“ปีเตอร์” คุกเข่าขอแฟนสาวแอร์โฮสเตส “พลอย” แต่งงานต่อหน้าสื่อ รับตอนนี้ฝ่ายหญิงตั้งครรภ์แล้ว 6 สัปดาห์ ำให้วิวาห์ที่แพลนไว้ต้นปีหน้าเลื่อนเร็วขึ้น เผยเตรียมจัดงานที่ไปรษณีย์กลางเป็นพิธีแบบไทยๆ ผสมฝรั่ง ส่วนสินสอดประมาณ 1 ล้านบาท ออกมาเซอร์ไพร์สแฟนๆ ด้วยการประกาศแต่งงานกับแฟนสาวแอร์โฮสเตส “พลอย พลอยพรรณ ทวีรัตน์” ล่าสุดหนุ่ม “ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล” ก็ควงแฟนสาวพลอย มาเปิดกับสื่อมวลชน โดยเผยว่าตอนนี้แฟนสาวของตนกำลังตั้งครรภ์ได้ 6สัปดาห์แล้ว จึงทำให้แพลนที่วางแผนไว้ว่าจะแต่งงานกันในปีหน้าเร่งขึ้น
ปีเตอร์ “ มีลิงน้อยตัวหนึ่งที่ได้เจอนางฟ้าคนหนึ่ง และก็หลงรักตั้งแต่แรกแล้ว อย่างที่ทุกคนเคยได้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าคนนี้แหละที่ผมจะแต่งงานด้วย น่าจะเห็นสีหน้าของผมตั้งแต่แรกที่สัมภาษณ์ครั้งแรกว่าบลิ๊งบล๊างตลอดเวลา ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ผมไม่เคยเจอมาก่อน เวลาผ่านไปก็หลงรักมากขึ้น"
"จริงๆ แล้วเรื่องแต่งงานเป็นเรื่องที่พูดกันมาตลอดเวลา พูดกันไปมาก็มีดีเทลมากขึ้นเรื่อยๆ มีโอกาสได้เจอพ่อแม่ของน้องพลอย น้องพลอยก็มีโอกาสเจอพ่อแม่ของผม ความฝันก็เริ่มเป็นจริง ทีนี้ก็มีไอเดียกันว่าถ้างั้นอยากให้พลอยบินไปดูบ้านเกิดผมที่เดนมาร์ก จะได้รู้ว่าที่มาที่ไปของผมเป็นยังไงและกลับมาก็แต่งงานกันเลย"
"แต่สิ่งที่มหัศจรรย์ยิ่งกว่าคือตอนนี้ผมอายุ 30 ปลายๆ ส่วนคุณพลอยก็ใกล้จะ 30 แล้ว ก็โตแล้วครับ วันที่จะเดินทางไปเดนมาร์กก็มารู้กันว่าจะมีน้องแล้ว เราเพิ่งรู้วันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ก็เลยแทนที่จะยืดเวลาออกไปเป็นปีหน้า ก็เป็นปีนี้ไปเลย ซึ่งก็คุยกันมาตั้งแต่แรกและเริ่มแพลนแล้ว”
พลอย “ตอนที่รู้พี่เตอร์น้ำตาไหลค่ะ ดีใจมาก พี่เตอร์เป็นคนรักเด็กอยู่แล้ว จริงๆ ก็อยากมีลูก ก็คิดว่าเมื่อไหร่ดี คืออายุพร้อมแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้แต่งงาน แต่พอมีแล้วมันแฮปปี้ ก็ตั้งครรภ์ประมาณ 6 อาทิตย์ ประมาณเดือนครึ่ง”
ปีเตอร์ “มันเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ตอนนี้คืออาจจะข้ามสเต็ปอะไรบางอย่างที่เป็นวัฒนธรรมไทยไปนิดนึง อันนี้ก็โอเคไม่ได้ตั้งใจ แต่ว่าสงสัยผมแม่นไปหน่อยรึเปล่า แต่ผมไม่กลัวกระแสอะไรนะทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องที่ดีหมดเลย มันไม่มีเรื่องที่ต้องกลัว เป็นเรื่องที่อยากจะทำมาสักพักนึงแล้ว"
"และตอนนี้มันมีบางอย่างที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ซึ่งทำให้ทุกอย่างเร็วขึ้น เราแพลนกันมาคิดกันมาตั้งนานแล้ว ครอบครัวเราพอรู้ก็แฮปปี้มากครับ พ่อผมน้ำตาไหลเช่นกัน อย่างที่ตั้งใจจะไปเดนมาร์กตั้งใจจะไปคุยเรื่องแต่งงาน แต่ดันมารู้ก่อนวันที่เดินทางไปว่าน้องท้องแล้ว”
