชพีต้องมีการปรับแนวทางในการทำธุรกิจให้รวดเร็ว และตอบสนองผู้ใช้งานได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น จึงเกิดแนวคิดที่จะยกระดับบริษัทสู่ “ไอทียุคใหม่” (New Style of IT)
“พฤติกรรมผู้บริโภคในยุคใหม่หันไปให้ความสำคัญต่อมือถือและแท็บเล็ตมากขึ้น ทำให้เอชพีต้องมีการก้าวเดินไปข้างหน้าเพื่อให้สามารถตอบสนองโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้รวดเร็วมากขึ้น”
ซึ่งเอชพีจะใช้ 4 แกนธุรกิจหลักในการเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานทั้งคอนซูเมอร์ และเอนเตอร์ไพรส์ ครอบคลุมทั้งระบบคลาวด์ ระบบรักษาความปลอดภัย ธุรกิจโมบิลิตี และบิ้กดาต้า ซึ่งถือเป็น 4 เทรนด์หลักที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจไอทีต่อไปในอนาคต
โดยทางเอชพีได้มีการทยอยปรับโครงสร้างองค์กรของ “ไอทียุคใหม่” แล้วในต่างประเทศ ด้วยการตั้งทีมงานขึ้นมาดูแลใน 4 แกนธุรกิจหลัก ซึ่งในประเทศไทยก็เริ่มมีการเพิ่มพนักงานมาดูแลโดยเฉพาะแล้ว และคาดว่าจะครบถ้วนในช่วงปีหน้า โดยหน้าที่หลักก็คือการบริหารกลุ่มบริการต่างๆ ของเอชพีให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าในแต่ละแกนธุรกิจ
สำหรับกลุ่มธุรกิจที่เอชพีคาดว่าจะมีการเติบโตมากที่สุดในปีนี้จะเป็นการให้บริการเกี่ยวกับคลาวด์ที่คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 100% ขณะที่กลุ่มอื่นๆ ก็จะเฉลี่ยอัตราการเติบโตอยู่ในระดับ 2 ดิจิต ทำให้ภาพรวมการเติบโตธุรกิจไอทีของเอชพีในปีนี้ก็จะอยู่ที่ราว 2 ดิจิตเช่นเดียวกัน
ในส่วนของการทำตลาดในปีนี้ เริ่มจากในกลุ่มคลาวด์จะเน้นการให้บริการไพรเวตคลาวด์กับตลาดภาคการศึกษา บริษัทน้ำมันและก๊าซก่อน ส่วนพับลิกคลาวด์ก็จะร่วมมือกับเซอร์วิสโพรวายเดอร์หลายแห่งที่ให้บริการในประเทศไทย โดยจะนำประสบการณ์ที่เอชพีใช้ในต่างประเทศเข้ามาประยุกต์ใช้เพื่อบริการต่อลูกค้าในประเทศไทย
ขณะที่ในกลุ่มธุรกิจบิ๊กดาต้าก็เริ่มนำระบบวิเคราะห์ข้อมูลเข้าไปใช้งานในภาคธุรกิจค้าปลีก ซึ่งตอนนี้ก็มีบริษัทรีเทลรายใหญ่ในประเทศนำไปใช้แล้ว พบว่าช่วยบริหารจัดการข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น ส่วนอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่จะเน้นต่อไปก็คือ กลุ่มองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ทั้งสายการบิน โทรคมนาคม และการเงินการธนาคาร
ส่วนในกลุ่มโมบิลิตี เนื่องจากเอชพีมีผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองการใช้งานตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ โดยเฉพาะล่าสุดที่ได้เริ่มวางจำหน่ายแท็บเล็ตแอนดรอยด์ Slate 7 ในราคา 4,990 บาท ก็เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าในกลุ่มนี้ให้มากขึ้นด้วย สุดท้ายกลุ่มธุรกิจซีเคียวริตี ก็เน้นในแนวทางเข้าไปตรวจสอบบริษัทที่สนใจเพื่อหาช่องโหว่ และเสริมการป้องกัน ในกลุ่มองค์กรธุรกิจเป็นหลัก
Company Relate Link :
HP
ที่มา: manager.co.th