พลอย “พลอยอยากได้ลูกสาวค่ะ ส่วนพี่เตอร์อยากได้ลูกชาย แต่ก็แล้วแต่ค่ะ จริงๆ อยากมีคนเดียว”
ปีเตอร์ “แต่คนที่ 2 3 4 5 ค่อยว่ากันอีกที ทีแรกผมคิดในใจว่าอยากมีลูก 4 คน แต่ค่อยๆ มีทีละคน”
พลอย “เรื่องแพ้ท้องไม่ค่อยแพ้เยอะ ก็มีเวียนหัว แต่พี่เตอร์มีอาการคล้ายกัน คือจะอยากนอนทั้งวัน ทานเยอะ เหนื่อยง่าย พี่เตอร์จะเก็บรายละเอียดทุกเม็ด อย่างเวลาลงบันไดปกติเขาจะเดินเร็ว ถ้าพลอยแตะไหล่เขา เขาจะเดินช้าลงเพราะว่าเราต้องการที่เกาะ เขาจะเดินช้าลง ส่วนเรื่องทานข้าวเขาก็จะห้ามเราทานปลาร้าเพราะห่วงว่าเดี๋ยวไม่สบาย เวลาเมื่อยหลังก็นวดให้ เขาดูแลดีค่ะไม่มีบ่น เหมือนเขาทำทุกอย่างเพื่อลูกเพื่อแม่จริงๆ”
แย้มขอฝ่ายหญิงแต่งงานตั้งแต่เดือนแรกที่คบกัน บอกเจอเจอกันครั้งแรกก็รู้ว่าคนนี้คือคนที่ใช่ทันที ด้วยหน้าตาและนิสัยที่คล้ายกัน
พลอย “รู้จักกันที่ จ.เชียงใหม่ค่ะ”
ปีเตอร์ “เรารู้จักประมาณปีนึงครับ ตอนนั้นผมไปเล่นคอนเสิร์ต แล้วทางทีมงานเขาขาดคน พลอยก็ไปช่วยดูแล แล้วก็ได้เจอกัน พอคุยกันไปมาก็รู้ว่าทำงานที่การบินไทย ก็เลยคุยเป็นภาษาเดียวกันเพราะครอบครัวผมก็ทำงานการบินไทย หลังจากนั้นก็ยังไม่ได้คุยกันต่อทันที แต่ว่าพอดีมันมีรูปที่ถ่ายกันไปมาแล้วผมอยากได้ พอได้รูปมาปุ๊บก็เริ่มคุยกันไปมาทางไลน์ ก็รู้สึกว่าน้องน่ารัก มีเสน่ห์มากๆ"
"ก็มีคนบอกว่าหน้าคล้ายกัน สงสัยจะเป็นเนื้อคู่กันแหละ นิสัยก็เป็นคนสนุก เฮฮาร่าเริงมาก ถามว่าเจอครั้งแรกอยากแต่งงานด้วยเลยไหมก็ไม่ขนาดนั้นแต่ก็ใกล้เคียงนะ นิสัยเรามีความคล้ายกันมาก เขาเป็นคนตลกของครอบครัว เหมือนผมที่เป็นตัวโจ๊กเหมือนกัน ดูสิครับหน้ายังเหมือนกันเลย ยิ้มปากกว้างเหมือนกัน ลูกคงปากกว้างถึงหู ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าเมื่อเราเจอคนที่ใช่ เราจะรู้ทันที ผมเจอเขาแล้วผมรู้ทันทีครับ"
"ถามว่าเวลาปีนึงน้อยไปไหมไม่เลยครับ เดือนนึงผมก็อยากแต่งแล้ว ถามว่าทำไมเป็นผู้หญิงไทยคนนี้ จริงๆ แล้วผมเจอผู้หญิงไทยมากกว่าฝรั่งนะ ผมก็เจอคนเรื่อยๆ แต่ยังไม่เจอใครที่ผมรู้สึกว่ามีเสน่ห์แบบอยากอยู่ด้วยตลอดเวลาและอยู่ด้วยกันตลอดชีวิตจนชั่วนิรันดร์ จะเป็นคนสัญชาติไหนก็แล้วแต่ไม่สำคัญ แต่คนที่เราเจอคนนี้เป็นคนที่สำคัญที่สุด พอเจอพลอยก็ใช่เลยครับ”
พลอย “พี่เตอร์เป็นผู้ชายที่ดีมากๆ เป็นคนติดดิน อะไรก็ได้ง่ายๆ ไม่อารมณ์เสียง่าย เป็นคนใจดีมากๆ เป็นคนนิสัยดีมาก จิตใจดี มีความอดทนสูง เคยคิดว่าดารามีความอดทนต่ำ ขี้วีน แต่พี่เตอร์เหมือนผู้ชายธรรมดาคนนึงไม่ใช่ดารา ก็รู้สึกประทับใจ เราเองได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาประมาณนึงแล้ว จริงๆ อยู่กับพี่เตอร์ก็จะดูแลได้ดีพอสมควรก็เลยเชื่อใจ อยู่กับเขาแล้วกัน”
ปีเตอร์ “จริงๆ ก็ไปๆ มาๆ ครับ ก็อยู่ 2 บ้าน แต่ตอนนี้ก็มาอยู่บ้านผมแล้ว เรือนหอเป็นบ้านผมไหมก็คงจะเป็นอย่างนั้นแหละครับ”
ลั่นพิธีแต่งงานจะจัดขึ้นในวันที่ 5 ต.ค. ที่ไปรษณีย์กลาง โดยงานจะเป็นแบบไทยที่มีกลิ่นอายฝรั่ง
ปีเตอร์ “ตอนนี้มีโอกาสได้ไปจัดงานในสถานที่พิเศษมากๆ คือไปรษณีย์กลาง ซึ่งมีเพื่อนซื้อไปแล้วและทำใหม่หมดเลยเพื่อเป็นสถานที่จัดงานโดยตรง และจะเป็นงานแต่งงานงานแรกเพราะเราจะแต่งในวันที่ 5 ต.ค. ซึ่งก็ได้เชิญญาติผู้ใหญ่ไว้หมดแล้ว แล้วเราไม่เอางานแต่งธรรมดาๆ ก็เลยกะว่าจะทำเป็นงานเดินพรมแดง มีฮาร์เลย์นำขบวน 10-20 คัน ผมจะนั่งเข้ามา งานจะเป็นแบบร็อกๆ ไม่เหมือนชาวบ้านเขา"
"คือผมเป็นพุทธอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นมันก็เป็นงานไทย เพียงแต่ว่ามีความเป็นฝรั่งสูง เพราะผมเติบโตที่นู่นครับ ผมไม่รู้พิธีแบบเป๊ะๆ แต่ผมขอใส่ความเป็นฝรั่งลงไปนิดนึง ก็คิดว่าอยากให้เป็นงานแต่งที่เท่ๆ ครับ อยากให้มีความสนุกสนาน ร็อกๆ เอ็นเตอร์เทนที่สุด ก็เลยจัดที่ไปรษณีย์กลางซึ่งเป็นอะไรที่สวยมากๆ ดูแล้วเท่มากเหมือนโคเปนเฮเกนหรือเวนิสตอนกลางคืนได้ครับ รับรองไม่มีใครทำมาก่อน ส่วนจะไปแต่งที่เดนมาร์กไหมก็เดี๋ยวคงต้องไปด้วย แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ได้แพลนอะไรมากมาย เอาที่นี่เป็นหลักก่อนเพราะว่าถึงผมจะโตที่นู่นแต่ที่นี่เป็นบ้านครับ”
โชว์คุกเข่าขอแต่งงานสาว “พลอย” ต่อหน้าสื่อมวลชน เผยที่ผ่านมายังไม่เคยคุกเข่าขอแต่งงานอย่างจริงจัง
ปีเตอร์ “จริงๆ ไม่ถึงขนาดนั้นครับเพราะว่า เราคุยกันไว้ว่าจะแพลนว่าจะแต่งงานสักวัน และไปคุยกันที่เดนมาร์ก แต่เรามารู้ข่าวดีก่อนก็เลยเหมือนอัตโนมัติว่าแต่งงานกันเลยดีกว่า”
พลอย “คือมันไม่ได้โรแมนติก แต่เราก็พูดกันตลอดว่าจะแต่งงานกันเมื่อไหร่ดี”
ปีเตอร์ “พี่ๆ ก็พูดถูก จริงๆ ผมก็ยังไม่เคยขอแต่งงานเลยนะ (ปีเตอร์ลงไปคุกเข่าทำท่าขอพลอยแต่งงานให้ช่างภาพได้เก็บภาพ ท่ามกลางเสียงกรี๊ดจากนักข่าว) ถามว่าให้ทั้งชีวิตเลยไหม ก็จนชั่วนิรันดร์ครับ”
ส่วนสินสอดการแต่งงานครั้งนี้ประมาณ1ล้านบาท
ปีเตอร์ “จะลงน้อยกว่าชาวบ้านไม่ได้ ก็คงต้องล้านนึงมั้ง(หัวเราะ)”
พลอย “คือจำนวนเงินมันไม่ใช่เรื่องสำคัญนะคะ เอาเป็นว่าเป็นเรื่องความดีที่จะอยู่ต่อไปได้นานแค่ไหนมากกว่า คือเงินเยอะก็ดี ใครๆ ก็ชอบ แต่ถ้าเงินเยอะไปแต่ความดีหรือสิ่งที่พี่เตอร์เป็นตอนนี้มันไม่เป็นตลอดไป เงินก็ไม่มีค่าค่ะ”
ที่มา: manager.co.th
